สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หญิงจีนวัย 63 ปี รายหนึ่ง ได้ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปี ฐานจงใจฆาตกรรมสามีผู้ป่วยเป็นอัมพาต หลังจากที่เธอใช้เวลาดูแลเขามากว่า 15 ปี ขณะที่ชาวบ้านพากันเห็นใจ โดยต่างยื่นหนังสือต่อทางการให้ละเว้นโทษจำคุกแก่เธอ 

 หญิงรายนี้เป็นชาวกรุงปักกิ่ง ชื่อ นางฉุ่ย ได้ดูแลสามีของเธอที่ป่วยเป็นอัมพาตมากว่า 15 ปี หรือตั้งแต่ปี 1999 เพราะบาดเจ็บทางสมอง โดยที่ผ่านมา เธอได้ยอมลาออกจากงานเพื่อมาดูแลสามีของเธอ และหันมาเป็นแม่ค้าข้างถนน และแม้ว่าเธอจะได้รับเงินช่วยเหลือจากชาวบ้านในหมู่บ้าน แต่ก็ไม่เพียงพอ โดยเธอยังต้องต่อสู้เพื่อเลี้ยงชีพ และหาเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แก่สามีของเธอ ขณะที่ลูกชาย และลูกสาวของเธอ ก็มีรายได้รวมกันเดือนละเพียง 3 พันหยวน (ราว 14,700 บาท) ต่อเดือน และมักจะมาเยี่ยมเธอและพ่อในช่วงสุดสัปดาห์

 อย่างไรก็ตาม วิกฤตชีวิตของนางฉุ่ยยิ่งย่ำแย่หนัก เมื่อเธอก็ต้องป่วยด้วยอาการเดียวกันกับสามี เมื่อปี 2013 ทำให้เธอรู้สึกไร้หนทางที่ตัวเองจะต้องคอยดูแลสามีและตัวเองอีกต่อไป โดยสามีของเธอก็มีอาการย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ โดยอยู่ในสภาพป่วยโคม่าเป็นผัก ขณะที่ลูกสาวของเธอบอกว่า พ่อของเธอป่วยหนักขนาดไม่สามารถอ้าปากกลืนอาหารได้แล้ว และทำให้แม่ของเธอต้องคอยเคี้ยวข้าวให้ละเอียดเพื่อป้อนเขาจากปากสู่ปาก 

 และในที่สุด จากที่ต้องแบกภาระและเผชิญความหดหู่ใจ ทำให้นางฉุ่ยตัดสินใจรัดคอสามีของเธอด้วยเชือก เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ก่อนที่เธอจะกรีดข้อมือและคอตัวเองหลายครั้ง แต่เธอรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ ทำให้เธอโทรเรียกลูกสาวให้มาช่วยเธอ 

 "ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ฉันไม่อยากเป็นภาระของลูกๆ" เธอกล่าวขณะถูกไต่สวนในศาล ในสภาพน้ำตานองหน้า "ตอนนั้นฉันกำลังอยู่ในสภาพเหนื่อยล้า และฉันไม่ควรจะฆ่าสามีของฉันเลย" เธอกล่าว 

เรียบเรียงโดย มติชนออนไลน์

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์