การเปลี่ยนสีผม ถือเป็นการแต่งเติมความงามแก่เส้นผม ทำได้ไม่ยากหลายคนทำได้โดยไม่ต้องจ้างช่าง หลักการทั่วไปคือ เส้นผมต้องสะอาด จึงต้องสระผมก่อนทุกครั้งเพื่อเอาฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากเส้นผม ห้ามเกาหนังศีรษะเพราะอาจแสบเมื่อถูกน้ำยาย้อมผม หลังจากนั้นปล่อยให้เส้นผมแห้งสนิท หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ขบวนการเปลี่ยนสีผม ถ้าจะเปลี่ยนสีผมให้อ่อนกว่าสีเดิม เช่น ผมน้ำตาลต้องการเปลี่ยนเป็นบลอนด์ จะต้องกัดสีผมก่อน โดยใช้น้ำยาลอกสีผม แล้วจึงทาสีผมที่ต้องการลงไป แต่ถ้าต้องการย้อมผมหงอกเป็นดำให้ทาสีที่ต้องการได้เลย เมื่อใส่น้ำยาย้อมผมแล้ว ต้องหมักไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงสระออก เพื่อเอาสีที่ติดมากเกินไป หรือติดตามหนังศีรษะ และบริเวณใบหูออกด้วย 

กรณีที่น้ำยาย้อมผมเปรอะเปื้อนผิว ให้รีบเช็ดออกด้วยสำลีชุบน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จขบวนการเปลี่ยนสีผม

ผลดีของการเปลี่ยนสีผม 
ทำให้ได้สีผมที่เราต้องการ เป็นการเปลี่ยนบุคลิกภาพ คนสูงอายุที่ผมหงอกก็ปิดบังได้ด้วยการเปลี่ยนเป็นสีอื่น ๆ ซึ่งทำให้ดูอ่อนกว่าวัย วัยรุ่นก็นิยมเปลี่ยนสีผมที่ต้องการไปตามแฟชั่น แต่ทั้งหมดต้องทำซ้ำอย่างน้อยทุก 2-3 วัน หรือทุก 1-1.5 เดือน ขึ้นกับคุณภาพของสีที่เรานำมาใช้ 

การย้อมผมก็เกิดผลเสียแก่เส้นผม 
โดยทำให้หยิกหยอยขนาดน้ำหนัก ผมเปราะบางและหักง่าย แตกปลาย โดยเฉพาะถ้ามีการลอกสีผมร่วมด้วยจะยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่ เพราะ hydrogenperoxide หรือ zincformaldehyde sulfoxylate ตัวใดตัวหนึ่งในผลิตภัณฑ์ลอกสีผมจะกัดเส้นผม ทำให้เปราะบางลงและหักง่ายมากขึ้น จึงไม่ควรทำถี่เกินไป ควรปล่อยให้เส้นผมกลับคืนสู่สภาพปกติบ้าง การย้อมผมภายหลังดัดผมหรือยืดผมทันทีก็ไม่ควรทำเช่นกัน เพราะผมเพิ่งถูกน้ำยาดัดหรือยืดมาไม่นาน ควรเว้นสัก 2-3 สัปดาห์จึงย้อมได้ชัดเจนจากการย้อมผมที่ทำให้ต้องพบแพทย์ผิวหนังคือ การแพ้ paraphenylinediamine ในน้ำยาย้อมผม ทำให้คันศีรษะ คันหน้าผาก ตาบวม 2 ข้าง อาจมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากผื่นร่วมด้วย วิธีแก้คือ ต้องหยุดใช้เด็ดขาด เพราะถ้าใช้อีกเมื่อใดจะมีอาการซ้ำเช่นนี้ ส่วนผลของการเกิดมะเร็งจากการใช้ยาย้อมผมยังไม่เด่นชัดในปัจจุบัน คงต้องติดตามจากผลวิจัยต่าง ๆ อีกสักระยะหนึ่งจึงจะบอกได้แน่ชัด 

ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่มีในท้องตลาด 

1. Hair retorer มีส่วนผสมของสารตะกั่ว ถ้าถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเกินปริมาณต้องการจะเกิดสารตะกั่วเป็นพิษ จึงไม่ปลอดภัยถ้าใช้เป็นประจำทุกวัน ผู้ผลิตจึงเปลี่ยนมาใช้ bismuth citrate ซึ่งให้ความดำเช่นกันแต่ไม่คงทนเท่าสารตะกั่ว 

2. เปลี่ยนสีผมโดยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร มีวางขายมานานพอสมควร ทำให้ผมนุ่มสลวยดี ยังไม่พบว่ามีใครแพ้หรือเกิดอันตรายแต่อย่างใดในปัจจุบัน 

3. ครีมเปลี่ยนสีผมผสมสารเคมี สมัยก่อนใช้ผสมในสเปรย์ แต่ปัจจุบันนิยมออกมาในรูป Hair mascara ผลิตออกเป็นแท่งทรงกระบอกกลมคล้ายเนตรสำอาง มีแปรงจุ่มลงในครีมผสมสี เมื่อต้องการเปลี่ยนสีผมก็นำมาทาส่วนที่ต้องการ สีจะคงทนประมาณ 2-3 วัน เมื่อสระผมสีจะหลุดออกหมดทาซ้ำได้ตามต้องการ 

4. Shampoo in haircolor เป็นตัวยาเปลี่ยนสีผมที่ผสมลงในแชมพู เพื่อให้ใช้ได้ง่าย ชนิดนี้สีติดนาน 1-1.5 เดือน แล้วต้องย้อมซ้ำอีก 

5. ยาย้อมผมชนิดถาวร นิยมแพร่หลายมาก ราคาไม่สูงมาก มีหลายยี่ห้อ มีส่วนผสมของ paraphenylinediamineresorcinol หรือ hydrogenperoxide

ที่มา  http://siamdara.com/