|
รู้เท่าทันผลิตภัณฑ์ลบริ้วรอย (Health & Cuisine)
ประเภทของริ้วรอย
Old Wrinkles ริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากกาลเวลา ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ริ้วรอยประเภทนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเราอายุ 60 ปี
Sun-dried Wrinkles เกิดจากผิวถูกแสงแดดทำร้ายไปถึงชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินไฟเบอร์เสื่อมสภาพลง ริ้วรอยประเภทนี้จะเริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ย่างเข้าวัย 20 ปี หากปล่อยไว้เมื่อเข้าวัย 30 ปีผิวจะเป็นกระ หรือจุดด่างดำสุดท้ายเมื่อเข้า 40 ปี ริ้วรอยจะลงลึกบนใบหน้า
Sleep Lines เกิดจากการนอนผิดท่าเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะการนอนตะแคงข้างหรือนอนคว่ำหน้า
Expression Lines เกิดจากผิวหน้าที่เคลื่อนไหวอยู่บ่อยๆ เช่น ขมวดคิ้ว หัวเราะ อ้าปาก ยิ้ม เป็นต้น จะพบเห็นริ้วรอยชนิดนี้ตั้งแต่อายุ 20 ปี และเริ่มมีรอยลึกขึ้นเมื่อช่วงอายุ 30-40 ปี
Gravity-Prone Grooves ริ้วรอยนี้สาเหตุจากแรงโน้มถ่วงเป็นสำคัญ ริ้วรอยชนิดนี้จะเกิดขึ้นตอนอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป บริเวณที่พบเห็นคือ หนังตาและมุมปาก พอย่างเข้า 40ปี จะพบริ้วรอยนี้บริเวณร่องแก้ม และเมื่อเข้าวัย 50 ปี อาการหย่อนคล้อยรุกรานไปถึงบริเวณคาง และขากรรไกร
รู้ไว้ใช่ว่ากับผลิตภัณฑ์ Anti-aging
ก่อนเลือกซื้อครีมบำรุงผิว ควรศึกษาให้แน่ใจเสียก่อนว่า ส่วนผสมของครีมแต่ละกระปุกที่เราจะซื้อนั้นดี จริงดั่งคำโฆษณาที่ว่าไว้หรือเปล่า
Cell Renewal Cream ครีมนี้จะมีส่วนประกอบของ เอเอชเอ บีเอชเอ และเรตินอล ช่วยเร่งกระบวนการผลัดผิวตามธรรมชาติให้ทำงานได้ดีและเร็วขึ้น แต่ครีมที่มีสรรพคุณนี้ความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้ความว่ามันจะช่วยลบริ้วรอย โดยเฉพาะริ้วรอยลึกๆ ได้
Face Lift Cream ครีมประเภทยกกระชับผิว อาศัยหลักแรงตึงตัวของผิว พอทาครีมตัวนี้จะมีสารบางตัวที่เป็นโพลีเมอร์ชนิดหนึ่ง ที่ช่วยยกกระชับผิวทำให้เกิดแรงตึงตัว เหมือนเวลานำไข่ขาวทาหน้า แต่ครีมประเภทนี้จะให้ความรู้สึกตึงหน้าอยู่เพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ต้องทาใหม่เรื่อยๆ ครีมประเภทนี้แม้จะช่วยยกกระชับหน้าให้ตึงก็จริง แต่ไม่ได้ช่วยบำรุงผิวเลย ดังนั้นจึงต้องมีการผสมครีมตัวอื่นที่ใช้ในการบำรุงผิวเข้าไปด้วย
ส่วนผสมยอดฮิตในAnti Aging
โคเอมไซม์ คิวเทน - เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวทนต่อรังสียูวีเอได้ดีขึ้น และยับยั้งการสร้างเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ครีมที่มีส่วนผสมของ Q10 สามารถลดริ้วรอยได้ถึง 23% โดยประมาณหากเปรียบกับครีมที่ไม่มี Q10 สำหรับปริมาณการใช้Q10 อย่างเห็นผลได้ดีคือความเข้มข้นที่ 1 % เป็นต้นไป
วิตามินซี - ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ, เป็นสารที่มีแอนตีออกซิแดนท์สูง จึงช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด วิตามินซีช่วยลดรอยดำ ทั้งยังช่วยลดริ้วรอยบางๆ ได้ แต่ทั่วไปครีมลดริ้วรอยมักจะมีวิตามินซีบรรจุอยู่น้อยมากๆ ไม่ถึง 0.5 % ทำให้ครีมทั่วไปที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ไม่สามารถใช้ลดริ้วรอยได้ดีมากนัก
วิตามินอี - มีสารโทรโคฟีรอล ช่วยฟื้นฟูผิวรวมถึงช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น
วิตามินเอหรือเรตินอล - วิตามินเอกระตุ้นให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวชั้นบน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้จากภายใน ผิวภายนอกจึงดูเรียบเนียน และริ้วรอยลดลง
เอเอชเอ(AHA) - กระตุ้นให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวชั้นบนเท่านั้น เนื่องจากครีมที่วางขายเป็นAHA ที่มีความเข้มข้นต่ำ(<15%) AHA กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ต้องมีความเข้มข้นสูง จึงใช้สำหรับทำทรีตเม้นต์AHA ที่ต้องดูแลโดยแพทย์ ซึ่งจะต้องทาแล้วล้างออกเท่านั้นเพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น - จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการทำลายเซลล์คอลลาเจน และอิลาสตินในผิวหนังที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาความสวยใส และป้องกันการเกิดริ้วรอย และรอยหมองคล้ำได้
สารสกัดจากสาหร่ายทะเล - เป็นแหล่งรวมแร่ธาตุมากมาย อย่างโปรตีน วิตามินเอ, บี, ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส ฯลฯ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้
ชาเขียว - มีสารโพลีฟีนอล ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีฤทธิ์มากกว่าวิตามินอี 20 เท่า เมื่อนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ป้องกัน และลดริ้วรอย ทำให้ฟื้นฟูสภาพผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส ทั้งยังช่วยป้องกันรังสียูวีได้
สารสกัดจากเปลือกส้ม - มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้
สารสกัดจากยีสต์ - ช่วยให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ผิว ให้ดูเปล่งปลั่งพร้อมยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้
สารสกัดจากถั่วเหลือง - ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงด้วยสารเจนิสติน ที่มีคุณสมบัติฟื้นฟูสภาพผิวให้สดใส อ่อนเยาว์ และช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ด้วย