ซีอีโอ อีซองซู (Lee Sung Soo) ของ SM Entertainment ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานเทศกาลสตาร์ท-อัพระดับโลก “COMEUP 2020” เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน

อีซองซู ได้พูดถึง วัฒนธรรม-เทคโนโลยี ของ SM ที่แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ การสร้างวัฒนธรรม, การพัฒนาวัฒนธรรม และการขยายวัฒนธรรม ส่วนของการสร้างวัฒนธรรมได้แก่ การค้นหา, ฝึกฝน, ผลิต และจัดการ ส่วนการผลิตเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของกระบวนการนี้ โดยอีซองซู ได้พูดถึง เอ็กโซ (EXO) ที่เดบิวต์ด้วยคอนเซ็ปต์เฉพาะของวง ‘โลกทัศน์’

อีซองซู กล่าวว่า “โลกทัศน์ ไม่ใช่แค่เรื่องราว แต่เป็นจุดสูงสุดของเทคโนโลยีวัฒนธรรม เป็นทรัพย์สินทางปัญญา ที่ทำให้แฟนคลับเชื่อมถึงได้ การสร้างโลกขึ้นมาถือเป็นเรื่องพื้นฐานไปแล้วสำหรับวงการเคป็อป  โลกทัศน์ของ SM ไม่ได้จำกันฉพาะวงใดวงหนึ่ง และศิลปินทั้งหมดจะเชื่อเข้าด้วยกันเป็นโลกใบใหญ่ เราอยู่ในขั้นตอนการสร้างวัฒนธรรมนี้ขึ้น ในบริษัทเราเรียกมันว่า ‘วัฒนธรรมจักรวาลของ SM’” ยกตัวอย่างเช่น โลโก้ของ aespa ไปปรากฏอยู่ในตอนจบของมิวสิควิดีโอของ SuperM

การพัฒนาวัฒนธรรม รวมไปถึงการที่ศิลปินสามารถร่วมงานกันและไปยังผลงานของหรือโลกของศิลปินอีกกลุ่มได้ ผ่านทางภาพยนตร์, รายการวาไรตี้ และละครเพลง มีการนำเทคโนโลยีอย่าง โฮโลแกรม, AR, เกม, การร่วมมือกันระหว่าง SM กับ Marvel, การร่วมมือกันระหว่าง SM และวงออเคสตร้า ส่วนการขยายวัฒนธรรม SM มีแผนจะสร้างศูนย์รวมความบันเทิงในลอสแอนเจลิส และพัฒนาแพลตฟอร์ม เหมือนอย่าง Beyond Live

อีซองซูบอกว่า “อาจจะดูเหมือน SM ทำตามขั้นตอนนี้ไปทีละขั้น แต่จริงๆแล้ว การขยายวัฒนธรรม นำไปสู่การสร้างสรรค์วัฒนธรรมอีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่น เกิร์ลกรุ๊ป aespa ที่เดบิวต์ไปในอาทิตย์นี้ พวกเธอเป็นวงน้องใหม่ โดยมีสมาชิกทั้งหมด 8 คน เป็นคนจริงๆ 4 คน และอวาตาร์ 4 ตน วงสร้างมาจากการเชื่อมต่อระหว่างสมาชิกและเทคโนโลยีอวาตาร์ วงได้รับความสนใจในการเดบิวต์เป็นอย่างมาก โดยมียอดวิว 21 ล้านวิวภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังจากมิวสิควิดีโอถูกปล่อยออกไป จากการจำลองเสมือนจริงนี้ ทำให้โลกของ aespa สามารถเชื่อมต่อกับโลกของสมาชิกคนอื่นได้ รวมถึง โบอา (BoA) จากอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว”

อีซองซูยังได้พูดถึงแผนการในอนาคตของ Red Velvet ว่า “เมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์ขัดแย้งเกิดขึ้นเล็กน้อย เราขออภัยต่อเรื่องนั้น และ Red Velvet กำลังจะกลับมาเร็วๆนี้ พร้อมด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น”