เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก brecorder.com

            เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2556 เว็บไซต์ businessinsider.com รายงานว่า นายทาโร อาโซะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่เขากล่าวระหว่างการประชุมสภาการปฏิรูปสวัสดิการสังคมว่า ผู้สูงอายุญี่ปุ่นที่ป่วยใกล้ตายควรจะยอมตายให้ไว แทนที่จะทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องสิ้นเปลืองสวัสดิการดูแล

            โดย นายทาโร อาโซะ ได้ระบุว่า ถ้าผู้สูงอายุป่วยถึงวาระที่ต้องตายแล้ว อย่างเช่น ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องต่อสายให้อาหาร เพราะไม่สามารถทานอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว ก็ไม่ควรจะยื้อชีวิตเพื่อบังคับให้พวกเขาอยู่ต่อ และสำหรับตัวเขา เขาเองก็ไม่ต้องการให้รัฐมาเลี้ยงดูยื้อชีวิตเขาแบบนี้ เพราะถ้าเป็นเขา เขาจะรีบเสียชีวิตอย่างเร็วเลย

            สำหรับประเด็นเรื่องผู้สูงอายุเป็นประเด็นอ่อนไหวสำคัญของญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีประชากรที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดของโลก โดย เกือบ 1 ใน 4 ของประชากร 128 ล้านคน มีอายุมากกว่า 60 ปี และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ในอีกครึ่งศตวรรษข้างหน้า

            อย่างไรก็ตาม นายอาโซะได้กล่าวแก้ตัวภายหลังว่า เขาพูดตามความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่หมายถึงว่าสวัสดิการรัฐควรจะสนับสนุนสิ่งที่เขาบอก เพียงแต่เขามองว่า เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะใช้ชีวิตในวันสุดท้ายอย่างสงบสุข

            ทั้งนี้ นายทาโร อาโซะ ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองปากร้าย แสดงทัศนะดุเดือด โดย เมื่อปี 2001 (พ.ศ. 2544) เขาสร้างไม่พอใจให้แก่สังคมญี่ปุ่นหลังบอกว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จจะกลายเป็นประเทศที่พวกยิวต้องการจะอาศัยอยู่

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม