โจบยองกยู (Jo Byeong Gyu) ได้ออกมาชี้แจงหลังจากมีชาวเน็ตคนหนึ่งอ้างว่าเขาเคยใช้พฤติกรรมความรุนแรงในโรงเรียน

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ชาวเน็ต ‘A’ ได้โพสข้อความออนไลน์ อ้างว่าถูก โจบยองกยู รังแกตอนที่ไปเรียนที่นิวซีแลนด์ด้วยกัน วันต่อมา ต้นสังกัดของ โจบยองกยู ได้ขอให้ตำรวจตรวจสอบโพสดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และหลังจากนั้นมีการเปิดเผยว่าผู้โพสดังกล่าวได้ออกมาขอโทษและลบข้อความนั้นไป หลังจากนั้นมีผู้ออกมากล่าวหาโจบยองกยูอีก 2 คน (B และ D) และมี C ที่ได้ออกมาบอกว่าเรื่องที่ A, B และ D บอกนั้นไม่เป็นความจริง ทางด้าน HB Entertainment ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องความรุนแรงในโรงเรียนทุกกรณีในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และประกาศจะดำเนินคดีทางกฎหมาย และในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ โจบยองกยูได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง

วันที่ 10 มีนาคม D ได้โพสข้อความบนอินสตาแกรม เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากเขาโพสข้อความกล่าวหานักแสดงหนุ่ม

D บอกว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เขาได้รับการติดต่อจากเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งว่า D เอารูปไปใช้โดยไม่ได้ข้ออนุญาต และ D ได้รับการติดต่อจากฝ่ายกฎหมายของ HB Entertainment ผ่านเพื่อนร่วมชั้นคนนี้เช่นกัน ฝ่ายต้นสังกัดของโจบยองกยูพูดถึง ‘ค่าเสียหายที่คาดไม่ถึง’ และบอกให้เขาลบโพสนั้น รวมถึงจดหมายขอโทษ D อธิบายว่าเขาต้องการเซ็นข้อตกลง และเขียนคำขอโทษ เขาอยากจบเรื่องไว้แค่นั้น แต่วันต่อมา ต้นสังกัดฝากเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นมาบอกเขาว่า “ให้เขียนจดหมายขอโทษก่อนเซ็นข้อตกลง เพราะตอนนี้ความเสียหายลุกลามไปมาก และคุณอาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายจากเรื่องนี้ ยิ่งคุณอัพโหลดจดหมายขอโทษช้าเท่าไหร่ ความเสียหายก็จะมากขึ้นเท่านั้น” D จึงได้ปรึกษาทนายความที่รู้จัก และตัดสินใจไม่เขียนจดหมายขอโทษ

D ได้พูดถึงชาวเน็ตอีกคนชื่อว่า W ซึ่งได้ติดต่อเขามาโดยตลอดทางข้อความตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ W ดูเหมือนจะเป็นคนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ D และส่งข้อความหยาบคายทางข้อความมาหา D ตลอด รวมถึงส่งให้คนรอบตัวของ D ด้วย D ไม่สนใจข้อความเหล่านั้น จนกระทั่งวันที่ 4 มีนาคม ที่ D ตอบ W ไปว่าจะเขียนเรื่องจริงเพื่อโต้แย้งกับบริษัท ทำให้ W หยุดส่งข้อความมาหา เรื่องนี้ทำให้ D คิดว่า W น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับ HB Entertainment และบอกให้ต้นสังกัดออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น

D ยังเรียกร้องให้บริษัทออกมาชี้แจงเรื่องจดหมายที่ส่งมาจากทนายของบริษัทที่ระบุถึง ‘ผู้สมรู้ร่วมคิด’ เพราะ D เป็นคนเดียวที่กล่าวหาเรื่องนี้เอง D บอกว่าให้ต้นสังกัดออกมาพิสูจน์เรื่องนี้ต่อสาธารณะ

D ยังได้โพสพอกว่าเขาตกงานจากความเครียดที่เกิดขึ้นเพราะเรื่องนี้ และในวันเดียวกันนี้เอง โจบยองกยูได้ออกมาชี้แจงทางอินสตาแกรมของเขา โดยมีข้อความว่า:

“ผมคิดว่าจะไม่ออกมาพูดถึงเรื่องโพสที่ทำให้เกิดความเสียหาย แต่ว่าสุดท้ายผมก็ทนไม่ได้ ทำให้ผมต้องออกมาโพสข้อความนี้

ผมจะพิสูจน์เรื่องที่ไม่จริงได้ยังไง? ผมจะจำและพิสูจน์เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 11 หรืออย่างมากสุดก็ 16 ปีที่แล้วได้ยังไง? เป็นเรื่องจริงที่ผมไม่ใช่คนที่ไม่เคยทำให้คนอื่นเจ็บปวดมาก่อน และผมไม่ได้เติบโตมาอย่างเทพบุตร และปฏิบัติต่อคนรอบข้างทุกคนอย่างดี ตอนนั้นมีคนไถเงินผมเพราะผมตัวเล็ก และมีช่วงที่ผมถูกรังแกด้วย ตอนนี้ผมดูเป็นเหยื่อบ้างหรือยัง?

