วันที่ 29 ก.พ. 59 สำนักข่าว Reuters รายงานว่า งานประกาศผลรางวัลตุ๊กตาทอง หรือออสการ์ประจำปีนี้ จัดขึ้นที่ดอลบีเธียเตอร์ ในนครลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ โดยในปีนี้ ภาพยนตร์เรื่องเดอะ เรฟเวอร์แน้นท์ ของผู้กำกับ “อเลฮานโดร อินาริตู” เข้าชิงถึง 12 รางวัล และคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และกำกับภาพยอดเยี่ยมไปแล้ว นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง The Revenant ยังส่งให้ “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปครอง จากการสวมบทบาทเป็นนายพราน ผู้ถูกคณะร่วมทางทิ้งให้ตายกลางป่า และสังหารลูกชายของเขา แต่เขากลับไม่ตายและตามกลับไปแก้แค้น รางวัลนี้ยังถือเป็นออสการ์ตัวแรกของดิคาปริโออีกด้วย

สำหรับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ ตกเป็นของเรื่อง “Spotlight” ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของทีมข่าวประจำหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่เข้าไปตีแผ่การล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย ภายในศาสนจักรคาทอลิกท้องถิ่น ซึ่งหนังยังคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมไปครองอีกหนึ่งรางวัล

รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมตกเป็นของ บรี ลาร์สัน จากเรื่อง “Room” ซึ่งเธอรับบทเป็นแม่ผู้อาศัยอยู่กับลูกชายเพียงสองคนในห้องเล็กๆและด้วยความหวาดกลัวโลก เธอจึงเฝ้าบอกลูกชายว่านี่คือโลกทั้งใบของเขา หนังเป็นขวัญใจนักวิจารณ์และ บรี กวาดรางวัลนักแสดงนำหญิงในเวทีอื่นๆ มาแล้วก่อนหน้านี้

รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมตกเป็นของ “มาร์ค ไรแลนซ์” จากการรับบทเป็นสายลับโซเวียตในเรื่อง Bridge of Spies ผลงานการกำกับของสตีเวน สปีลเบิร์ก

รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมตกเป็นของ “อลิเซีย วิแกนเดอร์” จากบทบาทภรรยาผู้เสียสละและยินยอมให้สามีแปลงเพศ ในภาพยนตร์เรื่อง The Danish girl

ขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง “Mad Max: Fury Road” ของผู้กำกับรุ่นเก๋าอย่าง จอร์จ มิลเลอร์ คว้ารางวัลทั้งออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม แต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม ออกแบบโปรดักชั่นยอดเยี่ยม ตัดต่อภาพยอดเยี่ยม ลำดับเสียงยอดเยี่ยม บันทึกเสียงยอดเยี่ยม

ภาพยนตร์เอนิเมชั่นยอดเยี่ยมตกเป็นของ “The Inside Out” เอนิเมชั่นขวัญใจเด็กๆ และผู้ใหญ่ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของเด็กหญิงชื่อไรลีย์ พร้อมกับอารมณ์ 5 ตัวที่อยู่ในสมองของเธอ

อย่างไรก็ตาม งานประกาศผลรางวัลออสการ์ในปีนี้ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายและหญิง นักแสดงสมทบชายและหญิงล้วนเป็นคนผิวขาว แต่ในปีนี้ พิธีกรคือ คริส ร็อค ซึ่งเป็นนักแสดงตลกชาวผิวสี ได้ขึ้นกล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า หากมีผู้ท้าชิงตำแหน่งพิธีกร เขาคงไม่ได้งานนี้แน่ และทุกท่านอาจจะได้เห็น นีล แพทริก แฮริส นักแสดงผิวขาวมาเป็นพิธีกรแทน

ที่มา  http://www.springnews.co.th/global/276505