อีจีฮุน (Lee Ji Hoon) ออกมาชี้แจงหลังจากมีข่าวลือของเขาเกี่ยวกับซีรีส์เรื่อง “Sponsor” ที่กำลังจะลงจอ

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าว YTN Star รายงานว่า หนึ่งในทีมงานซีรีส์เรื่อง “Sponsor” ออกมาบ่นในห้องแชทของทีมงานเกี่ยวกับหนึ่งในนักแสดงของซีรีส์ ทั้งโปรดิวเซอร์ของซีรีส์ และต้นสังกัดของ อีจีฮุน ได้ออกมาชี้แจงผ่านจดหมายขอโทษถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

วันเดียวกัน นักเขียนบท พัคกเยฮยองได้ออกมาอ้างว่าเขาถูกไล่ออก เนื่องจาก อีจีฮุนไปเรียกร้องเรื่องแอร์ไทม์ของเขา ข้อเรียกร้องของเขาทำให้ทีมงานของซีรีส์ “Sponsor” ครึ่งหนึ่งถูกแทนที่โดยไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้า อย่างไรก็ตาทั้งทีมผู้ผลิตซีรีส์และต้นสังกัดของอีจีฮุนได้ออกมาปฏิเสธว่าเรื่องที่นักเขียนบทถูกไล่ออกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับอีจีฮุน

และเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน อีจีฮุน ได้โพสข้อความผ่านทางอินสตาแกรม เล่าเรื่องจากฝั่งของเขา และบอกว่าเขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับข่าวลือไม่เป็นความจริงที่เกิดขึ้น ตามข้อความด้านล่างว่า:

“สวัสดีครับ ผม อีจีฮุน

ผมขอโทษที่เพิ่งออกมาเล่าเรื่องของฝั่งตัวเอง โดยไม่มีขอโต้แย้ง ผมขออภัยจากใจจริงที่เป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเพื่อนของผมและผู้กำกับเวทีในกองถ่าย พูดตามตรงเลยคือผมไม่รู้ว่าพวกเขาพูด [ถึงผม] ต่อกันอย่างไร แต่มันคือความผิดของผมที่เพื่อนของผมมาที่กองถ่ายเพื่อมอบของขวัญให้
หากผู้กำกับเวทีรู้สึกไม่สบายใจกับสถานการณ์นั้น ผมขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ ผมจะทำให้แน่ใจว่าเพื่อนของผมจะไม่มาเยี่ยมที่ถองถ่ายอีกในอนาคต

อย่างไรก็ตามถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมอยากให้ทุกคนฟังเรื่องราวในมุมของผมด้วยเช่นกัน ผมอยากจะซื่อตรง เพราะว่ามีหลายเรื่องที่กล่าวเกินจริงและถูกบิดเบือน ผมออกมาพูดตอนนี้เพราะคิดว่าไม่สามารถ [นั่งและมองจากข้างหลัง] ได้อีกต่อไป

จากกระทั่งถึงตอนนี้ การถ่ายทำเป็นไปได้ด้วยดี และผมไม่ได้มีปัญหาใหญ่กับทีมงานคนอื่นในกองถ่าย ถึงแม้ผมจะยังขาดตกบกพร่อง แต่ผมก็พยายามอย่างเต็มที่และทำงานอย่างหนักเพื่อทำออกมาให้ดี พูดตามตรง ก่อนหน้านี้ผู้กำกับเวทีก็เคยทำพฤติกรรมหยาบคายต่อผู้จัดการของผม, นักข่าวที่มารอที่กองถ่ายเพื่อสัมภาษณ์, นักแสดงประกอบฉาก และผม หลังจากได้เห็นอะไรแบบนั้น อาจเพราะผมยังมีความเป็นคนอยู่ ผมเลยรู้สึกไม่ดีกับมัน และมันคือเรื่องจริงที่ผมคิดว่า ‘คนเหล่านั้นก็แค่ทำงานของพวกเขา และ [ผู้กำกับเวที] ก็ควรพูดดีๆกับเขา ทำไมถึงทำหยาบคายกับพวกเขาแบบนั้น?’

เพราะว่ากองถ่ายสามารถกลายเป็นสถานที่ที่ทำให้ทีมงาน, นักแสดง, ผู้จัดการ และทุกคนรู้สึกไม่สบายใจได้ ผมเลยพยายามทำความเข้าใจ และบอกกับตัวเองว่า ‘มันเกิดขึ้นได้’ แต่ถ้าไม่มีเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผมคงไม่มีความคิดต่อผู้กำกับเวทีแบบนั้น

ผมยังคงทำงานได้ดีกับผู้กำกับเวทีคนอื่น, ทีมงาน, ผู้กำกับคนอื่น คนที่ผมร่วมงานมาตลอด 9 ปีที่ผ่านมา และยังคงติดต่อกันอยู่เสมอ การที่คุณพูดว่าผมกำลังอยู่ในช่วงขาลงหมายความว่าอะไร? หลังจากได้เห็นบทความและวิดีโอเกี่ยวกับตัวเอง พูดตามตรงเลยคือตอนที่ต้นสังกัดของผมออกมาชี้แจงตอนแรกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมหขอโทษเฉพาะในสิ่งที่ผมทำผิด และผมไม่คิดว่าต้องขอโทษในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ แต่พอได้เห็น [คำกล่าวหา] ยังคงมีออกมาเรื่อยๆทั้งที่ [ผม] ไม่ได้ทำเรื่องนั้น ผมคิดว่าผมไม่ควรปล่อยมันไปอีกแล้ว ผมเลยเขียนข้อความนี้ขึ้นด้วยความซื่อตรง

