นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(21 มี.ค.) นายสุชาติ กลิ่นสุวรรณ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีพบชาวต่างชาติถูกรถแท็กซี่ปล่อยบนทางด่วน ว่า จากการสอบถามข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์ ได้ความว่า เกิดเหตุเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.50 น. พบชาวต่างชาติเดินมาบริเวณด่านอโศกสี่ จึงได้เข้าไปให้การช่วยเหลือ ชาวต่างชาติต้องการไปที่สำนักงาน กกท. ถนนสุขุมวิท จึงได้แจ้งทางลงทางบันไดให้ชาวต่างชาติ

ส่วนกรณีรถแท็กซี่ ไม่พบแท็กซี่คันดังกล่าว และไม่แน่ใจว่าจะถูกแท็กซี่ทิ้งตามที่เป็นข่าวหรือไม่ และแจ้งเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลสุวรรณภูมิ ได้ตรวจสอบกับกล้องวงจรปิด ปรากฏจุดที่ลงเป็นจุดอับของกล้อง และด่านเก็บเงินมีประมาณสิบกว่าช่อง จึงหาแท็กซี่คันดังกล่าวไม่ได้ ซึ่งภาพที่เห็นเป็นการส่งภาพกันเองภายในกลุ่มเพื่อนว่า ได้มีการช่วยเหลือชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการคาดเดาของผู้นำไปโพสต์ และผู้โดยสารต่างชาติกลุ่มนี้ ไม่ได้มีท่าทีโวยวายแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการกระทำของคนรถแท็กซี่จริง เข้าข่ายความผิดทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ความผิดถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที

ด้านนายเพ็ชร ชั้นเจริญ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้ง ณ จุดให้บริการรถแท็กซี่ที่ชั้น 1 บริเวณประตู 4 และประตู 7 รวมทั้งกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 ซึ่งมักมีผู้โดยสารขึ้นไปใช้บริการรถแท็กซี่ที่มาจอดส่งผู้โดยสาร เพื่อตรวจสอบหาแท็กซี่ที่ก่อเหตุ

เบื้องต้นจากการตรวจสอบ รถแท็กซี่ ณ จุดดังกล่าวไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของวันที่ 16 มีนาคม 2558 ช่วงระหว่าง 16.00 - 18.00 น. ไม่พบภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวใช้บริการรถแท็กซี่ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแต่อย่างใด นอกจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยอีกทางหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังไม่พบเช่นกัน

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการให้บริการแท็กซี่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และการท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากตรวจสอบทราบภายหลังว่าเป็นผู้ขับขี่รถแท็กซี่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กระทำการดังกล่าวจริง จะลงโทษห้ามไม่ให้บริการรถแท็กซี่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอดไป และแจ้งกรมการขนส่งทางบก ลงโทษตามกฎหมาย