สำนักข่าว Dispatch ได้เปิดเผยว่านักแสดงหญิง คิมฮีออรา (Kim Hieora) ซึ่งล่าสุดนำแสดงในเรื่อง The Uncanny Counter 2 และ The Glory เคยเป็นอันธพาลในโรงเรียนและใช้ความรุนแรงในอดีต

ในรายงานพิเศษ Dispatch ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความรุนแรงในโรงเรียนของคิมฮีออรา และการกลั่นแกล้งในอดีตเมื่อเธอยังเป็นนักเรียนมัธยมต้น การกลั่นแกล้งเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมต้นซังจี ในเขตวอนจู จังหวัดคังวอน นักเรียน X (นามสมมติ) ได้ยกมือระหว่างคาบเรียนเพื่อขอไปเข้าห้องน้ำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว นั่นเป็นข้อแก้ตัว และนักเรียน X ก็มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนที่ว่างเปล่าแทน ซึ่งเป็นห้องเรียนว่างเปล่าเนื่องจากนักเรียนในห้องออกไปเรียนวิชาพละ และนักเรียน X ก็ได้ขโมยสิ่งของจากชั้นเรียนนั้น

นักเรียนที่ยอมรับว่าขโมยสิ่งของของผู้อื่นคนนั้น เป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นปีที่ 2 แต่เธอได้อธิบายว่าทำไมเธอถึงก่ออาชญากรรมนี้

'ฉันทำเพราะพี่สาว [คิมฮีออรา] บอกให้ฉันทำ เธอต้องการเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่'

— นักเรียน X ชั้นมัธยมต้นปีที่ 2

หลังจากการเปิดเผยของนักเรียนคนนั้น คิมฮีออรา ซึ่งขณะนั้นยังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นปีที่ 3 ได้ถูกเรียกตัวไปเพื่อซักถามเช่นกัน ซึ่งเธอปฏิเสธในการมีส่วนร่วมใดๆ ทั้งสิ้น

'เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉันเลย'

— คิมฮีออรา

อย่างไรก็ตาม Dispatch ได้เปิดเผยว่า คิมฮีออรา เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งกลั่นแกล้งที่โรงเรียนมัธยมต้นหญิงซังจี ที่เรียกกันว่า บิ๊กซังจี กลุ่มบิ๊กซังจีเป็นที่รู้จักจากการขู่กรรโชกนักเรียนคนอื่น การทำร้ายร่างกาย และการละเมิดทางวาจา

Dispatch ได้รับรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนของคิมฮีออรา โดยผู้ให้ข้อมูลกล่าวว่าไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นคนที่เคยรังแกคนอื่น มาปรากฎตัวทางโทรทัศน์

Dispatch ได้พบกับอดีตนักเรียน 10 คนจากโรงเรียนมัธยมต้นหญิงซังจี ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน Dispatch และยังได้รับคำชี้แจงแบบเป็นส่วนตัวของคิมฮีออรา เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วย ต่อไปนี้เป็นรายงานของ Dispatch เกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมด

สมาชิกกลุ่มบิ๊กซังจี

กลุ่มบิ๊กซังจีเป็นกลุ่มอันธพาลที่โรงเรียนมัธยมต้นหญิงซังจี วิธีการกลั่นแกล้งหลักของพวกเธอคือการขู่กรรโชก พวกเธอจะใช้เงินที่ได้จากผู้อื่นเพื่อความบันเทิงส่วนตัว

'กลุ่มบิ๊กซังจีจะคอยรีดไถเงินจากผู้อื่นและมอบให้กับสมาชิกที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม หากไม่มีเงินให้ พวกนั้นก็จะด่าทอและทำร้ายร่างกาย คิมฮีออราก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบิ๊กซังจีเช่นกัน'

— อดีตนักเรียน B

คิมฮีออราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบิ๊กซังจีอย่างแน่นอน เธอยังเคยแสดงความคิดเห็นบนกระดานข้อความของกลุ่มอีกด้วย Dispatch สามารถจับภาพหน้าจอข้อความของเธอไว้ได้

คิมฮีออรายอมรับเป็นการส่วนตัวว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบิ๊กซังจีจริง แต่ก็โต้กลับในบางจุดที่ผู้ให้ข้อมูลกล่าวมา

'ใช่ค่ะ ตอนที่ฉันอยู่มัธยมต้นฉันไม่ใช่นักเรียนตัวอย่าง ฉันทำเรื่องวุ่นวาย แต่ความจริงแล้วบิ๊กซังจีไม่ใช่กลุ่มคนอันธพาล ในเวลานั้นการมีชุมชนออนไลน์กับเพื่อนๆ ของคุณกำลังเป็นที่นิยม บิ๊กซังจีเป็นชื่อของชุมชนออนไลน์ มันไม่ใช่สถานที่ลับสำหรับคนอันธพาลเท่านั้น

