Dispatch เผยว่า Uzurocks เป็นหนี้ซงจีฮโย 900 ล้านวอน
2023-05-18 08:26:14
Advertisement
คลิก!!!

แต่ CEO ยังเอาเงินไปเช่ารถปอร์เช่และไม่จ่ายเงินให้กับพนักงานในบริษัท

 

จากรายงานสุด exclusive ของ Dispatch พัคจูนัม CEO ของ Uzurocks ไม่จ่ายเงินให้กับซงจีฮโยรวมถึงพนักงานในบริษัท เขาเลื่อนการจ่ายเงินให้กับซงจีฮโยถึง 8 ครั้ง โดยวันจ่ายเงินตามสัญญาคือวันที่ 10,12,28 กุมภาพันธ์, 10,31 มีนาคม และ 10, 30 เมษายน และอัพเดทการจ่ายเงินล่าสุดคือเดือนมิถุนายน แต่ดูเหมือนว่าจะล่าช้าอีกครั้ง โดยบริษัทเป็นหนี้ซงจีฮโยเป็นหนี้อยู่ 900 ล้านวอน ส่วนพนักงานตัวเล็ก ๆ ก็ไม่ได้เงินค่าจ้างเช่นกัน ซงจีฮโยพูดเองว่าเธอโอเคกับการรอ แต่พนักงานคนอื่นกำลังทุกข์กับความโลภของ CEO

 

“ฉันไม่เป็นไรเลยถ้าไม่ได้เงินในตอนนี้ แต่พนักงานคนอื่นที่มีทั้งหนี้บัตรเครดิต, โดยนกเลิกบัตรเครดิต รวมถึงถูดกตัดโทรศัพท์ล่ะคะ คุณพัคจูนัมเช่าปอร์เช่ประมาณ 2 ล้านวอนต่อเดือน เงินเดือนของพนักงาก็ราคาพอ ๆ กันนะคะ ค่าเช่ารถของคุณมันคือชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานนะคะ” – ซงจีฮโย

 

ไม่ใช่แค่ปัญหาที่ต้นสังกัดไม่จ่ายเงินให้ซงจีฮโยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีการที่บริษัทยึดมั่นในข้อตกลงทางธุรกิจที่หลอกลวง จนทุกคนในบริษัทต้องทนทุกข์กับคำโกหกของพัคจูนัม

 

พัคจูนัมขับรถปอร์เช่มาทำงาน เขาแต่งตัวหรูตั้งแต่หัวจรดเท้า และยังโกหกคนรอบข้างว่าตัวเองรวย แต่ความจริงเขามีหนี้สินมากมาย ทั้งยังไม่จ่ายเงินให้พนักงานของบริษัท และยังไม่ได้คืนค่าใช้จ่ายที่พนักงานได้รับจากการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับงานนั้น ๆ อีกด้วย

 

Uzurocks ก่อตั้งในปี 2019 โดยเน้นเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียเป็นหลักผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น YouTube และ Tik Tok พัคจูนัมเข้าสู่วงการบันเทิงจาก connection ของคนดังเพราะเขาสนิทกับอดีตสมาชิก S#arp อย่างอีจีฮเยที่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะคนบันเทิงคนหนึ่ง

 

Uzurocks ไม่เพียงแต่เป็นบริษัทบันเทิงเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของความงาม, สวนสนุก, อัลบั้ม และแม้แต่อุตสาหกรรมฟิตเนสด แต่การลงทุนทางธุรกิจทั้งหมดของเขาได้นำไปสู่การขาดทุนจนในที่สุด Uzurocks ก็ไม่มีเงินทุน มีอัตราส่วนกำไรสุทธิ -72.42% ในงบปี 2021 (ค่าใช้จ่ายของบริษัทสูงกว่ารายได้ 72.42%) ที่แย่กว่านั้นคืออัตราหนี้สินของบริษัทสูงถึง 214,820% (ถ้าสินทรัพย์ของบริษัทเท่ากับ $100 เขามีหนี้สิน $214,820)

 

พัคจูนัมอยากมีเงินเพิ่มขึ้น เขาจึงเริ่มโพสต์ข่าวของบริษัทภายนอกที่ลงทุนกับ Uzurocks เช่น Naver ลงทุน 10 พันล้านวอน และ Uzurocks เป็นหุ้นส่วนกับ Golfzon GDR

 

Dispatch ติดต่อทั้ง Naver และ Golfzon โดยทั้งสองบริษัทปฏิเสธว่าพวกเขาไม่เคยร่วมมือกับ Uzurocks

 

“นี่เป็นข่าวปลิอม เราจะดำเนินการทางกฎหมาย” - Naver

 

“เราได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ GDR ให้พวกเขาจริงแต่ไม่เคยมีข้อตกลงทางธุรกิจ” – Golfzon

 

“เคยคิดไหมว่าบริษัทที่มีซงจีฮโยในสังกัดจเก็บเงินค่าสมาชิกยิม” - เหยื่อ

 

ซงจีฮโยเป็นเหยื่อ

ตั้งแต่เซ็นสัญญาพิเศษกับ Uzurocks ในเดือนตุลาคม 2022 ซงจีฮโยยังไม่ได้เงิน Dispatch ยืนยันว่า Uzurocks เป็นหนี้ซงจีฮโยอยู่ประมาณ 900 ล้านวอน ไม่รวมกับค่าจ้างที่เธอไปออก Running Man เพราะเธอได้เงินส่วนนี้โดยตรงจาก SBS

 

วิธีที่ผู้จัดการของ Uzurocks ทำงานแตกต่างจากต้นสังกัดอื่น ๆ ผู้จัดการจะใช้จ่ายเงินซื้อสิ่งต่าง ๆ จากบัตรของพวกเขาและจากนั้นจะขอเงินคืนจากบริษัท บริษัทอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะให้บัตรบริษัทสำหรับค่าใช้จ่าย

 

ผู้จัดการต้องใช้จ่ายเงินที่ใช้ไปในการทำงานด้วยบัตรของพวกเขาเอง ด้วยวงเงินบัตรเครดิตส่วนบุคคลที่ 1 ล้านวอน ผู้จัดการบางคนจึงต้องคำนวณค่าใช้จ่ายด้านน้ำมัน, อาหาร และเครื่องดื่มนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายส่วนตัวของพวกเขาเองแม้ไม่ได้ทำงาน และ Uzurocks ก็ไม่จ่ายเงินคืนให้

 

เมื่อซงจีฮโยรู้เรื่องนี้ เธอก็ดำเนินคดีทางกฎหมายทันที โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินว่าทีมงานของเธอคนหนึ่งไม่สามารถจ่ายหนี้บัตรเครดิตได้ตรงเวลา

 

“คุณซงจีฮโยให้บัตรของเธอเอาฉัน/ผมไว้ใช้จ่ายเวลาออกไปทำงานนอกสถานที่” – พนักงานของ Uzurocks

 

ในที่สุดซงจีฮโยก็เลือกที่จะดำเนินการทางกฎหมายและส่งคำร้องขอเงินคืนจากบริษัท บริษัทตอบว่าพวกเขาต้องการเวลามากกว่านี้ในการหาเงินมาคืนให้ โดยใช้ข้อแก้ตัวเช่น "เราจะคืนเงินให้เร็ว ๆ นี้", "บัญชีธนาคารของบริษัทถูกระงับ", "เราจะได้ลงทุนกับต่างประเทศเร็ว ๆ นี้" หรือ "ตอนนี้นักลงทุนได้มาถึงเกาหลีแล้ว" แต่ทุกครั้งก็ไม่มีการจ่ายเงินให้คนในบริษัทเลย เมื่อวันที่ 27 เมษายน พัคจูนัมลาออกทันที ซงจีฮโยจึงยื่นฟ้องบริษัทเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม

 

พนักงานที่ถูกเอาเปรียบ

Dispatch ไปพบพนักงานของ Uzurock 6 คน อายุตั้งแต่ 20-30 ปี เงินเดือนเฉลี่ยต่อปีสำหรับพนักงานหกคนอยู่ที่ 27ล้านวอน ค่าจ้างขั้นต่ำในเกาหลีในปัจจุบันอยู่ที่ 9,620 วอนต่อชั่วโมง หมายความว่าค่าจ้างขั้นต่ำประจำปีสำหรับงานเต็มเวลาอยู่ที่ 24.1 ล้านวอน แต่จำนวนเงินที่พนักงานได้รับจริงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.00 ล้านวอน และพนักงานส่วนใหญ่ก็เพิ่งเริ่มชีวิตการทำงานด้วย

 

