เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีอดีตพระเกษม อาจิณณสีโล อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ให้กรมป่าไม้จ่ายเงิน 100 ล้านบาท หากต้องการยึดคืนพื้นที่ตั้งสำนักสงฆ์ฯ ว่า กรณีดังกล่าวมี 2 ส่วน คือการบุกรุกพื้นที่ 1 ไร่เศษ 2 งาน เพื่อสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุม โดยพนักงานสอบสวนส่งเรื่องให้อัยการฟ้อง แต่ปรากฏว่า ยังมีเรื่องสัญญาซื้อขายที่ดินในบริเวณดังกล่าว ที่มีชื่ออดีตพระเกษมรวมอยู่ด้วย สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลกจึงเสนอให้ฟ้องอดีตพระเกษมเพิ่มเติมอีกข้อหาหนึ่ง

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า อีกส่วนคือกรณีสำนักสงฆ์ที่ตั้งในพื้นที่ 100 ไร่นั้น ที่ผ่านมา กรมป่าไม้มีโครงการพุทธอุทยานฯ เพื่อทำงานร่วมกับพระสงฆ์โดยอนุโลมให้วัด สำนักสงฆ์ ที่พักสงฆ์ ที่ตั้งอยู่ในป่าสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ โดยร่วมกับกรมป่าไม้ในการดูแลพื้นที่ป่า และห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรและขยายพื้นที่เพิ่ม แต่เวลานี้อดีตพระเกษมต้องปาราชิก และพ้นสภาพพระสงฆ์ขาดคุณสมบัติไปแล้ว ทางสำนักจัดการทรัพยากรฯ ที่ 4 จึงเห็นว่า ผู้ที่จะดำเนินการต่อนั้นขาดเงื่อนไข และอยู่ระหว่างการเสนอเรื่องมาที่กรมป่าไม้ เพื่อให้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งต้องดูว่าเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนในภาพรวมจริงหรือไม่ และไม่ได้เป็นการเอาพื้นที่ไปหาประโยชน์ส่วนตัว และพระสงฆ์รูปใหม่ ที่คนยอมรับเข้ามาเป็นเจ้าสำนักต่อหรือไม่

ส่วนเรื่องที่อดีตพระเกษมเรียกเงิน 100 ล้านบาทแล้วจะคืนพื้นที่ให้นั้น เขามาอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของส่วนรวม คงให้ไม่ได้ เพราะเป็นพื้นที่หลวง การปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในพื้นที่ของทางราชการถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ และต้องว่ากันไปตามข้อกฎหมาย

ที่มา ข่าวสดออนไลน์