สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ว่านายคิม มิน-ซ็อก โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ แถลงเรื่องกองทัพประชาชนเกาหลี ( เคพีเอ ) ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้จากพื้นสู่อากาศจำนวน 7 ลูก ตกลงในทะเลตะวันออก เมื่อวันพฤหัสบดี หรือ 1 วันก่อนกองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐจะปิดฉากปฏิบัติการซ้อมรบร่วมในชื่อ "คีย์ รีโซล์ฟ" ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ขณะที่ปฏิบัติการซ้อมรบในรหัส "โฟล อีเกิ้ล" ที่เปิดฉากพร้อมกัน จะดำเนินต่อไปถึงวันที่ 24 เม.ย.

ทั้งนี้ คิมยอมรับว่า การยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ของเกาหลีเหนือไม่ถือเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ที่ห้ามเพียงการยิงขีปนาวุธนำวิถีและการใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่รัฐบาลเปียงยางผิดมารยาททางการทูต ตรงที่ไม่แจ้งให้ทุกฝ่ายทราบล่วงหน้าเรื่องการยิงขีปนาวุธในครั้งนี้ ซึ่งอาจสร้างอันตรายให้แก่เรือประมงและเรือสินค้าในบริเวณนั้น

แม้รัฐบาลเกาหลีใต้และสหรัฐจะปกป้องจุดประสงค์ของการซ้อมรบที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ด้วยการยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ แต่รัฐบาลเปียงยางแสดงความไม่พอใจทุกครั้งผ่านการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ลงทะเลใกล้กับเกาหลีใต้ โดยก่อนหน้าการซ้อมรบประจำปีนี้ เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธตกลงในทะเลตะวันออก 2 ลูก เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าคัดค้านความร่วมมือทางทหารระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐ

ขอขอบคุณที่มา  เดลินิวส์ออนไลน์