เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

เชื่อว่าพวกเราหลาย ๆ คน คงเคยผ่านความรักกันมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ สมหวังหรือผิดหวัง ล้วนผ่านเข้ามาในชีวิตกันเกือบทุกรูปแบบ แต่บางคนกลับยังคงติดอยู่ในวังวนเดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิกกับแฟนมาครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่รู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่และมีจุดจบที่ชัดเจนอย่างไร ซึ่งมีการศึกษาออกมาแล้วว่า วงจรความรักแบบสับสวิตช์นี้ สุดท้ายคู่รักก็ไม่ได้ลงเอยกันอย่างมีความสุข

ผลการศึกษาดังกล่าว เป็นข้อมูลจากมหาวิทยาลัยรัฐแคนซัส ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งชี้ให้เห็นว่า หนุ่มสาวคู่รักที่มีความสัมพันธ์แบบรัก ๆ เลิก ๆ นี้ จะไม่มีสายใยรักที่เหนียวแน่นเท่ากับคู่ที่คบหาดูใจกันอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีช่วงเวลาที่เว้นระยะห่างอยู่บ้างตามจังหวะชีวิตของความรัก โดยคู่ที่มีวงจรความรักแบบสับสวิตช์ ทุก ๆ ครั้งที่กลับมาคืนดีกัน มักมีการตัดสินใจครั้งสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อจะกระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น ย้ายเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันหรือมีลูกด้วยกัน

ความจริงแล้วพวกเขาอาจไม่ได้รักหรือใกล้ชิดกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป เพียงแต่ต้องการยื้อชีวิตคู่ของตัวเองเอาไว้ให้นานที่สุด ทั้งที่ไม่ได้มีความรักให้กันเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งคนทั้งสองต่างรักตัวเองมากขึ้น เห็นใจอีกฝ่ายน้อยลง มองความต้องการของตนสำคัญกว่าที่จะเสียสละให้คนรัก ยิ่งนานวันเข้าความอดทนที่มีต่อกันยิ่งลดลง จนถึงขั้นต้องบอกลาจากกันอีกครั้ง แม้จะจบกันได้ด้วยดี

ถึงแม้ว่าบางคู่จะเลิกกันด้วยความเข้าใจ และวันหนึ่งกลับมาคิดได้ว่าพวกเขารู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างในชีวิตไป จนตัดสินใจกลับมาคบหากันอีก (หลาย) ครั้ง แต่อันที่จริงคู่รักที่เลิกกันด้วยดี พวกเขาแค่ไม่ต้องการกลับไปมีชีวิตโสดที่แสนอ้างว้างและเดียวดายต่างหาก แต่ยังโหยหาความอบอุ่นที่เคยมีให้แก่กันเท่านั้น โดยปราศจากความรักที่แท้จริง

หากว่าคุณกำลังวางแผนที่จะกลับไปง้อขอคืนดีกับ (อดีต) คนรักของคุณ ขอให้ทำความเข้าใจกับตัวเองก่อนว่า การกลับมาคราวนี้เกิดขึ้นด้วยความรักและความต้องการลึก ๆ ภายในใจ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความเหงาหรือความสบายใจที่มีเขาอยู่เคียงข้าง เพราะไม่งั้นบทสรุปของนิยายรักครั้งนี้จะไม่มีวันจบอย่างมีความสุข...