"Agents of Mystery" รายการเรียลลิตี้ล่าสุดของ Netflix สร้างความตื่นเต้นด้วยการนำดาราเคป๊อปอย่าง คาริน่า จาก aespa มาร่วมรายการ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในรายการวาไรตี้โชว์ของเธอ

โปรดิวเซอร์ของรายการ จองจงยอน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการสร้างรายการวาไรตี้เกมยอดนิยมอย่าง “The Devil's Plan” และ “The Great Escape” แบ่งปันความพึงพอใจในการค้นพบด้านใหม่ของนักร้องที่ห่างไกลจากความมีเสน่ห์และความเย้ายวนใจของในแบบของนักร้องเคป๊อป

“ทุกคนอยากรู้ว่าคาริน่าเป็นอย่างไรในชีวิตจริง และนี่เป็นโอกาสที่จะได้เห็นสิ่งนั้น … เพราะเธอไม่ได้ปรากฏตัวในรายการวาไรตี้จริงๆ จังๆ จนถึงตอนนี้ครับ” โปรดิวเซอร์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ The Korea Times ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในจงโน เขตโซล

“เธอเป็นบุคคลที่โดดเด่นในหมู่เกิร์ลกรุ๊ป K-pop และผมนึกถึงภาพลักษณ์ของเธอในฐานะเด็กผู้หญิงเพราะเธอเป็นไอดอล แต่จริงๆ แล้วเธอกลับไม่ใช่แบบที่ผมคาดคิดไว้ เธอพยายามทำตัวตลกมากกว่าที่คุณคิด และในฐานะหัวหน้าวงรวมถึงการเป็นสมาชิกที่อายุมากที่สุดของ aespa ทำให้เธอมีความรับผิดชอบและรู้สึกเหมือนเธอต้องรับผิดชอบและทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ ... ผมคิดว่าเธอจะเข้ากับรายการได้ดี และคิดว่าเธอทำได้ดีมากเลยครับ”

รายการเรียลลิตีลึกลับหกตอน ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นำเอาคนดัง 6 คน นักแสดงตลก อียงจินและอีอึนจี นักร้องคาริน่า อีฮเยริ และจอห์นพัค รวมถึงนักแสดงคิมโดฮุนมาเป็นตัวแทน เพื่อไขปริศนาอาถรรพณ์และทำภารกิจให้สำเร็จภายในเวลาหกชั่วโมง

รายการเรียลลิตี้นี้ติดตามเรื่องราวของเหล่าเอเจนท์ ในขณะที่พวกเขาต้องแก้ไขเหตุการณ์ลึกลับสองเหตุการณ์ ได้แก่ การช่วยเหลือผู้หญิงสามคนที่หายไปจากลัทธิที่อาจเป็นการเปิดประตูสู่นรก และการดึงข้อมูลจากเรือดำน้ำที่เต็มไปด้วยสัตว์ทะเลที่อันตรายถึงชีวิต

โปรดิวเซอร์ตั้งข้อสังเกตว่าเขาต้องการลดอายุโดยรวมของผู้เข้าร่วมรายการเพื่อให้โดนใจกลุ่มผู้ชมอายุน้อย

“ช่วงอายุหลักของผู้ชมสำหรับรายการของผม (เช่น 'The Great Escape') ยังค่อนข้างเด็ก ไม่ใช่แค่ช่วงอายุ 20 ปีเท่านั้น แต่ยังเป็นกลุ่มวัยรุ่นด้วย ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะตอบสนองต่อผู้ชมในกลุ่มอายุดังกล่าว ผมยังคงชอบแนวรายการทีวีแบบเก่า แต่ผมรู้สึกว่าเราควรมุ่งเน้นไปที่คนอายุน้อยกว่าด้วยครับ” เขากล่าว

“เมื่อเห็นผลลัพธ์แล้ว ผมรู้สึกว่ามันสูญเสียกลิ่นอายของวาไรตี้โชว์แบบเก่าไปมากเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าอันเก่าไม่ดี แต่ผมคิดว่ามันพัฒนาเป็นรูปแบบที่เข้าถึงได้และเป็นธรรมชาติมากขึ้นสำหรับผู้ชมอายุน้อยด้วย”

เนื่องจากรูปแบบที่คุ้นเคย ผู้ชมจำนวนมากจึงเปรียบเทียบระหว่างรายการกับรายการ "The Great Escape" ก่อนหน้านี้ของจองจงยอน นักวิจารณ์บางคนตั้งข้อสังเกตว่ารายการนี้ขาดความตื่นเต้นในแบบของ "The Great Escape" ซึ่งได้รับความนิยมจากการไขปริศนาที่สร้างสรรค์อย่างประณีตและฉากพล็อตแบบไดนามิก

โปรดิวเซอร์แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยโดยสิ้นเชิงกับคำตอบดังกล่าว แต่เขาพยายามหลีกเลี่ยงการสร้างรายการเรท R เพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงรายการได้มากขึ้น

“'The Great Escape' มีทั้งตอนที่เข้มข้นและไม่รุนแรง ผมแค่มีทิศทางทั่วไปสำหรับเรื่องราวและไม่ได้มีความตั้งใจเฉพาะเจาะจงที่จะทำให้รายการนี้มีความนุ่มนวลกว่าผลงานก่อน ๆ ของผม เพราะว่าแฟน ๆ 'The Great Escape' มักจะจดจำตอนที่สร้างความประทับใจให้กับพวกเขาได้ … แต่ถ้ารายการมีเรต R มันจะถูกจำกัดกลุ่มผู้ชม เราก็เลยคุยกับ Netflix เยอะมากในปัญหาของเรื่องนั้น” เขากล่าว

รายการใหม่นี้ค่อนข้างมีจำนวนตอนสั้น ๆ ซึ่งประกอบด้วยสองภารกิจเท่านั้น โปรดิวเซอร์ตั้งข้อสังเกตว่าเขาตั้งใจจะสร้างตอนน้อยลงเพื่อลดช่องว่างระหว่างแต่ละซีซั่น

“ผมก็เสียใจเช่นกันครับ ผมตั้งเป้าให้เนื้อหาสั้นลงแต่มาได้บ่อยขึ้น ในอดีต ผมลองทำถึงหกภารกิจซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีความท้าทายอย่างยิ่ง สิ่งนี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเราในการลดจำนวนตอนต่อซีซั่นให้น้อยลง” เขากล่าว โดยเสริมว่า Netflix ยังไม่ได้ตัดสินใจให้ไฟเขียวสำหรับการสร้างซีซั่นที่สอง