มินฮีจิน (Min Hee Jin) เปิดใจเกี่ยวกับความคิดที่มีต่อการบริหารงาน ขอบคุณแฟน ๆ ของ NewJeans และเผยความหวังที่มีต่อ NewJeans ในงานแถลงข่าวครั้งที่ 2 ของเธอ

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม มินฮีจิน CEO ของ ADOR ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อพูดถึงการตัดสินใจปลดสมาชิกคณะกรรมการบริหารของ ADOR จำนวน 2 คนออกจากตำแหน่งในการประชุมผู้ถือหุ้นของ HYBE โดยก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เธอได้พูดถึงความรู้สึกของเธอหลังจากชนะคำสั่งห้ามไม่ให้ HYBE ปลดเธอออก และเปิดเผยแผนสำหรับกิจกรรมในอนาคตของ NewJeans 

ทนายความของเธอยังได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการขาดเหตุผลในการปลด มินฮีจิน ออกจาก ADOR โดยอ้างถึงข้อความใน KakaoTalk และหลักฐานอื่น ๆ มินฮีจิน ยังยืนกรานอีกว่าบทบาทหลักของเธอในฐานะ CEO ของ ADOR ไม่ใช่การแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว แต่คือการมุ่งเป้าหมายไปที่ความสำเร็จของบริษัท เธอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเครียดที่เกิดจากความขัดแย้งกับ HYBE และความจำเป็นในการบริหารงานอย่างมีเหตุผลและเป็นกลาง โดยระบุว่า

“ในฐานะผู้บริหาร คุณต้องมองที่ตัวเลข หากตัวเลขไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น ฝ่ายบริหารควรได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ แนวทางที่เป็นกลางคือสิ่งที่จำเป็นในที่นี้ ส่วนอารมณ์อื่น ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นการเล่นคำค่ะ” 

มินฮีจิน ยังกล่าวถึงการแถลงข่าวครั้งก่อนของเธอว่า “ในการแถลงข่าวครั้งสุดท้าย ความโกรธของฉันพุ่งพล่านมาก และฉันพูดจาหุนหันพลันแล่น ซึ่งจริง ๆ แล้วฉันไม่ใช่คนแบบนั้นเลยค่ะ ฉันเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่ฉันคิดว่าคนเข้าใจฉันผิดในครั้งนั้นมากมายค่ะ”

สำหรับ NewJeans มินฮีจิน กล่าวว่าขณะนี้พวกเธอกำลังเตรียมตัวสำหรับเวิลด์ทัวร์ครั้งแรก เธอกล่าวว่า

“พวกเราจะไปจัดคอนเสิร์ตในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศซึ่งเราวางแผนกันไว้ล่วงหน้านานแล้วค่ะ เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ มีผู้คนจำนวนมากที่อยากไปดูคอนเสิร์ตในชุมชน วงการบันเทิงแต่ก่อนยังไม่พร้อมที่จะจัดทัวร์ทั่วประเทศ ฉันไม่อยากถูกเข้าใจผิดแบบนั้น เราพยายามทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อมอบสิ่งที่แฟน ๆ ต้องการ โปรโมตเพลงใหม่ของ NewJeans และยกระดับทักษะของสมาชิกในวงค่ะ”

เมื่อถูกถามว่าจริงหรือไม่ที่ HYBE แนะนำให้เธอขายอัลบั้มของ NewJeans เป็นจำนวนมากเพื่อเพิ่มยอดขายอัลบั้มในสัปดาห์แรก มินฮีจิน ตอบว่า

“ใช่ค่ะ เป็นความจริงที่ถูกแนะนำแบบนั้น HYBE บอกว่าพวกเขาพูดแบบชิล ๆ ในขณะสูบบุหรี่ แต่เมื่อพวกเขากำลังฟังเรื่องตลกของฉันอย่างจริงจังและหวังว่าฉันจะรับคำแนะนำของพวกเขาในฐานะที่มันเป็นเรื่องตลก มันก็ไม่สมเหตุสมผล ฉันคิดว่าเราต้องทำให้พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกันค่ะ”

