|
ชาวเน็ตบางส่วนเริ่มมีกระแสตีกลับเกี่ยวกับเรื่องที่ก่อนหน้านี้สมาชิกวง FIFTY FIFTY ได้ออกมายื่นฟ้องบริษัทต้นสังกัด ATTRAKT
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า สมาชิกวง FIFTY FIFTY ได้ยื่นฟ้องขอระงับสัญญากับบริษัทต้นสังกัด ATTRAKT โดยระบุว่าตารางการทำงานส่งผลกระทบต่อร่างกาย นอกจากนี้สมาชิกในวงยังบอกว่ายังไม่ได้รับค่าตอบแทนของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางส่วนได้ยินข่าวลือซึ่งบอกว่า ซีอีโอของบริษัทได้ขายของใช้ส่วนตัวทั้งรถ และนาฬิกาแบรนด์ Rolex อายุ 10 ปี เพื่อนำมาเป็นทุนในการโปรโมทวง FIFTY FIFTY นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าหอพักของสมาชิกวง FIFTY FIFTY ก็สะดวกสบาย โดยมีห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 2 ห้อง
เมื่อพิจารณาว่าวงยังเป็นน้องใหม่อยู่ และเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนเพราะเพิ่งเดบิวต์มาได้แค่ 7 เดือน ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ อาทิ:
“ถอนหายใจ...เกิร์ลกรุ๊ปหลายวงเลยนะที่ต้องโปรโมทกันนานกว่านี้กว่าจะได้ค่าจ้าง...ถ้าพวกเธออดทนอีกนิด คงจะดีกว่านี้ เหมือนตอนนี้พวกเธอปิดกั้นเส้นทางของตัวเองไปแล้ว”
“สงสัยอ่ะ ไอดอลส่วนใหญ่ต้องทำงาน 7 เดือนถึงจะได้ค่าจ้างเหรอ? ถ้าให้ที่พักและอาหารแล้ว ก็คือต้องทำงานให้ฟรีเหรอ? ดูเป็นทาสไปป่ะ?”
“เวลาจะลงข่าวได้ ต้องผ่านบริษัทป่ะ เช็คข่าวกันก่อนดีกว่า”
“เป็นครั้งแรกที่สงสารซีอีโอ”
“ถ้าข่าวลือเป็นจริง ก็ติดตามวงนี้ไม่ลงล่ะ”
“เดบิวต์มา 7 เดือน ฟ้องบริษัทเรื่องค่าจ้างแล้วเหรอ?”
“ปกติไอดอลคนอื่นต้องเป็นหนี้หลังจากเดบิวต์ เพราะว่าเงินลงทุนก่อนหน้าหรือเปล่า? ได้ยินมาว่าต้องใช้เงินเยอะในการสร้างไอดอลขึ้นมาซักคน...คือก็ไม่รู้จักวงนี้ดีหรอก แต่ทำไมพวกเธอถึงมาฟ้องเรื่องค่าจ้างเร็วกว่าวงอื่นละ”
“รู้สึกแย่แทน ซีอีโอ ได้ยินมาว่าต้องใช้เงินเยอะในการสร้างไอดอลซักวงให้เป็นที่รู้จักได้”
แล้วคุณมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?
ที่มา allkpop