|
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หลายครั้งที่คนโสดมักจะมองว่า ความโสดเป็นความโชคร้ายอย่างหนึ่งในชีวิต โดยเฉพาะตอนที่เห็นเพื่อนแต่งงานมีครอบครัวกันไปทีละคนสองคน ยิ่งทำให้รู้สึกหดหู่กับชีวิตที่ไร้คู่มากขึ้นไปอีก ทั้งที่ความจริงแล้วชีวิตโสดไม่ได้แย่ขนาดนั้นเลยสักนิด อีกทั้งยังมีข้อดีมากมายด้วยซ้ำ หากหนุ่ม ๆ ยังคิดไม่ออกล่ะก็ วันนี้เราก็มีคำตอบมาฝากกัน เผื่อว่าจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น
ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า
หลายงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายที่มีแฟนมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และแนวโน้มจะยิ่งสูงขึ้นไปอีกหลังจากแต่งงาน เพราะพวกเขาจะสนใจเรื่องอาหารการกินมากกว่าตอนอยู่คนเดียว พร้อมกันนี้ยังให้ความสนใจในเรื่องการดูแลรูปร่างหน้าตาน้อยลงด้วย ในขณะที่หนุ่มโสดต้องการทำให้สาวประทับใจก็เลยมีแรงจูงใจในการดูแลตัวเอง เพื่อทำให้เพศตรงข้ามรู้สึกประทับใจนั่นเอง
โฟกัสเรื่องงานได้เต็มที่
แม้ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะเป็นคนที่แต่งงานและมีครอบครัว แต่อย่าลืมว่าการมีครอบครัวเป็นการเพิ่มกรอบการทำงานให้ตัวเองเหมือนกัน เช่น ไม่สามารถย้ายที่อยู่หรือทำงานล่วงเวลาได้นาน ๆ เพราะต้องกลับไปอยู่กับครอบครัว ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่เป็นปัญหากับคนโสดเลย แถมยังสามารถตั้งใจทำงานได้มากกว่า เพื่อให้ตัวเองได้ก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดที่ต้องการแบบไร้ความกังวลด้วย
หมดปัญหาเงินขาดมือ
บางครั้งการมีแฟนหรือภรรยาทำให้คุณสูญเสียเงินไปกับเรื่องไม่จำเป็นเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นการพาเธอไปกินข้าว ช้อปปิ้ง ดูหนัง แถมในวันสำคัญยังต้องซื้อดอกไม้และของขวัญให้อีก ส่วนผู้ชายที่แต่งงานแล้วก็มีเรื่องค่าเล่าเรียนของลูก ค่าอาหาร เสื้อผ้า และภาระค่าใช้จ่ายภายในบ้านอื่น ๆ ที่ต้องดูแลมากมาย ในขณะที่คนโสดสามารถใช้จ่ายเพื่อความสุขของตัวเองได้เต็มที่
รู้จักทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น
จริงอยู่ว่าชีวิตตอนมีแฟนอาจสบายกว่าในบางเรื่อง เพราะเธอคอยทำนู้นทำนี่ให้คุณ แต่เมื่อโสดปุ๊บ ช่วงแรก ๆ บางคนคงรู้สึกว่าชีวิตลำบากขึ้น เนื่องจากไม่เคยทำกับข้าว ทำงานบ้าน หรือจ่ายตลาดด้วยตัวเองมาก่อนเลย ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปได้สักระยะ คุณจะเริ่มตระหนักได้เองว่าในเมื่อไม่มีคนคอยทำให้ ก็ต้องหัดทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว ทีนี้หนุ่ม ๆ คงเริ่มค้นพบทักษะใหม่ ๆ ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้มาก่อน