สำหรับเรื่องที่ มินฮีจิน พยายามควบคุม ADOR เป็นความจริงหรือไม่นั้นเธอกล่าวว่า

“มันขัดแย้งกันที่จะบอกว่าฉันทำแบบนี้เพื่อเสริมสร้างการบริหารบริษัท ฉันควบคุมบริษัทอยู่แล้วค่ะ HYBE ต้องตัดสินใจว่าจะเป็นอัศวินขาวหรืออัศวินดำ ไม่ว่าฉันต้องการทำอะไร การตัดสินใจขั้นสุดท้ายอยู่ที่ HYBE ค่ะ เกี่ยวกับการทรยศที่เราพูดถึง ฉันคิดว่าฉันรู้สึกถึงการทรยศนั้นก่อน และ HYBE ทำลายความไว้วางใจนั้นก่อน... แต่ในฐานะบริษัทลูก ฉันจะมีอำนาจอะไรล่ะคะ ฉันมีส่วนได้ส่วนเสียเพียง 18% [ใน ADOR] เท่านั้นเองค่ะ”

มินฮีจิน ยังได้ตอบคำถามเกี่ยวกับวงต่าง ๆ เช่น BTS, ILLIT และ LE SSERAFIM ที่ได้รับผลกระทบระหว่างการปะทะกันของเธอและ HYBE โดยกล่าวว่า

“ทุกคนได้รับผลกระทบหมดค่ะ ซึ่งรวมถึง NewJeans ด้วย ฉันไม่ได้ระบุเจาะจงถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เหมือนที่ฉันเคยบอกไปก่อนหน้านี้ ฉันก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน พนักงานคนหนึ่งของฉันบอกฉันว่า สาธารณชนกำลังโจมตีฉันราวกับว่าฉันไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่ฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งและสมาชิกในวงก็เช่นกัน ฉันไม่อยากพูดอะไรกับใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ถ้าทุกคนไม่ต้องการทำร้ายคนอื่น ๆ พวกเขาก็ต้องอยู่เงียบ ๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงผลักดันและนำเรื่องนี้ขึ้นมาพูด นั่นคือวิธีที่ผู้คนต้องเจ็บกับเรื่องนี้ หากพวกเขาต้องการคำนึงถึงผู้อื่นก็อย่าเอ่ยถึงใครเลยค่ะ”

ในการตอบคำถามเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่เธอพูดไม่ดีเกี่ยวกับ NewJeans และปฏิกิริยาของสมาชิกต่อเรื่องนี้ มินฮีจินก ล่าวว่า

“พวกเธอติดต่อฉันเพราะรู้ว่าฉันกำลังเจ็บ เมื่อคุณดูที่ภาพแคปหน้าจอ นั่นเป็นสิ่งที่ต้องมาพูดคุยกันค่ะ”

กับเรื่องที่มีการกล่าวหาว่า ILLIT ลอกคอนเซ็ปต์ของ NewJeans มินฮีจิน กล่าวว่า

“เราไม่ทราบว่าคอนเซ็ปต์ของ ILLIT คืออะไร ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นทีเซอร์ที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 6 มีนาคม เมื่อเราดูภาพในนิตยสารชุดฮันบก เราก็คิดว่า ‘อะไรน่ะ’ แต่เราไม่แน่ใจว่าควรหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดหรือไม่ ท่ามกลางเรื่องทั้งหมดนี้ระยะเวลาที่ฉันได้รับเพื่อตรวจสอบสัญญาของผู้ถือหุ้นนั้นสั้นมาก HYBE เข้าใจว่าฉันอยู่ในสถานการณ์นั้น และตอนนั้นเราก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หากคุณถามว่าฉันไม่สงสัยพวกเขาเหรอ... มันคงแปลกที่จะสงสัยเพื่อน บางทีคน ๆ นั้นอาจไม่ได้คิดว่าฉันเป็นเพื่อน แต่เราเป็นคนรู้จักกันและปกติแล้วคนเราจะไว้ใจได้ค่ะ”

เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง มินฮีจิน กับพ่อแม่และแฟนคลับของวง NewJeans เธอได้แสดงความคิดเห็นว่า

“เหล่าBunnies และครอบครัว (ของสมาชิกในวง) พวกเขาจะคอยเช็คดูฉันทุกวันเพราะฉันอาจตัดสินใจอะไรสุดโต่งได้ค่ะ พวกเขาถามฉันเสมอว่าฉันโอเคไหม และบอกให้ฉันกินข้าว แม้แต่เมื่อวานนี้เองเราก็ร้องไห้กันเลยด้วยซ้ำ พูดตามตรง ไม่มีความสัมพันธ์แบบนี้ในวงการบันเทิงอีกแล้วค่ะ เราคุยโทรศัพท์กันประมาณชั่วโมงหรือสองชั่วโมงว่าสมาชิกรู้สึกแย่หรือไม่ หรือเกี่ยวกับการตัดสินใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับพวกเธอ แน่นอนว่าเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องครอบครัวที่ลึกซึ้งของกันและกัน ฉันยังสนิทกับพี่น้องของสมาชิกในวงด้วยค่ะ นี่คือความสัมพันธ์แบบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้... ฉันจะบอกผู้ปกครองอย่างตรงไปตรงมาว่าสมาชิกทำอะไรถูกหรือผิดเสมอค่ะ”

สำหรับวิสัยทัศน์ของเธอที่มีต่อ NewJeans มินฮีจิน กล่าวว่า

“ฉันและ NewJeans ต่างก็มีชีวิตที่มีความสุข คุณยังเด็ก คุณอยากเป็นคนดัง แต่คุณไม่รู้ว่าศิลปินคืออะไร แต่เพราะเป็นบริษัทใหญ่และพวกเขาบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ เด็ก ๆ จึงไปออดิชั่นด้วย พวกเธอไม่รู้เรื่องระบบเลย... ในช่วงระยะเวลาของสัญญา ฉันบอกพวกเธอว่าพวกเธอกำลังเรียนกับฉัน ฉันเป็นครู และมีครูดี ๆ อีกหลายคน... ฉันอยากให้พวกเธอใช้ชีวิตที่ต้องการ นั่นเป็นสิ่งที่ดีในระยะยาวสำหรับพวกเธอไม่ใช่การเซ็นสัญญาอีกครั้งค่ะ ฉันคิดว่านั่นคือการประพฤติมิชอบของอุตสาหกรรม”

ต่อมาเธอเสริมว่า “ฉันคิดว่า NewJeans เป็นเหมือนลูกของฉันเอง เมื่อฉันคิดถึงพวกเธอมันทำให้เจ็บปวดมากค่ะ มาทำแบบนี้แล้วทุกอย่างจะหายไปงั้นเหรอ? มันเจ็บปวดมาก นั่นคือเหตุผลที่ฉันบอกว่าฉันจะยอมแพ้ค่ะ”

เมื่อถูกถามอีกครั้งว่าเธอเชื่อหรือไม่ว่า ILLIT “ก็อปปี้” NewJeans มินฮีจิน ตอบว่า

“อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ ฉันเป็นคนที่มั่นคงมีความคิดไม่เปลี่ยนแปลง ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่อยากพูดถึงสมาชิก แต่ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่ปัญหามันแตกต่างออกไป... ฉันคิดว่ามันจำเป็นมากที่ฉันจะต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพื่อความอยู่รอดของ NewJeans ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก ฉันจะออกมาพูดค่ะ วันหนึ่งฉันจะพูดว่า 'ฉันควรเปิดเผยทุกอย่างและระเบิดมันซะ' และอีกวันฉันจะพูดว่า 'ฉันควรอดทนกับมัน' แต่ฉันไม่ได้เขียนความรู้สึกทั้งหมดของฉันลงใน KakaoTalk ฉันไม่ได้บันทึกมันไว้ทุกวินาทีค่ะ”

มินฮีจิน สรุปโดยกล่าวว่าเธอจะบริจาคเงินคืนให้กับสังคม หาก HYBE ชดเชยให้เธอ โดยอ้างถึงค่าชดเชย 2 หมื่นล้านวอน (ราว 5 ร้อยล้านบาท) ที่ศาลกำหนดไว้หาก HYBE เพิกเฉยต่อคำสั่งห้ามและไล่เธอออก นอกจากนี้ เธอยังขอบคุณเหล่า Bunnies แฟน ๆ ของ NewJeans สำหรับการสนับสนุนเธออย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าเธอไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยความโลภ

มินฮีจิน ปิดท้ายการแถลงข่าวของเธอโดยกล่าวว่า “ฉันหวังว่าทุกอย่างจะออกมาดีสำหรับ NewJeans ค่ะ”