กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชี่ยล เมื่อ ‘พลอย เจริญปุระ’ คุณแม่ของนักร้องสาว น้ำหวาน-พิมรา เจริญภักดี หรือ ‘น้ำหวาน ซาซ่า’ โพสต์รูปไปรษณีย์บัตรที่มีข้อความตอบกลับมาจากทหารว่า “ผมขอขอบคุณในความห่วงใยทหารชายแดนใต้ แต่คุณไม่รู้หรอกว่า สิ่งของคุณส่งมา เขากิน เขาใช้ ส่งกลับบ้าน แค่ 4-5 คนเท่านั้น เป็นข้าราชการด้วย เขาไม่เคยแบ่งปันส่วนรวมเลย ทั้งที่มันน่าจะเป็นของส่วนรวม ผมว่า ถ้าคุณห่วงใยทหารชายแดนใต้ ทำวิธีอื่นดีกว่าครับ พวกผมไม่เคยได้เลยครับ” ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Ploy Charoenpura

พร้อมกับโพสต์ข้อความว่า “วันนี้ดีใจที่ได้ไปรษณียบัตรจากค่ายนึงที่ส่งของไปให้ แต่พอได้อ่านแล้วรู้สึกเสียใจและสงสารกับทหารผู้น้อยที่เรามีความตั้งใจทำ และอยากให้เค้าได้รับสิ่งดีๆ บ้างลองอ่านดูนะคะ เพราะตั้งแต่ส่งของไปให้ 14 ฐานก็ไม่ได้รับการติดต่อว่าได้รับหรือไม่ แต่วันนี้พอเข้าใจแล้วค่ะ ไม่ต้องท้อหรือเสียกำลังใจนะคะ เพราะใครทำอะไรต้องได้รับผลนั้นแน่นอน และจะส่งกำลังใจความรักความห่วงใยไปให้ทุกๆ วันไม่เคยลืมทหารทุกท่านที่เสียสละทุกอย่างเพื่อประเทศชาติค่ะ”

ล่าสุดผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม ‘น้ำหวาน-พิมรา’ ลูกสาวคนสวยของ "พลอย เจริญปุระ" เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย น้ำหวาน กล่าวว่า “ตอนแรกตกใจมากที่มีคนแชร์เฟซบุ๊กของคุณแม่เต็มหน้าฟีดไปหมด ตอนที่ได้รับโปสการ์ดอันนี้หวานตั้งใจที่ไม่โพสต์เพราะไม่อยากให้เป็นประเด็น แต่ในมุมของคุณแม่ที่ออกมาโพสต์นั้น หวานเข้าใจได้เพราะคุณแม่ใช้เวลา 1 เดือนในการทำสบู่ทั้งหมดด้วยตัวเองเพื่อจะส่งไปให้พี่ๆ ทหารชายแดนใต้ แต่พอได้อ่านข้อความที่พี่ทหารเขียนมาในโปสการ์ด คุณแม่รู้สึกเสียใจและสงสารที่ของนั้นไม่ถึงมือคนที่อยากส่งไปให้จริงๆ เลยอยากเป็นกำลังใจให้ รวมถึงอยากรู้ว่าควรจะส่งไปช่องทางไหนถึงจะได้รับถึงมือ”

“ครอบครัวหวานไม่มีใครเป็นทหาร แต่คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังมาตลอดว่าให้รักพี่ๆ ทหารที่ช่วยดูแลปกป้องประเทศ ที่ผ่านมาเวลาเห็นข่าวมีทหารเสียชีวิต ทุกคนในครอบครัวรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้ง หวานรักพ่อของหวาน พอลองคิดในมุมที่ว่าถ้าทหารคนที่เสียชีวิตคือพ่อของเราจะยิ่งเสียใจขนาดไหน หลายครั้งที่มีเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวทหารที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ครอบครัวหวานก็จะโอนเงินไปช่วยเหลือเป็นปกติอยู่แล้ว

ซึ่งตรงนี้ก็ไม่เคยออกมาบอกกับใคร ฉะนั้นพอมาเกิดประเด็นนี้ขึ้นมา คุณแม่เลยคิดว่าต้องทำให้แล้วส่งไปตรงไหนทหารถึงจะได้รับเพื่อนำไปใช้ได้จริง ตอนที่ทำสบู่คุณแม่ตั้งใจมาก สมุนไพรตัวไหนที่ใส่แล้วช่วยลดเรื่องอาการคันคุณแม่ก็จะใส่ลงไปด้วย เพราะเห็นว่าทหารอยู่กันในป่าเสื้อผ้าอับชื้นอาจทำให้คันได้ เรียกว่าคุณแม่ใส่ใจจริงๆ” น้ำหวานกล่าว

เมื่อถามว่าเริ่มส่งของไปให้ทหารชายแดนใต้ตั้งแต่เมื่อไหร่ "น้ำหวาน" กล่าวว่า “ประมาณเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ช่วงนั้นใกล้ปีใหม่มีการแชร์กันว่า มาร่วมส่งของขวัญไปให้ทหารชายแดนใต้กันเถอะ คุณแม่ไปเห็นเข้าเลยมาคุยกันในครอบครัวว่าเป็นกิจกรรมที่ดี จากนั้นก็เริ่มไปหาซื้อของเพื่อเอามาทำสบู่สมุนไพร

หวานก็มีหน้าที่ไปหาข้อมูลว่าส่งไปได้ที่ไหนบ้าง รวมทั้งหมดได้ 14 ฐาน ส่งของไปฐานละประมาณ 120-150 ก้อนแล้วแต่ความเล็กใหญ่ของฐาน ล็อตสุดท้ายก็ส่งไปตอนช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นหวานก็มีโอกาสได้เข้าไปในเฟซบุ๊กของเพจต่างๆ ว่าจะเช็กได้มั้ยว่าของที่ส่งไปถึงทหารจริงหรือเปล่า จนโทร.ที่บั๊ก 1113 เพื่อขอเบอร์ของแต่ละฐานแต่ละค่าย บางค่ายก็บอกว่าปิดไปแล้ว 

ตอนนี้กลายเป็นวัดและเป็นแหล่งคนอยู่อาศัย โอเคตรงนั้นไม่เป็นไรเพราะอย่างน้อยวัดหรือคนที่อยู่ตรงนั้นก็สามารถเอาไปใช้ได้ บางค่ายโทร.ไปก็บอกว่าได้รับของแล้วขอบคุณมากที่ส่งของมาให้ เลยไม่ติดใจหรือสงสัยอะไร แต่จะมีนิดนึงที่ทำไมครอบครัวเราถึงไม่ได้รับของโปสการ์ดหรือข้อความมาบอกอะไร เหมือนกับที่คนอื่นส่งไปแล้วได้รับบ้างเลย ทั้งที่หวานก็ให้ชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทร.ไปชัดเจน ต้องบอกก่อนว่าที่ให้ชื่อ-ที่อยู่ไปนั้น ไม่ใช่เพราะอยากได้คำขอบคุณหรือจะมาอวดอะไร แต่ครอบครัวมีความปรารถนาดี อยากให้คนที่ได้รับของไปมั่นใจได้ว่าสบู่ที่ส่งมามีที่มาจากที่ไหน เพื่อจะได้สบายใจต่อการนำไปใช้ค่ะ” 

“จนเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว พี่เลี้ยงวิ่งเอาโปสการ์ดมาให้อ่าน ตอนนั้นหวานกับคุณแม่อยู่บนรถกำลังจะออกไปข้างนอก พี่เลี้ยงก็ถามว่า คุณพลอย อ่านหรือยังคะ อ่านแล้วร้องไห้เลย คุณแม่ก็ตกใจรีบรับเอามาอ่านซึ่งคุณแม่ก็ร้องไห้ พอหวานได้อ่านก็ร้องไห้เหมือนกัน ในโปสการ์ดมีชื่อของพี่คนที่ส่งมาด้วย แต่หวานไม่สามารถให้ออกสื่อได้เพราะกลัวจะกระทบอะไรกับเขาหรือเปล่า อีกอย่างในโปสการ์ดก็ไม่ได้พาดพิงชื่อใคร บอกแค่ว่ามีข้าราชการ 4-5 คนที่ทำแบบนั้น แล้วที่คุณแม่โพสต์รูปลงเพราะไม่รู้ว่าจะช่วยเขายังไง อยากส่งของไปให้ใหม่แค่นั้นเองค่ะ” น้ำหวานกล่าว

