ละครเกาหลีฟอร์มยักษ์ต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลก ขณะที่นักวิจารณ์ชอบการเล่าเรื่องมากกว่าภาพที่สวยงาม!
2024-01-01 08:55:28
Advertisement
คลิก!!!

ในปีนี้ บริษัทสตรีมมิ่งได้เห็นละครเกาหลีที่สร้างด้วยงบประมาณสูงของพวกเขาต้องดิ้นรนทั้งในแง่ของความสำเร็จด้านเรตติ้งและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แม้ว่าจะมีความพยายามในเพิ่มสเกลและใช้เทคโนโลยีภาพชั้นสูง แต่นักวิจารณ์ได้แนะนำว่าโครงเรื่องที่สอดคล้องกันและเนื้อเรื่องที่น่าดึงดูดเป็นปัจจัยสำคัญในการนำเสนอความบันเทิง

 

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม Netflix ได้ประกาศจำนวนผู้ชมรายสัปดาห์อย่างเป็นทางการ ซึ่งจากข้อมูลนี้ 'Mask Girl' เป็นละครเกาหลีเรื่องสุดท้ายที่ได้ติดอันดับชาร์ตทั่วโลก โดยย้อนกลับไปในช่วงวันที่ 21-27 สิงหาคม หลังจาก 'Mask Girl' แล้ว Netflix ยังได้เปิดตัวละครเกาหลีเรื่องอื่น ๆ เช่น 'A Time Called You' 'Song of the Bandits' 'Doona!' 'Daily Dose of Sunshine' และ 'Sweet Home 2' อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลงานใดที่สามารถครองตำแหน่งสูงสุดทั่วโลกได้

 


Mask Girl ออริจินัลซีรีส์ทาง Netflix

 

ในบรรดาละครที่กล่าวมา 'Song of the Bandits' เป็นละครที่สร้างจากงบประมาณการผลิตราว 36 พันล้านวอน (980 ล้านบาท) และ 'Sweet Home 2' ลงทุนมากกว่าซีซั่นที่ผ่านมา โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณราว 3 พันล้านวอน (82 ล้านบาท) ต่อตอน อย่างไรก็ตาม ละครก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ตามที่คาดหวังไว้

Song of the Bandits ออริจินัลซีรีส์ทาง Netflix

หลังจากความสำเร็จของ 'The Glory' เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ละครเกาหลีออริจินอลของ Netflix เช่น 'Black Knight' 'Bloodhounds' และ 'Celebrity' สามารถขึ้นครองอันดับหนึ่งทั่วโลกได้อย่างง่ายดายเมื่อตอนที่ถูกปล่อยออกมา อย่างไรก็ตาม ผลงานล่าสุดกลับได้รับคำวิจารณ์ที่น่าผิดหวังเมื่อเทียบกับความสำเร็จในอดีตซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

The Glory Part 2

The Glory Part 1 - 2 ออริจินัลซีรีส์ทาง Netflix

การลงทุนจำนวนมากโดยไม่เป็นไปตามความคาดหวังนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ของ Netflix เท่านั้น แต่ยังพบได้ตามสถานีโทรทัศน์หลักของเกาหลีอีกด้วย อย่างละครเรื่อง 'The Escape of the 7' ทางช่อง SBS ซึ่งจบลงไปเมื่อเดือนที่แล้ว ได้รับความสนใจในฐานะละครที่เขียนโดยนักเขียนบทจาก 'Penthouse' และมีงบประมาณการผลิตมากกว่า 46 พันล้านวอน (1,200 ล้านบาท) แต่ละครกลับได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดฉากที่เร้าใจแต่มีโครงเรื่องที่อ่อนแอ ซึ่งสุดท้ายละครก็ได้เรตติ้งผู้ชมไปประมาณ 5-6% เท่านั้น

 


The Escape of the Seven ในแอพ VIU

 

ละครเรื่อง 'Arthdal Chronicles' ปี 2019 ซึ่งออกอากาศทางช่อง tvN ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ในตอนนั้นสถานีได้ลงทุนกว่า 54 พันล้านวอน (1,500 ล้านบาท) เพื่อผลิตละคร อย่างไรก็ตาม สถานีต้องพยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อรักษาเรตติ้งผู้ชมไว้ที่ 4% เนื่องจากการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับจักรวาลที่สร้างขึ้นไม่ค่อยดีนักและการเซตอัพฉากที่น่าอึดอัดใจ มีรายงานว่า tvN ลดงบประมาณการผลิตลงอย่างมากสำหรับภาคต่อ 'Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun' ซึ่งออกอากาศในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ละครก็ยังไม่ได้รับเรตติ้งที่ดีขึ้น โดยรักษาจำนวนผู้ชมไว้ได้แค่ในช่วง 2-5% เท่านั้น

Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun
Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun ในแอพ Disney+Hotstar

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่งบประมาณการผลิตที่สูงจะไม่รับประกันความสำเร็จในด้านความนิยมหรือคุณภาพทางศิลปะ แม้ว่างบประมาณจำนวนมากจะช่วยเพิ่มคุณภาพของการมองเห็นและคุณภาพของการผลิตได้ แต่ก็ไม่ได้รับประกันความบันเทิงผ่านแง่มุมเหล่านี้เพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น 'Moving' ละครที่ประสบความสำเร็จของ Disney+ และ 'Korea–Khitan War' ของช่อง KBS แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้เกิดจากการลงทุนที่สูงหรือความสมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการเล่าเรื่องที่แข็งแกร่งและตัวละครที่น่าดึงดูดอีกด้วย

 

ละครที่ประสบความสำเร็จระดับโลกในปีนี้ เช่น 'The Glory' หรือ 'Extraordinary Attorney Woo' ที่ได้รับความนิยมในปีที่แล้ว ไม่ได้อาศัยงบประมาณการผลิตที่สูงหรือภาพวิชวลที่สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความเพลิดเพลินที่แท้จริงจากโครงเรื่องของละครตามที่นักวิจารณ์ได้กล่าวไว้

 

ในรายงานที่เผยแพร่โดย Yonhap News นักวิจารณ์ จองด็อกฮยอน (Jung Deok Hyun) ให้ความเห็นว่า

“สิ่งสำคัญที่สุดของละครคือจุดแข็งของการเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นแก่นแท้ของละคร”

เขาเสริมว่าเขารู้สึกว่าผลงานเกาหลีส่วนใหญ่ที่ออกฉายในปีนี้เบี่ยงเบนไปจากสาระสำคัญนี้

 

จองด็อกฮยอน ยังกล่าวด้วยว่า

“ความสำเร็จของ 'Moving' มาจากเรื่องราวอันน่าดึงดูดซึ่งสร้างโดยนักเขียนบท Kang Full และ 'The Glory' ก็ประสบความสำเร็จเนื่องจากความแข็งแกร่งของการเล่าเรื่อง ผลงานที่ดีต้องมีเนื้อหาที่เป็นรูปธรรมครับ”

 

Moving
Moving ออริจินัลซีรีส์ทาง Disney + Hotstar

 

ล่าสุด Netflix ได้เปิดตัวละครเรื่อง 'Gyeongseong Creature' ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่ใช้งบไปทั้งหมด 70 พันล้านวอน (1,900 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม บทวิจารณ์ในช่วงแรก ๆ ของผู้ชมยังไม่ค่อยดีนัก ละครเรื่องนี้มีฉากหลังเป็นกรุงโซลในช่วงระหว่างการปกครองของอาณานิคมของญี่ปุ่นในปี 1945 โดยเล่าถึงสัตว์ประหลาดตามชื่อเรื่อง ก่อนที่จะออกฉาย ละครได้รับความสนใจจากการคัดเลือกนักแสดงยอดนิยมอย่าง ฮันโซฮี (Han So Hee) และ พัคซอจุน (Park Seo Jun)

Gyeongseong Creature

ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และคุณภาพทางงานศิลปะของ 'Gyeongseong Creature' ซึ่งในตอนนี้ได้ติดอันดับหนึ่งในสามอันดับแรกของละครที่มีผู้ชมรายสัปดาห์มากที่สุดบน Netflix ซึ่งบ่งบอกถึงความสำเร็จที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การประเมินอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อครึ่งตอนหลังถูกปล่อยออกมา

 

นักวิจารณ์วัฒนธรรมป๊อป คิมซองซู (Kim Sung Soo) กล่าวว่า “'Gyeongseong Creature' นำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการปลอบโยนผู้หญิงภายใต้การปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่น และจัดการกับหน่วย 731 ของญี่ปุ่นที่ทำการทดลองทางชีววิทยาได้อย่างสมจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายกย่องสำหรับการนำเสนอแง่มุมเหล่านี้ครับ”

 

อนึ่ง ครึ่งหลังของ 'Gyeongseong Creature' มีกำหนดฉายวันที่ 5 มกราคมนี้

 

ที่มา  allkpop

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X