เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  globalgrind.com
 

         หลังจากกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในสหรัฐฯ กรณีผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีไอเอ) ได้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเอฟบีไอได้ตรวจพบว่าเขามีความสัมพันธ์ลับกับหญิงอื่น ล่าสุด เรื่องดังกล่าวได้บานปลายไปกันใหญ่แล้ว เมื่อเอฟบีไอพบว่าคดีชู้สาวนี้โยงใยไปถึงบุคคลระดับผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานด้วย
 

         เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า คดี ชู้สาวระหว่าง เดวิด เพเทรอัส ผู้อำนวยการซีไอเอ และพอลลา บรอดเวลล์ อดีตทหารอเมริกันผู้ร่วมเขียนหนังสือชีวประวัติของเพเทรอัส ได้โยงใยไปสู่การสืบสวนพลเอกจอห์น อัลเลน ผู้บัญชาการกองกำลังผสมไอเอสเอเอฟในอัฟกานิสถาน ซึ่งกำลังจะได้รับการ แต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารในระดับที่สูงขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เมื่อเอฟบีไอได้ตรวจสอบพบอีเมลราว 20,000 - 30,000 ฉบับ ที่พลเอกอัลเลน ได้ติดต่อกับ จิล เคลลี ซึ่งก็คือผู้หญิงที่ออกมาแจ้งเอฟบีไอว่าเธอถูกคนส่งอีเมลมารังควาน จนเอฟบีไอสาวไปถึงตัวพอลลา บรอดเวลล์ และนำมาซึ่งการเปิดโปงความสัมพันธ์ลับของเพเทรอัส กับบรอดเวลล์ ก่อนหน้านี้ 
 

         อย่างไรก็ดี ยังไม่ยืนยันว่าพลเอกอัลเลน และเคลลี มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันหรือไม่ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต่างวิตกว่า ข้อมูลที่สืบพบนี้อาจเป็นการติดต่อที่ไม่เหมาะสมจริง ขณะที่ทางพลเอกจอห์น อัลเลน เอง ยังคงยืนกรานว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด หรือทำการไม่เหมาะสมใด
 

         ทั้งนี้ จากการสืบพบอีเมลดังกล่าว ทำ ให้ลีออน พาเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ขอให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ชะลอการเสนอชื่อพลเอกจอห์น อัลเลน เป็นผู้บัญชาการกองกำลังยุโรปของสหรัฐฯ และผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังพันธมิตรในยุโรปไว้ก่อน จนกว่าจะสืบคดี นี้เสร็จสิ้น และระหว่างการสืบคดีนี้ ทางการสหรัฐฯ ก็ยังคงให้พลเอกจอห์น อัลเลน ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังผสมไอเอสเอเอฟในอัฟกานิสถานต่อไป

 

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม