ยาน “นิวฮอไรซอนส์” ส่งสัญญาณภาพกลับมายังโลก เผยให้เห็นภาพถ่ายของดาวพลูโต ชัดเจนที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
2015-07-16 07:40:13
Advertisement
คลิก!!!

ยาน “นิวฮอไรซอนส์” ส่งสัญญาณภาพกลับมายังโลก

เผยให้เห็นภาพถ่ายของดาวพลูโต ชัดเจนที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

เมื่อเร็วๆ นี้ องค์การนาซ่าได้ออกมายืนยันเรื่องของยานนิวฮอไรซอนส์ที่บินผ่านดาวพลูโต และในตอนนี้มันก็ได้ส่งสัญญาณภาพกลับมายังโลก เพื่อช่วยคลี่คลายความลึกลับของดาวเคราะห์แคระที่มีคุณสมบัติที่แปลกประหลาดนี้ได้

ยานนิวฮอไรซอนส์ได้มุ่งหน้าเข้าใกล้ดาวเคราะห์แคระเมื่อเวลา 7.49 น. ตามเวลาท้องถิ่น (วันที่ 14 ก.ค.) ในช่วงเช้า พร้อมทั้งได้ทำการจับภาพประวัติศาสตร์ที่ดูใกล้ชิดเป็นครั้งแรกจากสถานที่อันห่างไกลจากโลกของเรา

ในระหว่างการเดินทางเข้าใกล้นั้น ยานนิวฮอไรซอนส์ก็ได้อยู่ที่ความสูง 7,800 ไมล์ (ราว 12,500 กิโลเมตร) จากพื้นผิวน้ำแข็งของดาวพลูโต ด้วยความเร็วในการเดินทางกว่า 30,800 ไมล์/ชั่วโมง (ราว 49,600 กิโลเมตร/ชั่วโมง)  

อลิซ โบว์แมน เจ้าหน้าที่ขององค์การนาซ่า ผู้ซึ่งได้ตั้งชื่อเล่นของภารกิจนี้ว่า "มัม (Mom)" ได้ยืนยันว่ายานนิวฮอไรซอนส์ได้ทำการส่งสัญญาณกลับมายังโลกที่สถานีในกรุงมาดริด เมื่อเวลา 20.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น

"พวกเราได้รับการส่งข้อมูลทางไกลมาจากยานอวกาศค่ะ" เธอกล่าว พร้อมได้รับเสียงปรบมือจากเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมในการทำภารกิจครั้งนี้

"ดูเหมือนว่าพวกเราจะได้รับการเชื่อมต่อข้อมูลที่ดี ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดก็ใช้การได้เยี่ยมไปเลยค่ะ ฉันไม่สามารถที่จะแสดงสิ่งนี้ได้ ฉันสั่นไปหมดแล้วล่ะค่ะ'

"มันได้ผลตามแผนที่เราได้วางไว้ พวกเราทำได้แล้วค่ะ!"  

"ผมรู้ว่าวันนี้ พวกเราได้ทำการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ เกี่ยวกับการสำรวจที่ประสบผลสำเร็จในครั้งนี้ และพวกเราจะเดินหน้าต่อไปเพื่อค้นพบในสิ่งที่เราไม่เคยได้เห็นกันมาก่อนครับ" ผู้บิรหารขององค์การนาซ่า ชาร์ลส โบลเดน (Charles Bolden) กล่าว

"นี่คือชัยชนะทางประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์และการสำรวจ เป็นอีกครั้งที่พวกเราได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของมนุษย์ครับ"

"มันเป็นเหมือนกับเครื่องหมายทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์ครับ" จอห์น กรันส์เฟล์ด (John Grunsfeld) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซ่า ณ ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์ ในมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ กล่าว

"ดาวพลูโตไม่ได้เป็นดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยชั้นบรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยหมอกไนโตรเจนตามที่ได้คาดกันเอาไว้ครับ"  

"มันเป็นเหมือนกับดาวที่มีความซับซ้อนและดูน่าสนใจ เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเราได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้กันครับ"  

ตลอดเวลาที่ผ่านมายานนิวฮอไรซอนส์ได้อยู่ในโหมดของการเก็บรักษาพลังงานเอาไว้ ก่อนที่จะเริ่มต้นวิธีการสุดท้ายด้วยการใช้พลังงานสำหรับการถ่ายภาพ  

เหล่านักวิทยาศาสตร์ต้องเผชิญหน้ากับความตรึงเครียดตลอดระยะเวลากว่า 13 ชั่วโมง เพื่อรอที่จะได้ยินว่ายานลำนี้ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

"ฉันรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย มันเหมือนกับการที่คุณส่งลูกของคุณออกไปค่ะ" อลิซ โบว์แมน ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติภารกิจ กล่าว  

"แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจ แน่นอนเลยว่ามันจะทำในสิ่งที่มันควรจะทำค่ะ"  

มันได้แสดงให้เห็นดาวเคราะห์ที่เป็นสีทองแดง ปกคลุมไปด้วยสีเข้มและสีที่สว่างไสวของรูปทรงหัวใจ ซึ่งดูเหมือนว่าภาพของดาวพลูโตนั้น จะถูกนำไปเปรียบเทียบล้อเลียนกับตัวการ์ตูนที่มีชื่อว่าพลูโตอีกด้วย

รอยหลุมลึกที่เราสามารถมองเห็นได้จากพื้นผิวของดาวพลูโตนั้น บางทีอาจจะเป็นแนวของเทือกเขาหรือที่ราบน้ำแข็งขนาดใหญ่

โดยนาซ่าได้ทำการเตรียมปล่อยภาพสีของดาวพลูโตออกมาเพิ่มเติมในวันนี้ ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะได้ภาพที่มีความคมชัดมากขึ้นให้ได้ชมกัน  

ท่ามกลางอันตรายที่ยานนิวฮอไรซอนส์ต้องเผชิญหน้ากับวงแหวนฝุ่นที่บริเวณเส้นรอบศูนย์ของดาวเคราะห์แคระนั้น  

เพราะว่ามันเป็นยานอวกาศที่มีความเร็วมากที่สุดเท่าที่เคยได้ทำกันมา ดังนั้นการปะทะกับอนุภาคที่มีขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดข้าว จะไม่สามารถส่งผลใดๆ ต่อตัวยานได้เลย  

ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ คอมพิวเตอร์ของยานได้ทำการปิดระบบลง และเข้าสู่สถานะเซฟโหมด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการบินผ่านดาวพลูโต  

อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำได้ยืนยันว่า ภารกิจนี้ไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด

ในวันนี้องค์การนาซ่าได้ทำการปล่อยภาพสีของดาวพลูโตและแครอน (ดาวบริวาร) ที่ได้ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้เห็นโครงสร้างทางธรณีวิทยาในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น  

ภาพถ่ายสีใหม่นี้ได้เผยให้เห็นรูป 'หัวใจ' ของดาวพลูโต ซึ่งจะแสดงถึงภูมิภาคที่แตกต่างกันของสีได้อย่างชัดเจน ในภาพสีจะเห็นได้ว่า รูปหัวใจทางด้านซ้ายจะมีลักษณะเป็นเหมือนกับรูปของกรวยไอศครีม ที่เป็นสีพีชในภาพๆ นี้  

ส่วนพื้นที่รูปหัวใจด้านขวาจะมีลักษณะเป็นสีฟ้า ที่มีจุดสีแดงอยู่บริเวณตรงกลาง แม้ในด้านขั้วโลกเหนือของดาวพลูโตก็จะเห็นเฉดของภาพสีที่แตกต่างกัน ทั้งสีเหลือง-สีส้มที่ทำให้เห็นความแตกต่างขององค์ประกอบบนดาวพลูโตได้อย่างชัดเจน  

ด้านพื้นผิวของดาวแครอนนั้นก็จะมีลักษณะของสีที่คล้ายคลึงกัน

จุดสีแดงเข้มทางด้านทิศเหนือของดาวแครอน จะประกอบไปด้วยไฮโดรคาร์บอนและโมเลกุลอื่นๆ ส่วนสีจุดด่างดำทางด้านล่างนั้น จะแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของภูมิประเทศบนดาวแครอน  

ในวันที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้เพิ่งเรียนรู้ว่า ดาวพลูโตซึ่งเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 และอยู่นอกสุดของระบบสุริยะนั้น มีขนาดใหญ่โตกว่าที่พวกเขานั้นคิดกันเอาไว้

พวกเขาเชื่อกันว่ามันมีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 1,473 ไมล์ (ราว 2,370 กิโลเมตร) โดยก่อนหน้านี้ได้เคยคาดการณ์กันเอาไว้ว่ามันน่าจะมีขนาดแค่เพียง 50 ไมล์ (ราว 80 กิโลเมตร) เท่านั้น

บนทวิตเตอร์บัญชีทางการของภารกิจในครั้งนี้ได้อธิบายว่ามันเหมือนกับ "วันคริสมาสต์ในเดือนกรกฎาคม" และทุกคนในทีมก็ต่างรอคอยกันมาตลอดคืน เพื่อรอรับการติดต่อครั้งแรกจากยานอวกาศ   

ถ้ายานนิวฮอไรซอนส์สามารถทำภารกิจได้สำเร็จ ความรู้เกี่ยวกับระบบสุริยะของเราก็จะได้รับการศึกษาอย่างเสร็จสมบูรณ์

คอลัมน์หนึ่งจากสื่อ 'New York Times' ชี้ให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในวันนี้ จะมีโอกาสได้เห็นดาวดวงใหม่แบบใกล้ๆ เป็นครั้งแรก

และนี่คือ อลัน สเติร์น (Alan Stern) หัวหน้าทีมภารกิจยานอวกาศนิวฮอไรซอนส์ ได้กล่าวว่า "ภาพล่าสุด"

ยานนิวฮอไรซอนส์ได้ใช้เวลาราว 8 นาทีในตอนที่เข้าใกล้ดาวพลูโตมากที่สุด เป็นครั้งแรกที่ยานอวกาศสามารถเดินทางมาได้ถึงดาวเคราะห์ดวงนี้  

หลังจากการบินผ่านไป ยานนิวฮอไรซอนส์ก็ทำให้เห็นมุมมองด้านใหม่ๆ ของดาวพลูโตและดวงจันทร์ทั้ง 5 อาทิ แครอน, สติกซ์, นิกซ์, เคอร์เบอรอส และไฮดรา   

ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำการติดต่อกับทางโลกทั้งหมดนั้น ยานจะใช้ทรัพยากรที่มีในการเก็บรวบรวมข้อมูลและการถ่ายภาพดาวพลูโตเอาไว้  

มันจะเป็นภาพที่มีความละเอียดสูงจนสามารถแสดงให้เห็นพื้นผิวของดาวเคราะห์แคระนี้ได้ อีกทั้งยังเปิดเผยในรายละเอียดที่ไม่เคยได้พบเจอกันมาก่อนเลยอีกด้วย

อุปกรณ์อื่นๆ บนยานจะทำหน้าที่ในการศึกษาอุณหภูมิของพื้นผิวและธรณีวิทยา, ก้อนเมฆโดยรอบดวงดาว และเมฆฝุ่นในรอบวงโคจร  

นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะได้เข้าใกล้รูปหัวใจบนพื้นผิวของดาวพลูโต ที่ประกอบไปด้วยรอยหลุมอุกกาบาตและหน้าผาขนาดใหญ่  

พวกเขายังหวังอีกว่า จะได้เห็นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่และเหวในพื้นผิวน้ำแข็งของดวงจันทร์แครอน  

ศาสตราจารย์ อลัน สเติร์น ได้กล่าวต่อสำนักข่าว 'Mail Online' ไว้ว่า ทีมวิจัยหลักของภารกิจยานนิวฮอไรซอนส์นั้น ต่างรอคอยที่จะได้เห็นความใกล้ชิดมาตลอดระยะเวลา 15 ปีของการทำงาน  

เขากล่าวว่า "มีโอกาสเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่ยานนิวฮอไรซอนส์ จะสูญหายกลายเป็นเศษซากชิ้นเล็กชิ้นน้อยครับ"  

"ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น 1 ใน 10,000 หรือน้อยกว่านั้นครับ แต่จนกว่าที่พวกเราจะได้รับการติดต่อจากยานกลับมา พวกเราก็ไม่รู้อะไรเลยเช่นกัน พวกเราปล่อยให้ยานบินไปโดยที่เราไม่รู้อะไรเลยครับ"  

"มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมากๆ ผมนอนแค่เพียง 4 ชั่วโมงและยังรู้สึกยอดเยี่ยมอยู่เลยครับ"  

"ผมหมายถึง ลองดูที่ภาพซิครับ มันไม่เหมือนกับสิ่งไหนเลย นี่คือโลกของวิทยาศาสตร์ที่คุณไม่เคยได้พบเห็นกันมาก่อนครับ"

ในบรรดาข้อมูลชุดสุดท้ายที่ถูกส่งกลับมาจากยานนิวฮอไรซอนส์ ก่อนที่ยานจะเข้าสู่เซพโหมดนั้น ได้มีภาพถ่ายความคมชัดขนาด 600 พิกเซล ที่ทำให้เห็นลักษณะมุมมองเต็มๆ ของดาวพลูโต  

มันเป็นภาพที่มีความคมชัดมากที่สุดของดาวเคราะห์แคระ จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ได้รับการติดต่ออีกครั้งจากยานอวกาศในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนเวลา 01.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น

อย่างไรก็ดี ครั้งแรกที่ยานอวกาศติดต่อกลับมานั้น จะเป็นข้อมูลที่รายงานเกี่ยวกับสถานะของการวิจัย นั่นเองที่ทำให้พวกเขาได้รู้ว่าภารกิจได้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว  

ในภาพแรกนั้นเราไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับ จนกระทั่งจะถึงช่วงดึกของวันพุธนี้ มันต้องใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงในการส่งข้อความจากยานนิวฮอไรซอนส์ เพื่อเดินทาง 2.9 พันล้านไมล์ ในการกลับมายังโลก

แต่ข้อความและภาพใบแรกก็ได้รับโดยสถานีสื่อสารอวกาศระยะไกลแคนเบอร์รา เครือข่ายของนาซ่าที่ออสเตรเลีย

ดร. ลูอิส บอล (Dr Lewis Ball) หัวหน้านักดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์อวกาศ ได้กล่าวว่า "นั่นคือเรื่องมากมายที่พวกเราไม่เคยได้รู้กัน และไม่ใช่แค่ดาวพลูโต แต่ยังเกี่ยวข้องกับดวงดาวที่มีความคล้ายคลึงกันด้วย"

มันเป็นยานอวกาศลำแรกที่สามารถเดินทางไปได้ถึงดาวเคราะห์ที่ลึกลับและเยือกเย็นนี้ ซึ่งมีรอบวงโคจรเกือบ 3.7 พันล้านไมค์ (ราว 6 พันล้านกิโลเมตร) จากดวงอาทิตย์

ภาพที่ถูกส่งกลับมาจากยานฮอไรซอนส์นั้น จะเผยให้เห็นภาพของดาวพลูโตและดวงจันทร์ขนาดใหญ่อย่างดาวแครอน

วิลเลียม เเมคคินนอน (William McKinnon) รองผู้อำนวยการของทีมวิจัยยานอวกาศนิวฮอไรซอนส์ภาคธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในเซนต์หลุยส์ ได้เปิดเผยว่า "นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างและพื้นผิวของดวงจันทร์แครอนครับ"

"ยานนิวฮอไรซอนส์ได้เปลี่ยนมุมมองที่พวกเราได้มองดวงจันทร์ว่าเป็นลูกบอลน้ำแข็งออกไปครับ ซึ่งมันทำให้เราได้เห็นลักษณะทางธรณีวิทยาของดาวดวงนี้ครับ"

หลังจากที่เดินทางผ่านดาวพลูโตไปแล้วนั้น ยานนิวฮอไรซอนส์จะมุ่งหน้าสู่แถบไคเปอร์ (KBOs) ต่อไป รวมถึงดวงดาวอื่นๆ นอกเหนือจากวงโครจรของดาวพลูโต โดยภารกิจนี้จะสิ้นสุดลงในช่วงปี 2026

 

แปลจาก http://www.dailymail.co.uk

โดย http://www.popcornfor2.com

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X