— คิม ฮิเอโอระ

อดีตนักเรียน C อีกคนโต้แย้งคำกล่าวของ Kim Hieora โดยบอกว่า

'ใครๆ ก็สามารถสมัครเข้าร่วมได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับการยอมรับให้เข้าร่วมกลุ่มจริงๆ ชุมชนออนไลน์มีไว้สำหรับผู้ที่ชอบกลั่นแกล้งคนอื่นเท่านั้น จู่ๆ พวกนั้นก็มาขอเงินเรา ด้วยเงินนั่น พวกนั้นจะเอาไปซื้อบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไปร้องคาราโอเกะ พวกนั้นจะซื้อของขวัญให้แฟนโดยใช้เงินนั่น และหากคุณไม่มอบเงินให้พวกนั้น พวกนั้นก็จะตามรังควานไม่ยอมหยุด... '

— อดีตนักเรียน C

คิมฮีออรายังได้ตอบโต้ต่อคำกล่าวอ้างเหล่านี้ด้วย

'เป็นเรื่องจริงที่ฉันมารวมตัวกันกับเพื่อนกลุ่มบิ๊กซังจี ฉันถูกนักเรียนรุ่นพี่ในโรงเรียนตีโดยไม่มีเหตุผล แต่ฉันไม่ได้ตีนักเรียนที่อายุน้อยกว่าหรือเพื่อนของฉัน'

นักเรียนมัธยมต้นปีที่ 2 จู่ๆ ก็ขอเงิน 100,000 วอนจากเรา เราไม่มีเวลารวบรวมเงิน ดังนั้นเราจึงไปรวบรวมเงิน 50,000 วอนจากพวกนักเรียนชั้นมัธยมต้นปีที่ 2 และอีก 50,000 วอนจากนักเรียนชั้นมัธยมต้นปีที่ 1

ฉันยอมรับว่าฉันรับรู้เรื่องนี้ และฉันก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน แต่ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมในการล่วงละเมิดทางวาจาหรือทำร้ายร่างกาย ทำไมถึงชื่อของฉันถึงออกมาล่ะ ตอนนั้นฉันอยู่ข้างๆคุณหรือเปล่า? ฉันเดินผ่านคุณหรือเปล่า? ฉันไม่เคยเป็นผู้นำในเรื่องนี้…

'บางทีฉันอาจจะไม่ได้คิดจริงจังอะไรมากเพราะตอนนั้นยังเป็นเพียงนักเรียนวัยรุ่นที่ถูกรังแก เมื่อคิดย้อนกลับไป มันถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สำหรับฉันที่ยืนดูเหตุการณ์นั้น'

— คิมฮีออรา

การขโมยของพร้อมกับนักเรียนอีกคน

ในภาคเรียนแรกของปี 2004 คิมฮีออราอยู่ชั้นมัธยมต้นปีที่ 3 และนักเรียน X ที่เกี่ยวข้องกับการขโมยสิ่งของส่วนตัวนั้นอยู่ชั้นมัธยมต้นปีที่ 2 ในเวลานั้นธุรกิจของพ่อของคิมฮีออราล้มเหลว ส่งผลให้ครอบครัวล้มละลาย เธอทำงานหนักเพื่อหารายได้โดยทำงานที่ร้านฟาสต์ฟู้ดของเกาหลี

คิมฮีออราเล่าเรื่องราวของครอบครัวให้กับนักเรียน X และ Y ได้รับทราบ ซึ่งนักเรียน X และ Y มีชื่อเสียงในโรงเรียนมัธยมต้นหญิงซังจี และมิตรภาพนี้มีบทบาทสำคัญในการก่อการโจรกรรมนี้ด้วย

Dispatch พูดคุยกับ X เกี่ยวกับเหตุการณ์การโจรกรรมนี้

'ฉันถามคิมฮีออราว่าทำไมเธอถึงทำงานพาร์ทไทม์ เธอบอกว่าครอบครัวของเธอล้มละลายและประสบปัญหาทางการเงิน ฉันอยากจะช่วยเธอมากเลย… ฉันจึงขโมยของด้วยตัวเอง ฉันอยากจะดูดีต่อหน้าเธอ'

— อดีตนักเรียน X

X ยังเขียนในจดหมายขอโทษและสะท้อนให้เห็นว่าพวกเธอขโมยสิ่งของเพื่อช่วยเหลือทางด้านการเงินให้กับคิมฮีออรา ครูไม่เชื่อเธอ และลงโทษทั้ง X และคิมฮีออรา คำกล่าวของเธอขัดแย้งโดยตรงกับคำกล่าวของคิมฮีออรา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว คิมฮีออราสามารถจำเหตุการณ์นั้นได้อย่างชัดเจนและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Dispatch

'เธอเป็นเพื่อนที่ติดตามฉันตลอด ฉันคิดว่าเธอได้ยินเรื่องสถานการณ์ของครอบครัวฉันและพยายามช่วยเหลือฉัน ฉันไม่ได้บอกให้เธอทำ แต่ไม่มีใครเชื่อฉัน'

