รวบโจรแบทแมนมุดช่องระบายอากาศ ย่องลักทรัพย์ร้าน S&P
2013-09-01 13:44:31
Advertisement
คลิก!!!

 


          รวบโจร ลักทรัพย์ร้านเอสแอนด์พี สาขาโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ สวมหน้ากากมุดช่องระบายอากาศเข้าห้องน้ำ ก่อนไปกวาดเงินที่ห้องผู้จัดการ เผยรู้ทางดีเพราะเป็นลูกจ้างเก่า

          เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา รับแจ้งเหตุว่า มีคนร้ายพยายามเข้าไปลักทรัพย์ในร้าน เอสแอนด์พี สาขาโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ถ.สาธรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาธร จึงรุดไปตรวจสอบ

          ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ พบว่าห้องผู้จัดการร้านถูกคนร้ายรื้อค้น เงินที่เก็บไว้ในตู้เก็บของหายไป ส่วนตู้ที่เก็บตู้เซฟก็ถูกเปิดออก แต่เซฟยังคงอยู่ที่เดิม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบยังห้องสโตร์ แล้วใช้กุญแจพยายามไขเข้าไป แต่ไขไม่ได้ คาดว่าคนร้ายน่าจะยังอยู่ในห้องดังกล่าว

          ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามไขเข้าไปจนสำเร็จ และพบนายบำรุง ปราบไพลิน อายุ 29 ปี สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงขายาว สวมหมวกคลุมสีดำคล้ายหน้ากากแบทแมนเพื่อปิดบังใบหน้า สวมถุงมือ ในมือมีคัตเตอร์ สะพายกระเป๋าหนังสีน้ำตาลพาดข้าง เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวในทันที

          จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบว่า มีธนบัตรไทยใบละ 500 บาท จำนวน 2 ฉบับ ธนบัตรไทยราคา 100 บาท จำนวน 190 ใบ ธนบัตรไทยราคา 20 บาท จำนวน 210 ใบ เหรียญราคาต่าง ๆ ประมาณ 1,500 บาท รวมจำนวนเงินทั้งหมด 24,200 บาท ไขควง 1 อัน และมีดคัตเตอร์ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้เป็นของกลาง

          อย่างไรก็ตาม นายบำรุง ให้การว่า ตน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และเคยเป็นพนักงานร้านเอสแอนด์พีสาขานี้มาก่อน โดยทำงานได้ประมาณ 1 ปี เพิ่งลาออกไปได้ประมาณ 1 เดือน จึงรู้ช่องทางเข้า-ออก และที่เก็บเงินภายในร้านเป็นอย่างดี จึงเลือกสถานที่นี้เข้ามาก่อเหตุ

          นายบำรุง กล่าวต่อว่า ตนก่อเหตุเมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 31 สิงหาคม โดย ขับขี่จักรยานยนต์มาจอดตรงมุมอับบริเวณข้างร้านซึ่งติดตรงห้องน้ำพอดี จากนั้นก็ค่อย ๆ ปีนช่องระบายอากาศมุดเข้ามา ก่อนที่จะปีนเข้าไปลงตรงห้องผู้จัดการ และรื้อข้าวของพร้อมหยิบเงินที่อยู่ในตู้ ส่วนตู้เซฟตนเปิดไม่สำเร็จ และ ระหว่างนั้นตนก็ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัย ต่อมาก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เลยต้องซ่อนตัวอยู่ในห้องสโตร์เก็บของ จนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด ส่วนสาเหตุการลักทรัพย์ในครั้งนี้ ตนเป็นคนชอบเที่ยวเตร่ตามร้านอาหารชื่อดัง แต่พอตกงานทำให้ขาดรายได้จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว

          อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานกลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ก่อนทางเจ้าหน้าจะนำตัวมาขยายผลว่า เคยก่อเหตุที่พฤติกรรมแบบนี้ที่ใดมาก่อนหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X