|
น.ส.จริยา สุทธิไชยา รองเลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) เผยว่า ที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ หารือวิธีการระบายสต๊อกยาง ข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ เพื่อแลกปุ๋ยและสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปีละเกือบ 1 แสนล้านบาท โดยปี 2557 มีการนำเข้าปุ๋ยเคมีมูลค่า 66,103 ล้านบาท ลดลงประมาณ 9% จากปีก่อนหน้าที่นำเข้า 72,259 ล้านบาท
นำเข้าสารกำจัดศัตรูพืช ปี 2557 มูลค่า 19,357 ล้านบาทลดลง 12% จากปีก่อนหน้าที่นำเข้า 22,044 ล้านบาท ที่ประชุมได้หารือในเรื่องนี้เป็นเวลานานพอควร เพราะขณะนี้ยอมรับว่าไทยมีสต๊อกยางและข้าว รวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่เพื่อนบ้านและคู่ค้าที่ไทยนำเข้าปุ๋ยมาต้องการจำนวนมาก
“ประเทศไทยมีการนำเข้าปุ๋ยและสารเคมีจากหลายประเทศ อาทิ รัสเซีย และเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นวิธีการที่เกษตรฯ เคยดำเนินการและไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากไม่มีความถนัด ในเรื่องของการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินเค้าในเชิงธุรกิจส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านๆ มา ประสบความล้มเหลว
อาทิ สมัยก่อนหน้าได้มีการแลกเปลี่ยนซื้อขายข้าวกับรัสเซีย รัสเซียก็ไม่จ่ายค่าข้าว เพิ่งจ่ายเงินมาให้ไม่นานมานี้ ส่วนการแลกข้าวกับปุ๋ยกับเกาหลีเหนือ ไทยส่งข้าวไห้เกาหลีเหนือไปนานหลายปีแล้ว แต่ทุกวันนี้เกาหลีเหนือยังไม่ส่งปุ๋ยมาให้ ไทยไม่สามารถทำอะไรได้ บัญชีซื้อขายปิดไม่ลง
การระบายสินค้าเกษตรเพื่อแลกสินค้าที่ไทยนำเข้าทำมาหลายยุคหลายสมัยแต่มีปัญหาทุกครั้ง จึงสรุปร่วมกันว่านำเรื่องนี้หารือกับกระทรวงพาณิชย์ เพราะกระทรวงพาณิชย์เชี่ยวชาญในการซื้อขายแลกเปลี่ยนมากกว่า
สำหรับวิธีการระบายสต๊อกยางและสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่สศก.เสนอในที่ประชุม มี 3 วิธีคือ1.แลกเปลี่ยนกับปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช หรือสินค้านำเข้าอื่น กับประเทศที่ไทยขาดดุลการค้าอยู่ 2.ทำข้อตกลงหรือสัญญากับบริษัทค้าปลีก ทั้งในและต่างประเทศ และ3.ผลิตสินค้าในนามหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ วางเป็นสินค้าสะดวกซื้อ ทั้งในและต่างประเทศ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์