ในเดือนกุมภาพันธ์ พนักงานบางคนได้รับจดหมายว่าค้างชำระหนี้ บริษัทไม่ได้จ่ายเงินบำนาญแห่งชาติ (ในเกาหลี นายจ้างต้องบริจาค 50% ให้กับเงินบำนาญของลูกจ้าง พนักงานคิดเป็น 4.5% ของเงินเดือน และบริษัทคิดเป็น 4.5% ของเงินเดือน) พนักงานเผยถึงความเดือดร้อนเพราะ Uzurocks ไม่จ่ายเงินให้พวกเขาตรงเวลา

 

“ผมไม่สามารถใช้ชีวิตได้เลยเพราะไม่ได้เงินเดือนตรงเวลา ทั้งค้างชำระหนี้บัตรเครดิตและต้องยกเลิกบัญชีธนาคารรวมถึงขอเงินพ่อแม่ใช้” - พนักงาน "A"

 

“ฉัน/ผมจ่ายค่าบัตรเครดิตไมได้เพราะไม่ได้เงินเดือนตรงเวลา หลังจากน้นแม้แต่บัตรโดยสารก็ถูกระงับ และยังได้รับแจ้งว่าทรัพย์สินจะถูกยึดจากบริษัทบัตรเครดิต” พนักงาน "B"

 

Dispatch ได้สอบถามเพิ่มเติมและทราบว่าพนักงาน "B" ต้องจ่ายค่ารักษาทุกเดือนเพราะเจ็บป่วยเรื้อรัง แต่ก็ต้องจ่ายเงินล่าช้ารวมทั้งไม่ได้ไปหาหมอตามนัด สุดท้ายพนักงาน "B" ก็ล้มป่วย และแม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล

 

“ฉัน/ผมอยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือของพ่อแม่ พอถามว่าทำไมจ่ายเงินเดือนช้า บริษัทบอกว่าบริษัทกำลังเติบโต แต่ไม่นานหลังจากนั้นฉัน/ผมก็โดนไล่ออก พวกเขาบอกว่าเงินลงทุนจะมาจากอิตาลี นักลงทุนยังมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการของบริษัทจึงขอเลิกจ้าง บริษัทจะมีกำไรมากขึ้นถ้าจ้างคนภายนอกแทน” - พนักงาน "C"

 

เรื่องราวที่เล่าโดยพนักงาน "D" และ "E" คล้ายกัน พวกเขาเผยว่าซงจีฮโยจะช่วยโดยการอนุญาตให้พวกเขาใช้บัตรเครดิตของเธอสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เมื่อบัตรเครดิตของพวกพนักงานใช้ไม่ได้ พอซงจีฮโยยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดจนเป็นข่าวใหญ่โต พนักงานจึงได้รับเงินบางส่วน แต่ยังคงได้เงินไม่ครบจนถึงการทำงานเดือนเมษายน

 

ซงจีฮโยดูแลพนักงานใน Uzurocks เป็นอย่างดี

ต้นสังกัดของซงจีฮโยขอบคุณ Dispatch ที่รับฟังเรื่องราวของพนักงานที่ได้รับความเดือดร้อนจาก Uzurocks และได้แสดงความต้องการของพวกเขาที่อยากจะได้เงินให้ครบจากการทำงานอย่างหนัก

 

พนักงานยังเผยเรื่องที่ซงจีฮโยช่วยเหลือพวกเขาในช่วงวิกฤตทางการเงิน

 

“ปีที่แล้ว ผมประสบอุบัติเหตุต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้งและค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลสูงกว่า 10 ล้าน ผมไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ แต่คุณซงจีฮโยจ่ายค่ารักษาให้หมดเลย และมันอยู่ในช่วงโควิดเลยไม่มีใครมาดูแล ผมได้ แต่คุณซงจีฮโยมาหาผมตอนกลางคืนและพูดคุยด้วย เธอคอยอยู่ข้าง ๆ ตอนที่ ผมรักษาอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน และอยู่ข้าง ๆ ผมอีกตอนผมออกจากกรม หมอยังเซอร์ไพรส์เลยครับ” - พนักงาน "A"

 

“คุณซงจีฮโยมักจะจ่ายค่าแท็กซี่หลังจากคุยกันเรื่องตารางงานเสร็จ พอผู้จัดการยุ่งเธอก็จะขับรถพาเราไปทำงานต่อไปด้วยตัวเอง สำหรับฉันเธอไม่ใช่ดารา แต่เป็นพี่สาว” - พนักงาน "F"

 

ท้ายสุด ต้นสังกัดของซงจีฮโยก็จบลงด้วยการบอกว่าพวกเขาหวังว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง


ที่มา Dispatch

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X