— คิมฮีออรา

ทั้ง X และคิมฮีออราได้ทำงานบริการสังคมเพื่อเป็นการลงโทษ พวกเขาถูกส่งไปยังสถานที่ที่แตกต่างกันเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อไตร่ตรองความผิด

'ฉันเสียใจมากขณะที่ทำงานบริการสังคม ฉันจะมีชีวิตอยู่อย่างไรโดยที่ไม่มีใครเชื่อฉัน... ฉันตระหนักว่าฉันมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความไว้วางใจจากผู้อื่น'

— คิมฮีออรา

หลังจากนั้น คิมฮีออราต้องการทำงานเพื่อพัฒนาตัวเอง เธอเรียนหนักมากขึ้นในภาคเรียนที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาด้านมนุษยศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมปลาย ในที่สุดเธอก็เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายหญิงบุควอน ในขณะที่ X จบลงด้วยการย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ข่าวลือและฉายาว่าเป็นหัวขโมยยังคงติดตาม X ไม่ว่าเธอไปที่ไหนก็ตาม

'ฉันใช้ชีวิตและทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น แต่บางคนกลับต้องเจ็บปวด มันทำให้ฉันใจสลายเมื่อนึกถึงพวกเขา'

— คิมฮีออรา

ความทรงจำของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

ผู้ให้ข้อมูลคนหนึ่งเกี่ยวกับคิมฮีออราอ้างว่าคิมฮีออราทำให้เธอต้องซื้อบุหรี่ ผู้ให้ข้อมูลอีกคนอ้างว่า คิมฮีออราจะเอาเงินจากเธอไปร้องคาราโอเกะ แต่คำกล่าวอ้างของคิมฮีออรานั้นกลับแตกต่างออกไป

'ฉันไม่เคยมีส่วนร่วมในการกลั่นแกล้งโดยตรง ตอนนั้นมีการทำโทษทางร่างกาย ฉันถูกเรียกไปที่ห้องทำงานของครูและถูกตี เมื่อถูกถามว่าใครบังคับให้ฉันทำแบบนั้น ฉันถูกดุมากขึ้นเมื่อถูกถามว่าจะไปถามคนไหนได้บ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันเองก็ไม่เคยสูบบุหรี่เหมือนกัน จริงๆ แล้วฉันพยายามทำให้ภาพลักษณ์ของฉันดูแข็งแกร่ง แต่ร่างกายฉันไม่รับบุหรี่ นอกจากนี้แฟนของฉันในตอนนั้นยังเกลียดผู้หญิงที่สูบบุหรี่อีกด้วย ฉันชอบร้องเพลงที่คาราโอเกะ ฉันไปคาราโอเกะบ่อยๆ มีบางครั้งที่เพื่อนของฉันจ่ายเงินให้ ฉันจำไม่ได้ว่าเราได้เงินมาอย่างไร แต่ฉันไม่เคยรับเงินจากผู้อื่นโดยการรีดไถเลย'

— คิมฮีออรา

เมื่อคิมฮีออราปรากฏตัวใน The Glory สมาชิกหลายคนจากกลุ่มบิ๊กซังจีที่ยังคงติดต่อกันอยู่ ได้พูดคุยเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของคิมฮีออราในซีรีส์เรื่องนั้น

นักเรียน 1: เธอเรียนรู้ที่จะกลั่นแกล้งคนอื่นจากการดูภาพยนตร์ของรยูซึงบอมหรือเปล่า?

นักเรียน 2: ฮ่าๆ เธอก็เหมือนกับตอนที่เธออยู่มัธยมต้นเลย

นักเรียน 3: มันสมเหตุสมผลไหมที่คิมฮีออราจะเป็นนักแสดง?

นักเรียน 4: ล่าสุด ความรุนแรงในโรงเรียนเริ่มรุนแรงขึ้นแล้ว

นักเรียน 5: คิมฮีออราค้นพบตัวละครนั้นจากในชีวิตจริงของเธอ ฮ่าๆ

นักเรียน 6: นั่นก็แค่ทำตัวเหมือนชีวิตจริงนั่นแหละ

นักเรียน 7: ทั้งใบหน้าและวิธีการพูดของเธอเหมือนกับตอนนั้นเลย

หมายเหตุ การทำข่าวของ Dispatch เกี่ยวกับอดีตของคิมฮีออราสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน 2023 คิมฮีออรากังวลว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อ Uncanny Counter 2 ในขณะที่ซีรีส์กำลังเตรียมออกอากาศ นั่นคือเหตุผลที่ Dispatch รอจนถึงการออกอากาศตอนสุดท้ายของซีรีส์ ก่อนจะแชร์รายงานของพวกเขาออกมา

ที่มา  Dispatch

ต้นสังกัด คิมฮีออรา (Kim Hieora) ปฏิเสธข่าวลือเรื่องความรุนแรงในโรงเรียน และเธอออกมาเขียนจดหมายด้วยตัวเอง