จากนั้น น้ำหวาน ก็กล่าวต่อว่า “ส่วนเรื่องที่มีกระทู้จับผิดเรื่องลายมือ เรื่องที่ทำไมบนแสตมป์ไม่มีตราประทับ และทำไมโปสการ์ดดูใหม่ ซึ่งพอหวานอ่านเจอก็จิตตก อย่างที่บอกตั้งแต่ทีแรกว่าไม่อยากเป็นข่าวเพราะเรื่องแบบนี้ ไม่ได้พาดพิงใคร พอคนเริ่มแชร์กันเยอะเห็นกันเยอะ ทำให้ต่างจิตต่างใจที่จะมอง หวานอยู่วงการมา 18 ปี ตั้งแต่ช่วงที่ตัวเองดังมาก จนไม่ดัง แต่ทุกวันนี้ก็มีงานปกติ ฉะนั้นเรื่องที่ต้องการสร้างข่าว สร้างกระแส หรือสร้างภาพ ไม่เป็นความจริงเลย พอเห็นข้อความเหล่านี้แล้วก็รู้สึกเสียใจว่าทำไมถึงคิดกันแบบนั้นไปได้ คนที่ส่งโปสการ์ดนี้มาให้หวานคือใครเพราะเขาไม่ได้ให้ที่อยู่มาด้วย หวานก็อยากรู้เหมือนกันว่าไม่มีตราประทับแล้วทำไมส่งมาได้ ตั้งใจว่าเดี๋ยวถ้ากลับจากมาทำงานที่ตจว. หวานจะไปถามเรื่องนี้กับทางไปรษณีย์เหมือนกันว่าเป็นไปได้มั้ยที่จะส่งมาได้”

“อีกเรื่องที่ไม่อยากให้คนเข้าใจเจตนารมณ์ผิดคือ การที่คุณแม่โพสต์ลงในเฟซบุ๊กนั้น ไม่ได้ต้องการจะมาอวดหรือแสดงให้คนอื่นเห็นว่าครอบครัวเราความดีอะไร แต่โพสต์เพราะสงสารและอยากช่วยเหลือทหารเหล่านั้นจริงๆ สำหรับคนที่คิดอยากจะส่งของไปให้ทหายชายแดนได้ แล้วพอมาเจอเคสของคุณแม่จนทำให้ไม่กล้าส่งไปนั้น หวานอยากจะบอกว่าอย่ากังวลเรื่องแบบนี้เลย ขี้ประติ๋วมากๆ เพราะในทุกที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ หวานคิดว่าสิ่งที่ครอบครัวเราเจออาจจะแค่ส่วนน้อยมากๆ ที่เหลืออีก 13 ฐานอาจจะได้รับของแล้วนำไปใช้เรียบร้อยแล้วก็ได้ หวานก็เพิ่งได้รับโปสการ์ดแค่ใบเดียวแล้วก็บอกว่าคนเพียง 4-5 คนที่ทำไม่ดี ไม่ใช่ทั้งหมด 

ฉะนั้นให้มองในภาพรวมดีกว่า ถ้าเกิดว่าหวานได้รับโปสการ์ดแบบนี้สัก 10 ใบแบบนั้นค่อยมากังวลเพราะหวานเองก็คงบ้าตายเหมือนกัน (หัวเราะ) อยากให้คนที่มีความตั้งใจอยากส่งของไปช่วยเหลือทหารชายแดนใต้ก็ทำต่อไป ครอบครัวหวานเจอแบบนี้ยังไม่รู้สึกท้อเลย เดี๋ยววันที่ 6 มี.ค. ครอบครัวก็จะนำสบู่น้ำไปมอบให้ทหารชายแดนใต้ผ่านโรงพยาบาลทหารผ่านศึกอีก คือเสียใจกับเหตุการณ์ที่เจอได้แต่อย่าท้อ อีกอย่างก็ให้ดูที่เจตนารมณ์ ถึงแม้ว่าของที่ส่งไปจะไม่ถึงมือ แต่ทุกคนในครอบครัวส่งใจไปให้แล้ว นอกจากนั้นอยากให้คนที่มีความตั้งใจดีอยากส่งของไปให้ทหาร ช่วยเช็กให้ละเอียดนิดนึงว่าควรส่งไปที่ไหน ที่ไหนที่ยังเปิดอยู่บ้าง ที่ไหนปิดไปแล้ว รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอยากให้ช่วยอัพเดตข้อมูลให้นิดนึงค่ะ” น้ำหวานฝากทิ้งท้าย 

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์