ผมคิดว่าโรงเรียนคือสถานที่ที่นักเรียน ซึ่งยังเป็นวัยที่ไม่รู้จักตัวตน ได้ค้นหาตัวเองผ่านประสบการณ์และความผิดพลาด, ความขัดแย้ง และบทเรียนที่ทำให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และคนที่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ผมก็ผ่านการทดลองและความผิดพลาดนั้นมาเช่นเดียวกัน รวมถึงความขัดแย้ง และบทเรียน

อย่างไรก็ตามมันยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย จริยธรรม และขอบเขตของศีลธรรม ผมไม่ปฏิเสธเรื่องนี้ แต่ทำไมผมต้องขอโทษต่อช่วงเวลาที่ผมยังไม่ได้ฝันอยากเป็นนักแสดงด้วยซ้ำ ทำไมต้องบอกว่าช่วงเวลาวัยเด็กนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพียงเพราะผมเป็นนักแสดงและต้องมีความรับผิดชอบเหรอ? ถ้านี่คือปัญหา ผมต้องขออภัย ขอโทษนะครับ

ผมไม่ได้สนิทกับทุกคนในแต่ละชั้นเรียน และในทุกโรงเรียนที่ผมไปเรียน ผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับทุกคน ผมสนิทกับเพื่อนไม่กี่คน และเพื่อนของผมเป็นคนดีจริงๆ เพื่อนกลุ่มเล็กๆของผม และการไม่ยุ่งกับคนที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง ทำให้มีปัญหา อาชีพของผมตลอด 10 ปี พังลง และโปรเจคทุกอย่างที่ผมมีแผนจะเข้าร่วมต้องพักเอาไว้ ผมไม่สามารถอธิบายความเสียหายได้ ส่วนเรื่องสภาพจิตใจนะเหรอ? ตั้งแต่มีการกล่าวหาเกิดขึ้น ผมเดินก้มหน้ามองพื้นทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก และนอกไม่หลับเป็นสัปดาห์

มีคนคิดว่าข้อความของผมเขียนออกมาเพื่อเรียกร้องความสงสารหรือเปล่าครับ แต่อีกคนเป็นใครไม่รู้ที่ออกมากล่าวหาโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าเช่นกัน?

ต้นสังกัดและทนายไม่เคยกดดันคนคนนั้นด้วยเงิน หรือถ้ามันทำให้รู้สึกเหมือนข่มขู่ ผมขอถามหน่อยว่าเราจะส่งข้อสัญญาและพูดคุยอัพเดทสถานการณ์กับคุณได้อย่างไร เหมือนคุณบอกว่าคุณอยู่ต่างประเทศ?

คุณติดต่อเรามาก่อน ผ่านคนรู้จักของคุณ และทนายความ และคุณเป็นคนขอให้มีการประณีประนอมก่อน ทำไมคุณไม่ส่งจดหมายขอโทษผ่านคนรู้จัก หรือทนายความล่ะ? ผมไม่เข้าใจทำไมคุณถึงเปลี่ยนเรื่อง เพราะคุณเองเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจว่าคุณจะออกมายอมจำนนดีหรือเปล่าทั้งที่ทุกอย่างมันจะจบได้ง่ายๆถ้าคุณทำแบบนั้น เขียนมันขึ้นมาเหมือนตอนที่คุณโพสข้อความ ข้อความที่ทำให้คุณต้องมาขอความเห็นใจ และอย่าพยายามโยนความผิดให้คนอื่น เพราะคุณจุดไฟขึ้นมาด้วยตัวเอง คนคนนี้เขารู้อยู่แล้วว่าผมจะตกที่นั่งลำบากถ้าข่าวลือนี้ยังคงเกิดขึ้นต่อไป 

‘ผู้สมรู้ร่วมคิด’ ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจมากกว่าใครว่าคำนี้หมายความว่าอย่างไร

ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว ขอบคุณสำหรับการเปิดโอกาสให้ผมออกมาตอบโต้ ทั้งที่คุณไม่มีอะไรรับมือเลย และตอบโต้ในฐานะเดียวกัน ผมไม่อยากทำให้คนรอบข้างที่ผมห่วงใยและต้นสังกัดต้องได้รับผลกระทบอีกแล้ว ผมไม่อยากให้พวกขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกต่อไป

ผมอยากจะคงไว้ซึ่งเกียรติของตัวเอง ในฐานะมนุษย์ นี่เป็นเรื่องที่ผมยอมไม่ได้ ผมจะวางทุกอย่างลงและบอกทุกอย่างออกไปเพื่อปกป้องตัวเอง

ผมจะออมาต่อสู้กับคนที่โพสเรื่องเท็จและคอมเม้นท์หยาบคาย จนกว่าจะจบกันไปข้างหนึ่ง

ที่มา ( 1 ) ( 2 ) ( 3 )

แปลโดย  https://popcornfor2.com