สิ่งแรกที่ถูกบิดเบือนคือเรื่องที่เกิดขึ้นเช้าวันนั้น เพื่อนของผมไม่ได้จัดงานวันเกิดให้ผม แต่มีแฟนคลับของผม 2 คนมาหาตอนเช้าและเตรียมอาหารให้กับทีมงานทุกคน ซึ่งผมรู้สึกขอบคุณมาก และการเลี้ยงฉลองจัดขึ้นในช่วงสั้นๆบริเวณลานจอดรถหลังจากการถ่ายทำตอนเช้าสิ้นสุดลงแล้ว เรื่องมันก็มีแค่นั้น

เรื่องที่สอง ข่าวลือน่าขำที่บอกว่าผมถอดกางเกงแล้วเรียกร้องความสนใจ ผมสาบานเลยว่าไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ทีมงานทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและรู้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง เวลาเราไปถ่ายทำข้างนอกแทนที่จะเป็นฉากในสตูดิโอ มันไม่มีที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ผมเลยต้องเปลี่ยนในรถ ในห้องน้ำ บนถนน หรือในซอย และทุกครั้งที่เปลี่ยน จะมีทีมงานมาบังไว้ให้เสมอ

เรื่องที่สาม เรื่องที่เพื่อนของผมทะเลาะกับผู้กำกับเวที มันไม่เป็นความจริงเลยที่ผมพยายามเข้าข้างเพื่อน ผมพยายามห้ามพวกเขาต่างหาก ทีมงานในกองถ่ายก็เห็นเรื่องนี้ สายตาของผมบอกกับเพื่อนของผมว่า ‘ทำไมนายถึงทำแบบนี้?’ ไม่ใช่บอกว่า ‘ทำไมถึงยั่วโมโหฉันละ?’ และบอกกับผู้กำกับเวทีว่า ‘ฮยอง อย่างทำแบบนี้เลย’ ทั้งหมดก็มีแค่นี้ และผมก็รอจนกระทั่งถ่ายทำเสร็จ ก่อนจะไปบอกกับยองฮวาน [ผู้กำกับเวที] ว่า ‘ฮยอง ผมอยากจะขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของผม’ แต่เขาบอกว่า ‘อย่าเข้ามาใกล้ฉัน อย่าแตะตัวฉัน ฉันคุยกับทนายเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว นายคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องมาเฟียและพวกปล่อยกู้นอกระบบเหรอ?’ ผมเลยไม่สามารถขอโทษเขาได้โดยตรง สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการพูดคุยของผู้กำกับเวทีกับเพื่อนของผมสามารถตรวจสอบได้ถ้าหากว่ามีกล้องวงจรปิด

เรื่องที่สี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนักเขียน หากเหมือนที่บทความและคอมเม้นท์ของหลายคนบอก ผมถามหน่อยว่าผมเป็นใครถึงกล้าจะไปเปลี่ยนนักเขียน? ผมไม่มีอำนาจไม่ใช่เหรอ? แต่ตอนที่เราเริ่มต้นถ่ายทำ ผู้กำกับได้อธิบายตัวละครให้ผมฟัง และผมบอกกับผู้กำกับไปทาง KakaoTalk ว่าผมจะเชื่อมือเขาและทำตาม [การตัดสินใจของเขา] ผมยังมีแชท KakaoTalk กับผู้กำกับอยู่เลย หากนักเขียนพยายามพูดเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและทีมบริษัทผู้ผลิตโดยดึงผมเข้าไปเกี่ยวด้วยอีก ผมจะโพสข้อความแชทใน KakaoTalk [ที่ได้พูดคุยกับผู้กำกับ]

เรื่องที่ห้า ผมไม่โอเคที่เกี่ยวกับเรื่องที่บอกว่าผมกำลังหมดอำนาจ จริงๆนะมันไม่มีอะไรในโลกที่บอกว่าตัวผมมีอำนาจ แต่ข่าวเอาไปเขียนเกินจริง และกลายเป็นว่าตอนนี้มีบทความที่เขียนว่าผมวางอำนาจในกองถ่าย ผมรู้สึกเสียใจมาก ผมไม่ใช่คนที่จะมีอำนาจแบบนั้นซักหน่อย

การเห็นข่าวและคอมเม้นท์ที่ถูกโพสทำให้ผมรู้สึกแย่ และผมสงสัยว่าทำไมสิ่งที่ผมไม่เคยทำถึงถูกเผยแพร่ [และถูกเชื่อว่าเป็นความจริง] ไปได้

ผมหวังว่าจะไม่มีข่าวลือที่ไม่มีมูลและการเข้าใจผิดเกิดขึ้นอีก ผมหวังว่าแฟนคลับที่รักและสนับสนุนผม รวมถึงคนที่กำลังเฝ้ามองผมอยู่จะได้ประณามผมในสิ่งที่ผมทำผิดจริงเท่านั้น

ขณะที่ผมกำลังเขียนข้อความนี้ขึ้น ผมก็ยังคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด และจะใช้โอกาสนี้ปรับปรุงตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร จดหมายนี้ยาวอยู่เหมือนกัน

ผมต้องขออภัยอีกครั้งที่ให้คุณมารับรู้เรื่องราวที่อาจทำให้ไม่สบายใจ ในฐานะคนสาธารณะ ผมจะพยายามทำตัวให้ฉลาดมากขึ้นในอนาคต ขอโทษจากใจจริงๆ

ผมควรจะทำงานอย่างมีความสุขเวลาไปที่กองถ่าย และนี่คือความผิดพลาดของผม [ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทำ] ผมขอโทษทุกคนจากใจ และทุกคนที่มาถ่ายทำด้วยกัน ที่ทำให้ทุกคนกังวล”

ที่มา ( 1 )