มีโอกาสได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตาเยอะขึ้น
ลองนึกย้อนกลับไปตอนที่คุณมีแฟนสิ ว่าคุณมีเวลาส่วนตัวน้อยแค่ไหน เพราะส่วนใหญ่ก็ต้องให้เวลากับสาวคนรักเสมอ ไม่งั้นสาวเจ้าก็งอนตุ๊บป่องหรือไม่ก็น้อยใจอีก จะไปไหนมาไหนกับเพื่อนก็ไม่ได้ เดี๋ยวหาว่าสนใจเพื่อนมากกว่าแฟน หรือถ้าหากไปเธอก็จะคอยตามจิกแทบจะตลอดเวลา จนรู้สึกว่าชีวิตไม่มีอิสระเลย ที่สำคัญ โอกาสที่คุณจะได้เจอผู้คนใหม่ ๆ ก็เป็นเรื่องยาก เพราะเวลาว่างที่คุณมีทั้งหมดต้องยกให้กับเธอเป็นอันดับแรก แต่เมื่ออยู่เป็นโสด ใช้ชีวิตคนเดียวแบบนี้ คุณมีสิทธิ์จะได้คุยกับคนอื่น ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องรายงานใครอีกด้วย
ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ
จากเมื่อก่อนที่เวลาจะทำอะไรก็ต้องถามฝ่ายหญิงก่อนเสมอว่าเธอเห็นด้วยไหม มีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าเธอไม่ชอบ คุณก็หมดสิทธิ์ที่จะทำในสิ่งนั้นไปโดยปริยาย แต่หากคุณไม่มีแฟน ชีวิตก็อยู่ในมือคุณทั้งหมด ไม่ต้องคอยขออนุญาตจากใคร มีความฝันอยากจะทำอะไรก็ลงมือได้เลย หรืออยากเดินทางไปในสถานที่ที่อยากไปก็ไม่มีใครห้ามอีกแล้ว
นอนหลับได้อย่างสบายใจ
การเป็นโสดก็ยังทำให้คุณไม่ต้องปรับเปลี่ยนเวลาหรือนิสัยการนอน เพื่อให้ตรงกับแฟนสาว อีกทั้งสามารถนอนกรน ส่งเสียงดัง เปลี่ยนท่านอนได้เต็มที่โดยไม่ต้องเกรงใจคนข้าง ๆ เลยสักนิด แถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะนอนหลับไม่สนิท เพราะโดนแฟนรบกวนระหว่างที่นอนหลับด้วย อยากจะตื่นนอนตอนไหนก็ตื่นได้
เปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลา
หากมีแฟนคุณจะต้องวางแผนและทำตามแผนที่วางเอาไว้ หากไม่เป็นไปตามนั้นล่ะก็ เตรียมรับมือกับความโกรธของเธอได้เลย แต่สำหรับคนโสดนั้น คุณสามารถเปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ถ้าไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ไม่ต้องมีใครมาคอยกะเกณฑ์หรือควบคุมชีวิต
จีบได้ไม่ต้องเกรงใจใคร
ความสนุกของชีวิตโสดอีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถเลือกจีบหญิงคนไหนก็ได้ที่คิดว่าน่าสนใจ (และโสด) รวมไปถึงเหล่าสวยฮอตที่เป็นที่หมายปองของหนุ่มหลายคนก็ตาม พร้อมกันนี้ยังมีโอกาสที่ได้ออกไปกินข้าว ดูหนัง หรือออกไปเที่ยวกับพวกเธอได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลหรือแคร์ความรู้สึกใครทั้งสิ้น
หากได้ยินใครพูดว่าการเป็นโสดไม่ต่างอะไรจากการมีชีวิตที่โดดเดี่ยวแล้วล่ะก็ คงรู้กันแล้วว่าชีวิตโสดไม่ได้แย่ขนาดนั้น แถมยังเป็นชีวิตที่สนุกและน่าตื่นเต้นอีกต่างหาก ถ้าหากตอนนี้คุณยังโสดอยู่ ก็หวังว่าข้อดีที่กล่าวไปทั้งหมดจะทำให้คุณมีความสุขกับชีวิตแบบคนโสดกันมากขึ้นนะครับ