[ คำเตือน : บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง ]

เป็นซีรีส์ที่เรียกได้ว่า เปลี่ยนโปสเตอร์แต่ละครั้ง ส่งผลต่อเส้นเรื่องจริงๆ
สำหรับซีรีส์แนวฆาตกรโรคจิต เรื่อง MOUSE
กับผลงานการแสดงระดับคุณภาพของ "อีซึงกิ"
ที่ทุกเสียงการันตีว่าเล่นได้ลึก ซับซ้อน และเข้าถึงตัวละครจนน่ากลัว
.
ในสัปดาห์นี้หลังจากที่ EP.15 ได้มอบเซอร์ไพรส์ให้กับคนดู
ชนิดที่เราเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า ต้องรู้สึกยังไง
กับชะตากรรมของตัวละคร "จองบารึม"
เพราะบางมุมก็ดูน่าสงสาร แต่ในบางมุม
มันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปตั้งแต่ต้น
.
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และอุ่นเครื่อง
ก่อนที่จะไปรับชม EP ซีรีส์ตอนพิเศษประจำสัปดาห์นี้
นี่คือ 5 เรื่อง ที่ต้องรู้ ก่อนดู MOUSE รับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ VIU
.
เรื่องที่ 1 : ไซโคพาธ กับ การทดลองลับของ "แดเนียล อี" กับ "ฮันซอจุน"

ในช่วงต้นของซีรีส์ เราจะได้เห็นฉากการประชุมในระดับรัฐบาล
ที่มีการผลักดันกฏหมายบังคับให้ตรวจหายีนไซโคพาธกับหญิงตั้งครรภ์
เพื่อที่จะได้ตรวจหาว่า เด็กในท้องนั้น มียีนไซโตพาธหรือไม่
แต่ผลจากการพูดคุยนั้น เป็นที่ยุติว่ากฏหมายนั้นต้องถูกปัดตกไป
ดร.แดเนียล อี มองเห็นว่าคนแบบนี้จะเป็นอันตรายต่อสังคม
เขาจึงเลือกใช้วิธีให้ "นักล่า" ตามล่า "นักล่า" ด้วยกันเอง
โดยคนที่เขาส่งข้อมูล และเลือกเป้าหมายให้ไปจัดการ
ก็คือ "จองบารึม" ในช่วงก่อนที่จะถูก "ซองโยฮัน"
เอาก้อนหินทุบหัวจนต้องเข้ารับการผ่าตัดไป
ส่วนตัวละครที่ได้รับฉายาว่า "นักล่าหัว" อย่าง ฮันซอจุน
ก็ทดลองผ่าตัดเปลี่ยนสมอง เพื่อพิสูจน์ว่าการถ่ายทอดความก้าวร้าว
จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งนั้น สามารถทำได้สำเร็จเช่นกัน
การทดลองของทั้งสองคน จึงกลายเป็นการต่อสู้กันด้วยวิทยาศาสตร์
ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน คนหนึ่งต้องการหยุดยั้ง "ปีศาจ" ด้วยการใช้ "ปีศาจ"
ส่วนอีกคนต้องการสร้าง "ปีศาจ" ด้วยมือของตัวเอง

เรื่องที่ 2 : สมองของไซโคพาธ

ในซีรีส์เรื่อง MOUSE เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัด
ถึงความแตกต่างระหว่าง บารึม คนก่อน กับ บารึมในปัจจุบัน
นั่นคือ การแสดงออกทางอารมณ์ที่ต่างกัน
จองบารึม คนก่อน แสดงออกทุกอย่างด้วยการแสดง
แต่จองบารึมคนนี้ แสดงออกด้วยอารมณ์ที่มาจากข้างใน
.
คำถามคือทำไมการผ่าตจัดสมองถึงได้เปลี่ยนเขาเป็นคนละคน
คำตอบ คือ สมองของไซโคพาธนั้น จะแตกต่างจากคนทั่วไป
โดยเฉพาะสมองส่วนหน้า ที่ทำหน้าที่ควบคุมศีลธรรม
และสมองส่วนอมิกดาลา ที่ควบคุมความกลัวของมนุษย์
ในซีรีส์เรื่องนี้ เราจะเห็นว่า หลังจากเข้ารับการผ่าตัด
เวลา บารึม เจอกับ พีดีชเว ภาพจะ Flashback ไปหาอดีต
ทำให้บารึมรับรู้ถึงความรู้สึกกลัวที่เป็นของ โยฮัน เสมอ
นี่คือสาเหตุที่ทำให้การผ่าตัดสมอง มีผลต่อความเป็นมนุษย์ของบารึม

