น้ำดื่มถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำเป็นของเรา และอย่างที่เรารู้กันดีว่าในเมืองไทยไม่สามารถดื่มน้ำประปาได้ เพราะอาจมีสารปนเปื้อน เช่น สนิม ตะกอน หรือสารเคมีที่ตกค้างอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่หากพูดถึงการเลือกใช้เครื่องกรองน้ำภายในองค์กรแล้ว การนำเครื่องกรองน้ำ หรือตู้กดน้ำมาช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานอาจจะเหมาะสมที่สุด 

แต่หลายๆ คนอาจสงสัยว่า หากต้องการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำควรเลือกแบบไหนดี ยิ่งถ้าต้องการนำไปใช้งานภายในบริษัท ที่นอกจากจะต้องตอบโจทย์กับการใช้งานแล้ว ยังจะต้องใช้ได้ยาวนาน วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ ของการเลือกเครื่องกรองน้ำมาฝาก 

เลือกเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี?

สำหรับผู้ประกอบการที่ยังชั่งใจอยู่ว่า ควรเลือกเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี เพราะในปัจจุบันมีเครื่องกรองน้ำหลากหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้

• เครื่องกรองน้ำ RO (Reverse Osmosis): เป็นระบบกรองน้ำที่นิยมมากที่สุด เพราะสามารถกรองสิ่งสกปรกได้ละเอียดที่สุดเกือบ 100% แต่ก็มีข้อเสียคือเสียแร่ธาตุในน้ำไปด้วย และต้องมีการเปลี่ยนไส้กรองบ่อยครั้ง
• เครื่องกรองน้ำ UV: ใช้หลักการฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี UV เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกำจัดเชื้อโรคในน้ำ แต่ไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกได้ละเอียดเท่า RO
• เครื่องกรองน้ำแบบเซรามิก: เป็นเครื่องกรองน้ำแบบธรรมชาติ ใช้เซรามิกที่มีรูพรุนในการกรองสิ่งสกปรก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการน้ำดื่มที่เป็นธรรมชาติ แต่ประสิทธิภาพในการกรองอาจไม่ดีเท่า RO หรือ UV
• เครื่องกรองน้ำแบบ 5 ขั้นตอน: เป็นการรวมเอาเทคโนโลยีการกรองหลายๆ แบบมาใช้ร่วมกัน เพื่อให้ได้น้ำดื่มที่สะอาดและมีคุณภาพ

ในการลือกเครื่องกรองน้ำนั้น ยังจะต้องให้ความสำคัญกับไส้กรองน้ำด้วย เนื่องจากเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยกรองน้ำให้สะอาด ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลากหลายประเภท และแต่ละประเภทก็มีหน้าที่และคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณเลือกไส้กรองน้ำที่เหมาะสมกับความต้องการ ลองมาทำความรู้จักกับประเภทของไส้กรองน้ำที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไปกันเลย 

ประเภทของไส้กรองน้ำที่พบได้ทั่วไป

• ไส้กรอง PP (Polypropylene): ไส้กรองชนิดแรกที่น้ำจะผ่าน เป็นเหมือนตะแกรงสำหรับกรองสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ เช่น ทราย ตะกอน หรือสนิม
• ไส้กรองคาร์บอน: มีหน้าที่หลักในการดูดซับกลิ่น สี คลอรีน สารอินทรีย์ และโลหะหนักบางชนิด ทำให้น้ำมีรสชาติที่ดีขึ้น
• ไส้กรอง RO (Reverse Osmosis): เป็นไส้กรองที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถกรองสิ่งสกปรกได้ละเอียดมากเกือบ 100% รวมถึงแบคทีเรียและไวรัส แต่อาจจะดึงแร่ธาตุในน้ำออกไปด้วย
• ไส้กรองเซรามิก: ทำจากดินเผา มีรูพรุนเล็กๆ ช่วยกรองสิ่งสกปรกและแบคทีเรียได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการน้ำดื่มที่เป็นธรรมชาติ
• ไส้กรอง UV: ใช้แสง UV ในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ในน้ำ ไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกได้
• ไส้กรองอัลคาไลน์: ช่วยปรับค่า pH ของน้ำให้เป็นด่าง ซึ่งเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกไส้กรองน้ำ

• คุณภาพน้ำประปา: ถ้าคุณภาพน้ำประปาไม่ดีนัก ควรเลือกไส้กรองที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น RO
• ความต้องการในการใช้งาน: ถ้าต้องการน้ำดื่มที่สะอาดและปราศจากสิ่งเจือปน ควรเลือกไส้กรอง RO แต่ถ้าต้องการรักษาแร่ธาตุในน้ำไว้ ควรเลือกไส้กรองเซรามิก
• งบประมาณ: ราคาของไส้กรองแต่ละชนิดแตกต่างกันไป เลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณ
• ความถี่ในการเปลี่ยนไส้กรอง: แต่ละชนิดของไส้กรองจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน ควรเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่กำหนด

ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ

จะเห็นได้ว่า ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิต ยิ่งทำให้หลายๆ คนสับสนว่าควรเลือกเครื่องกรองน้ำแบบไหนดีที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิต แต่ทั้งนี้ เราควรต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ รอบตัวด้วย เพื่อเลือกเครื่องกรองน้ำที่ใช่ที่สุด  

• คุณภาพของน้ำประปา: หากน้ำประปาในพื้นที่ของคุณมีสิ่งปนเปื้อนมาก ก็ควรเลือกเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพในการกรองสูง
• จำนวนสมาชิกในครอบครัว: เลือกขนาดของเครื่องกรองน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนคนที่ใช้งาน
• งบประมาณ: เครื่องกรองน้ำแต่ละรุ่นมีราคาแตกต่างกันไป เลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี
• ขนาดและพื้นที่ติดตั้ง: พิจารณาขนาดและพื้นที่ที่มีสำหรับติดตั้งเครื่องกรองน้ำ
• ความสะดวกในการใช้งาน: เลือกเครื่องกรองน้ำที่ใช้งานง่าย และมีการบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก
• เลือกผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ พร้อมบริการครบครัน: การเลือกผู้ให้บริการที่มาพร้อมกับงานบริการที่ครบครันจะช่วยให้คุณรู้สึกอุ่นใจได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการให้เช่าเครื่องกรองน้ำ เปลี่ยนไส้กรองน้ำ หรือบริการซ่อมแซมใน 24 ชั่วโมง 

การเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหนดีที่ตอบโจทย์กับการนำไปใช้ภายในองค์กร ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีให้แก่เหล่าคนทำงาน เพราะฉะนั้น ก่อนการเลือกซื้อ อย่าลืมพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นให้รอบด้าน เพื่อให้ได้เครื่องกรองน้ำที่คุ้มค่ากับการลงทุนที่สุด