บีทีเอส (BTS) เล่าเรื่องราวตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัดจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของพวกเขาในรายการ “You Quiz On The Block”
2021-03-26 09:07:13
Advertisement
คลิก!!!

บีทีเอส (BTS) ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังปรากฎตัวในฐานะแขกรับเชิญในรายการ You Quiz on the Block ทางช่อง tvN เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา

บีทีเอส ได้พบกับพิธีกร ยูแจซอก (Yoo Jae Suk) และ โจเซโฮ (Jo Se Ho) พร้อมพูดคุยเรื่องราวตั้งแต่ช่วงที่ยังเป็นเด็กฝึกหัด เรื่อยมาจนประสบความสำเร็จระดับโลก และอีกมากมาย

สมาชิกในวงบอกว่าพวกเขาเป็นแฟนของรายการ You Quiz on the Block และสมาชิกทั้ง 7 คนบอกต้นสังกัดว่าพวกเขาอยากมาออกรายการนี้

จีมิน (Jimin) ได้พูดถึงแฟนด้อมของวง อย่างอาร์มี่ (ARMY) ว่า “พวกเขาเป็นคนที่พวกเรารักครับ ผมคิดไม่ออกเลยว่าจะพูดเป็นคำอื่นไปได้อย่างไร พวกเขาคือคนที่ทำให้เรามีความรู้สึกที่หลากหลาย แม้ว่าเราจะยังไม่เติบโต แต่พวกเขาช่วยให้เราเติบโตและบอกเราว่าไม่เป็นไรเวลาที่เราทำผิดพลาด พวกเขาคือคนที่ทำให้ผมคิดถึงเหตุผลของความรัก”


ชูก้า (Suga) พูดต่อ “แฟนคลับของพวกเราพิเศษสำหรับเรามาก ในตลาดเพลงอเมริกัน การถูกเปิดเพลงในรายการวิทยุเป็นเรื่องสำคัญ แฟนคลับของพวกเราช่วยเปิดประตูให้กับเรา เรายังตกใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มันเกิดขึ้นเพราะพวกเขาส่งข้อความขอเพลงไปยังดีเจ” นอกจากนี่อาร์มี่ยังได้รวมเงินกันจ่ายค่าโฆษณาของรายการ You Quiz on the Block ตอนนี้ด้วย

ช่วงสัมภาษณ์รายบุคคลอาร์เอ็ม (RM) และ วี (V) ได้เล่าถึงตอนที่พวกเขาได้พบกันครั้งแรก อาร์เอ็มบอกว่า “ตอนนั้นเป็นเดือนกันยายน ปี 2011 เราอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ 2 ห้องนอนในย่านนอนฮยอน-ดง ตอนนั้นวีตัดผมเกรียน ตอนที่เขามาที่หอพักครั้งแรก เขาเดินไปดูทั่วห้อง ดูเหมือนเป็นพวกที่จะไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งง่ายๆ”

อาร์เอ็มเล่าต่อ “ตอนนั้นมีเด็กฝึกหัดหลายคน ประมาณ 30 คนที่เวียนกันเข้ามาอยู่ที่หอนอนฮยอน-ดง และ 7 คนในนั้นกลายเป็นพวกเราในตอนนี้” วีเสริมว่า “ตอนแรก มันเศร้ามากเวลาที่มีเด็กฝึกหัดหนึ่งคนออกไป แต่หลังจากนั้นผมก็เริ่มคุ้นเคย ผมมักจะพูดว่า ‘นายจะไปแล้วเหรอ?’ และหลังจากนั้นก็พูดว่า ‘มาเยี่ยมกันบ้างนะ’ จุดที่ยากที่สุดคือช่วงที่ผมไม่สามารถเจอครอบครัวได้บ่อยนัก ขนาดตอนที่พวกเขามาที่กอเจโดเพื่อมาเจอผม แต่ผมไปเจอพวกเขาได้แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เป็นช่วงเวลาที่ยากมาก แต่สุดท้ายผมก็ค่อยๆชินกับมัน”

วียังเล่าอีกว่า “พอรู้สึกว่าช่วงเวลาเป็นเด็กฝึกหัดมันหนักหนาเกินไป ผมจะโทรไปร้องไห้กับพ่อ และบอกว่าอยากจะยอมแพ้ พ่อจะตอบมาว่า ‘ถ้ามันยากนัก ลูกเลิกก็ได้นะ มีงานอีกเยอะแยะให้ทำ หาอย่างอื่นทำก็ได้’ ตอนนั้นผมเกือบจะทำตาม ผมรู้สึกอายที่พูดแบบนั้นออกมา หลังจากเวลาผ่านไป ผมถึงคิดได้ว่ามันคือคำให้กำลังใจจากพ่อของผม”

จีมิน, จองกุก (Jungkook) และ เจ-โฮป (J-Hope) ได้เล่าถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากตอนเป็นเด็กฝึกหัดเช่นกัน เจ-โฮปบอกว่า “มันยากมากเพราะเราทุกคนต้องอยู่ห้องเดียวกัน” จองกุกพูดต่อ “ผมอายุน้อยที่สุด ผมต้องรอให้คนอื่นเข้านอนถึงจะอาบน้ำได้ ผมนอนเตียงชั้นบน และต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวนคนอื่น”

จีมินบอกว่า “ผมเป็นสมาชิกคนสุดท้ายเลยที่เข้ามาฝึก ผมเข้ามาพร้อมกับความหวังที่สูงลิ่ว แต่พอไปถึงหอพัก มีรองเท้าเต็มไปหมด เต็มทั้งทางเดินไปครัว ผมไม่ได้อยู่ในหอพักนั้นในสถานะสมาชิกวง BTS และบ้านผมไม่ได้อยู่ในโซล ผมเลยกังวลว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวตัวเองที่ต้องออกไป”

เจ-โฮปและจองกุก เล่าเรื่องตอนที่พวกเขาทะเลาะกันเพราะตะกร้าผลไม้ ในขณะที่จิมินและวีเล่าตอนที่เถียงกันเรื่องเตียงนอน เจ-โฮปเล่าว่า “ผมต้องยอมทิ้งอะไรหลายอย่าง [เพื่อมาเป็นเด็กฝึกหัด] แต่นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากทำ ผมเลยต้องอดทนเอาไว้ แต่มันยากมากเวลาที่มีคนมาถามว่าเมื่อไหร่จะเดบิวต์”


จองกุกบอกว่า “ผมคิดว่าความยากลำบากและคำก่นด่าในวันนั้นทำให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้ นี่เป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกของคุณสมาชิกคนอื่น ผมกลัวมากตอนที่มาโซลครั้งแรก ผมคิดถึงพ่อแม่และร้องไห้ หลังจากเดบิวต์แล้ว ผมยังรู้สึกถูกเปรียบเทียบกับโวคอลในวงอื่น ผมกลัวว่าตัวเองจะถูกตัดออกจากตำแหน่งเมนโวคอล จากนั้นผมเลยไม่ฝึกร้องเพลงเฉพาะแค่ตามตาราง แต่ร้องทุกที่ที่ผมไป”

จีมินบอกว่า “ตอนแรก มันยากเพราะว่าผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ตอนที่ผมเห็นวีและจองกุกฝึก ผมทำตามพวกเขาแต่ก็รู้สึกว่ามันเร่งรีบเกินไป” จองกุกพูดแทรกขึ้นว่า “ผมไม่เคยเจอใครเข้มงวดกับตัวเองเท่ากับจีมินเลยครับ” จีมินพูดต่อ “ผมนอนตอนตี 4 และตื่น 6 โมงเช้า ผมใช้ชีวิตแบบนี้ซักพัก ผมโทรหาพ่อ และพ่อบอกว่า ‘ถึงแม้ลูกจะทำไม่สำเร็จ แต่ก็อย่าผิดหวังในตัวเองเลยนะ’ สมาชิกคนอื่นเติมเต็มส่วนที่ผมขาด และผมได้รับความช่วยเหลือมากมายจากพวกเขา”

