ยังตามผู้สัมผัสป่วยเมอร์ส 6 รายไม่พบ
2015-06-24 20:13:53
Advertisement
คลิก!!!

        ยังตามตัวผู้สัมผัสเมอร์อีก 6 รายไม่พบ เป็นต่างชาติ 5 ราย คนขับแท็กซี่ 1 ราย อาการชาวโอมานป่วยเมอร์สดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้าระวัง
       
       วันนี้ (24 มิ.ย.) นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมทางไกลร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และ ผอ.รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป เพื่อเตรียมพร้อมกรณีโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส ว่า สถานการณ์ยังพบผู้ป่วยโรคเมอร์สยืนยัน 1 ราย ผู้สัมผัสโรค 160 ราย ลดลงจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ไป 3 ราย เนื่องจากเดินทางออกนอกประเทศ ขณะที่ผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่มขึ้นอีก 14 ราย เป็น 72 ราย เนื่องจากมีผู้ที่เดินทางจากประเทศระบาดติดต่อเข้ามา เพื่อให้ตรวจหาเชื้อ โดยขณะนี้ไม่พบมีใครป่วยเพิ่มเติม
       
       “ได้กำชับให้ นพ.สสจ. และผอ.รพ.ทุกแห่งเข้มการเฝ้าระวัง แม้จะพบผู้ป่วย 1 ราย แต่ก็ไม่ประมาท โดยขอให้ไปทำความเข้าใจกับคลินิกทุกแห่งในพื้นที่ตนเอง ให้เข้าใจในการป้องกันโรค และหากพบผู้เข้าเกณฑ์สงสัยต้องแจ้ง สธ.ทันที เพราะโรคเมอร์สถือเป็นโรคติดต่ออันตรายตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2523 ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ออกประกาศให้เจ้าพนักงานสาธารณสุข และประชาชนทั่วไปปฏิบัติตาม โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังต้องแจ้ง สธ.ทันที นอกจากนี้ สธ.จะดูแลขวัญกำลังใจ โดยจะมีค่าตอบแทนให้กับบุคลากรสาธารณสุขที่ดูแลเรื่องนี้ เหมือนกรณีอีโบลา" นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผู้สัมผัสโรค 9 ราย ที่ยังติดตามตัวไม่ได้ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า ผู้ที่อยู่ในเกณฑ์สัมผัสโรค ซึ่งโดยสารเครื่องมาพร้อมกับผู้ป่วยมีอยู่ 14 ราย ขณะนี้ตามตัวได้แล้ว 9 ราย ยังเหลืออีก 5 รายที่เป็นชาวต่างชาติ กำลังเร่งติดตาม นอกนั้นไม่มีอาการใดๆ บ่งชี้ ขณะที่แท็กซี่ที่รับตัวผู้ป่วยเมอร์สไป รพ. ยังตามหาตัวอยู่ ขณะนี้กำลังเร่งติดตาม อย่างไรก็ตาม สำหรับอาการผู้ป่วยชายชาวโอมาน อาการดีขึ้น ให้ออกซิเจนน้อยลง ปรับเตียงให้นั่งได้แล้ว แต่ผู้ป่วยรายนี้อายุมากและมีโรคประจำตัว จึงต้องเฝ้าระวังอยู่ ส่วนญาติๆก็อาการดีขึ้นด้วย
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีแท็กซี่ที่ยังไม่พบถือว่าเสี่ยงหรือไม่ นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับรายนี้พบผู้ป่วยชาวโอมานในวันที่ 15 มิถุนายน โดยปกติการแพร่เชื้อจะอยู่ภายใน 7 วันแรกถึงร้อยละ 80 แต่จากการสอบถามผู้โดยสารบนเครื่องบินที่นั่งมากับผู้ป่วยบอกว่า ผู้ป่วยไม่มีอาการไอ ไม่มีไข้ และเมื่อแพทย์วัดไข้ก็ไม่พบ และอาการก็ไม่พบการบ่งชี้มาก แสดงว่าช่วงแรกโอกาสแพร่เชื้อน้อยมาก การที่จะไปแพร่เชื้อกับแท็กซี่ก็น้อยด้วย แต่ก็ไม่ได้ประมาทในเรื่องนี้
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีแท็กซี่ที่ยังตามตัวไม่พบ หากไม่รายงานตัวใน 24 ชั่วโมงจะมีความผิดตามประกาศฉบับที่ 2 หรือไม่ นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าตัวอาจไม่รู้ ซึ่งหากตามตัวเจอและขอให้ไปเฝ้าระวังที่ รพ. แต่เจ้าตัวปฏิเสธ แบบนี้ถือว่าผิด แต่หากไม่ปฏิเสธและยอมเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังก็ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างไร ประเด็นการออกกฎหมายก็เพื่อให้ยอมไปอยู่ในระบบเฝ้าระวังที่รพ.มากกว่า

 
ขอขอบคุณที่มา  http://www.manager.co.th/
 
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X