เรี่องที่ 3 : พีดีชเว ตัวละครที่ถูกกระทำมาตั้งแต่เด็กจนโต

หากจะมีตัวละครไหนที่น่าสงสารไม่แพ้ บงอี ที่สูญเสียยาย
และ มูจี ที่สูญเสียพี่ชายไป เพราะความโหดร้ายของ บารึม
ตัวละครนั้นก็คือ พีดีชเว เพราะเธอมีปมการถูกทำร้ายมาตั้งแต่ยังเด็ก
พอโตขึ้นมามีความรัก กับ หมอโยฮัน คำว่าลูกของนักล่าหัว
ก็ตามมารังควานเขาซ้ำๆ เพราะถูกหมายหัวว่าต้องเป็นไซโคพาธแน่นอน
ทั้งที่ความจริง ยีนของโยฮัน คือ พันธุกรรมอัจฉริยะ ที่พบเจอได้เพียง 1%
และเมื่อทุกอย่างยังไม่ถึงจุดคลี่คลาย บารึม ยังไม่สารภาพความผิด
โยฮัน เลยถูกจดจำในฐานะฆาตกรต่อเนื่อง ลูกของเธอกับโยฮัน
จึงถูกมองอย่างตั้งแง่ว่าเป็นคนที่ชืบเสื้อสายไซโคพาธมาจากพ่อ

เรื่องที่ 4 : พฤติกรรมไซโคพาธของ บารึม

สำหรับใครที่อยากรู้พฤติกรรมของ ไซโคพาธให้มากขึ้น
ในประเด็นนี้ จะกล่าวแบบสรุปๆ จากที่ซีรีส์ได้เฉลยมาแล้ว
นั่นคือ อันดับแรกความเป็นไซโคพาธจะแสดงออกจากพฤติกรรม
ที่ชอบทรมานสัตว์ก่อน ซึ่งพฤติกรรมนี้ เราจะเห็นทั้งการหักคอนก
เอานกมาใส่กล่องปิดทึบที่ไม่มีอากาศ รวมถึงเอาฟันแมวมาทำเป็นสร้อย
ต่อมา คือ การแสดงออกทางสีหน้า ใครที่เคยดูเรื่อง Flower of Evil
จะเห็นซีนที่คล้ายกันของสองตัวละคร นั่นคือการทดสอบยิ้มหน้ากระจก
เพราะคนที่เป็นไซโคพาธจะบกพร่องด้านการแสดงออกทางอารมณ์

เรื่องที่ 5 : ลำดับการฆ่าของ "บารึม"

ในซีรีส์เรื่องนี้ ถ้าไล่จาก EP แรกจนถึง EP ล่าสุด
เราจะเห็นลำดับการฆ่าของ บารึม ที่พีคขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งถ้าไม่นับเหยื่อที่ถูกฆ่าตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง
และนับเฉพาะคนใกล้ตัวของ บารึม
ก็จะไล่ลำดับมาตั้งแต่ เพื่อนของตัวเอง คือ ชีกุก
ยายของ บงอี ผู้หญิงที่ตัวเองอยากอยู่ใกล้
พี่ชายของ มูจี ตำรวจรุ่นพี่ไว้ใจบารึมจนเรียกน้องชาย
ฮันกุก เด็กที่ถูกฆ่าตายและแช่ศพไว้ในห้องใต้ดิน
และหลังจากที่เขาเข้ารับการผ่าตัด คนแรกที่ถูกบารึมฆ่า ก็คือ อูฮยองซอล
ฆาตกรต่อเนื่องที่พ่อของเขาออกรับแทนลูกจนถูกฆ่าตาย
ลำดับต่อมา คือ คังด็อกซู อดีตนักโทษข่มขืนที่พ้นโทษออกมา
และรายล่าสุด คือ คิมบยองแท คนขายเนื้อหมูโรคจิต
ที่เอาน้ำยาเคมีราดใส่ โคนัม เพื่อปิดปากไม่ให้บอกใครได้ว่าเขาเป็นฆาตกร

รับชม Mouse ได้ที่นี่
http://bit.ly/3kUsZnW

#Mouse #LeeSeungGi