เมื่อถามเรื่องที่พวกเขากังวลอยู่ในขณะนี้ เจ-โฮปบอกว่า “ไม่มีอะไรอยู่ไปตลอดครับ นี่เป็นคำที่ชูก้าเคยพูดไว้ในอดีต แต่แทนที่อยู่ๆจะตกลงมาเลย มันคงจะดีกว่าหากค่อยถึงจุดสิ้นสุดแบบค่อยๆร่อนลงอย่างปลอดภัย ผมคิดว่าเขาพูดถูกครับ”

จินและชูก้าพูดถึงการเป็นสมาชิกที่อายุมากที่สุดของวง แต่เป็นน้องเล็กของครอบครัว จินบอกว่า “จนกระทั่งมัธยมปลาย พี่ชายของผมคือคนที่ผมเกลียดที่สุดในโลก” ชูก้าพูดต่อ “ผมก็ไม่สนิทกับพี่ชายเหมือนกันครับ” ทั้งคู่พูดแซวพี่ชายว่าความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อบีทีเอสประสบความสำเร็จ จินเล่าว่าเขาถูกทาบทามข้างถนนเพราะว่าเขาหน้าตาดี และบอกว่าตอนแรกเขาฝันอยากเป็นนักแสดง

ชูก้าบอกว่า “หลายคนถามพวกเราว่าทำยังไงถึงเข้ากันได้ดี ผมบอกคนเหล่านั้นไปว่า เพราะพวกเราทะเลาะกันบ่อย เราทะเลาะกันบ่อยจริงๆครับ แต่เราก็คืนดีกันภายใน 24 ชั่วโมง นั่นเป็นกฎที่เราตั้งไว้”

ชูก้ายังได้พูดถึงความรู้สึกที่หลากหลายของเขาหลังจากบีทีเอสทุบสถิติมากมาย “เมื่อสิ่งที่เราไม่เคยฝันมาก่อนกลายเป็นความจริง มันมีความรู้สึกกดดันอย่างมหาศาลเลยครับ” เขาพูด “การเป็นไอดอลไม่ใช่เส้นทางอาชีพที่ยาวนาน ผมเลยคิดว่าจะเลิกเป็นไอดอลถ้าตัวเองได้อันดับ 1 ในรายการเพลง แล้วจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเอง แล้วพอเลิกเป็นนักร้องแล้ว ผมคิดว่าตัวเองคงไปเป็นโปรดิวเซอร์ แต่อยู่ๆเราก็ได้ไปอเมริกา และผมไม่คิดด้วยซ้ำว่าเราจะได้ไปงาน Billboard Music Awards”

ชูก้าพูดต่อ “เราไปงานประกาศรางวัลที่อเมริกา และผมกลัวมากเลยครับ ไม่มีศิลปินรุ่นพี่ที่เราสามารถถามพวกเขาได้ ตอนที่แสดงครั้งแรกในอเมริกา ผมกังวลมาก ผมกลับไปโรงแรมและร้องไห้เพราะว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ ผมไม่อยากเจอกับสถานการณ์ที่กดดันขนาดนี้ ผมกลัวมากเพราะว่ารู้ว่านี่มันแค่เริ่มต้น แน่นอนว่ารู้สึกเป็นเกียรติและรู้สึกดีใจ แต่ผมก็สงสัยว่านี่เป็นที่ที่เหมาะกับพวกเราแล้วเหรอ แล้วเราต้องการมาไกลขนาดนี้จริงๆเหรอ”

ที่มา ( 1 ) ( 2 ) ( 3 )

แปลโดย  https://popcornfor2.com

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X