เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่ชั้น 4 ห้องประชุมแก่นเงิน อาคารสมเด็จพระเทพฯ รพ.ขอนแก่น นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น พ.ญ.รักฝัน สวัสดิ์พาณิชย์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านศัลยกรรมทรวงอก และเป็นแพทย์ในทีมรักษาอาการ “น้องไอดิน” นพ.ฉัตรชัย ซื่อศิริสวัสดิ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ แพทย์เจ้าของไข้ นางอภิญญา ก้อยทอง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น และคณะร่วมกันแถลงข่าว กรณีผู้ป่วยทารกแรกเกิดถูกของแหลมทิ่มแทงตามลำตัว 14 แผล ฝังดินในป่ายู่คาลิปตัส อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น

 นพ.ชาญชัย ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า อาการล่าสุด ณ วันที่ 27 ก.พ. ผู้ป่วยมีอาการรู้สึกตัวดี ใส่ท่อช่วยหายใจและลดการใช้เครื่องช่วยหายใจได้ดี มีแนวโน้มถอดท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจ แต่ยังใส่สายระบายลมจากช่องเยื่อหุ้มปอด ยังคงงดน้ำและอาหาร และให้สารน้ำและยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ แผนการรักษาขณะนี้คือเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อ และสังเกตอาการอัตราการหายใจที่ยังมีอาการหอบเล็กน้อย อีกไม่นานก็จะกลับมาเป็นปกติ คือว่ารอดจากวิกฤต 80 เปอร์เซ็นต์ หาย ไม่หาย 20 เปอร์เซ็นต์ ค่ารักษาดูแล “น้องไอดิน” ขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นบาท ซึ่งอยู่ในการดูแลในโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติ ในประเภท 30 บาท รักษาทุกโรค

 ด้าน พญ.รักฝัน เปิดเผยว่า หมอได้รับผลกระทบจากภาพที่ลงในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพราะภาพข่าวที่เป็นภาพประกอบ โดยมีหมออยู่ในภาพ ซึ่งไม่เกี่ยวกับหมอและเนื้อหาก็ไม่มีส่วนกล่าวถึงหมอในทางเสียหาย แต่ในโลกโซเชียลมีการแคปตัวภาพไปลง แม้ว่าไม่มีรายละเอียดของข่าวตามข่าวที่ นสพ.ลงหรือเว็บไซต์ออนไลน์อื่นๆ ลง ประชาชนที่อ่านข่าวและดูภาพประกอบ เกิดความเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นแม่ของเด็ก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบเค้นข้อเท็จจริงกับตน รู้สึกเสียใจมากในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจากที่หมอหนึ่งในทีมแพทย์ช่วยรักษาเด็ก กลายเป็นผู้ร้าย ตกเป็นจำเลยของสังคม มีการระบายอารมณ์กล่าวหาตนแบบเสียๆ หายๆ อย่างรุนแรงมาก

 ส่วนตัวยอมรับว่ามีความเสียใจอย่างมาก อยากขอให้สื่อมวลชนที่เสนอภาพข่าวของหมอในโลกโซเชียลเวิร์คดูแล 2 เรื่อง คือ การทำงานข่าว ขอให้ดูแลคณะทีมแพทย์ที่รักษาน้องไอดินด้วยในเรื่องเนื้อหาข่าวสารที่ออกไปสู่สังคม และให้ระมัดระวังในการเสนอข่าวออกสู่สังคมภายนอก ในการที่จะนำเสนอข่าวทุกครั้ง อย่าให้เกิดความเสียหายกลับบุคคลที่ 3 ประชาชนทั่วไปการเสพข่าวต้องใช้วิจารณญาณแยกแยะข่าวไหนเป็นความจริง ข่าวไหนเป็นความเท็จ

 
 ด้านนางอภิญญา ก้อยทอง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของ “น้องไอดิน” จะต้องไปแจ้งเกิดที่ อ.แวงใหญ่ ในวันที่ 29 ก.พ. นี้ และทีมสหวิชาชีพ จ.ขอนแก่น จะต้องลงไปหาข้อมูลของน้องและครอบครอบครัวของเขา เพื่อจะประเมินดูภาพรวมของครอบครัวทั้ง สุขภาพจิต เศรษฐกิจ และในหลายอย่างในครอบครัวของน้องไอดิน ตอนนี้เขามีพ่อ มีแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อมาประเมินหลังจากรักษาหายดีแล้ว

 น้องไอดินสมควรจะไปอยู่กับใคร ถ้าประเมินแล้วยังไม่พร้อม แต่เด็กหายก่อน รพ.ขอนแก่นจะต้องทำหนังสือส่งน้องไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นจะส่งต่อไปที่บ้านแคนทอง จ.ขอนแก่น เพื่อดูแลคุ้มครองน้องไอดิน ขณะไม่มีผู้ปกครอง แม้ว่าจะมีผู้ประสงค์ดีต้องการเด็กอยู่ในความดูแลไม่น้อยกว่า 20 ราย ก็ต้องอยู่ในการพิจารณาของทีมสหวิชาชีพ จ.ขอนแก่นเห็นสมควร

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าห้องหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิกฤติ 1 ที่รักษา “น้องไอดิน” ที่ยังอยู่ในตู้เด็กควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม และคณะแพทย์ที่ชำนาญการด้านศัลยกรรมทรวงอก ด้านศัลยกรรมเด็ก พร้อมด้วยแพทย์เจ้าของไข้ พากันตรวจรักษา พร้อมเขียนบันทึกอย่างละเอียด หลังจากทราบว่า น.ส.สุดา หรือมล ทองดี อายุ 42 ปี ชาวจ.ขอนแก่น ยอมรับสารภาพว่าพยายามฆ่าน้องไอดินที่บริเวณทุ่งนาบ้านโนนสวรรค์ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา

 
 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ปัจจุบันมีประชาชนที่สงสาร “น้องไอดิน” มามอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือค่ารักษา ขณะนี้มียอดเงินร่วม 6 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังมอบอุปกรณ์เด็กหลายอย่างเป็นจำนวนมากมาให้กับน้องไอดินที่ รพ.ขอนแก่น โดยเฉพาะเงินสดจะต้องไปเปิดบัญชีในนามน้องไอดิน และมีคณะกรรมการสหวิชาชีพเป็นผู้ดูแลให้

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์