12 Years a Slave คือหนังดราม่ายอดเยี่ยม ของเวทีลูกโลกทองคำปีนี้ ส่วน American Hustle ก็คว้ารางวัลสำคัญไปได้ถึง 3 สาขา โดยเฉพาะนักแสดงหญิงที่กวาดไปทั้ง สมทบ และนักแสดงนำ ด้านนักแสดงหนุ่มคนดัง “ลีโอนาร์โด” ก็คว้ารางวัลลูกโลกทองคำได้เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต

ดูเหมือนว่าฤดูกาลมอบรางวัลของฮอลลีวูดประจำปี 2014 จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษเพราะปีนี้ไม่มีหนัง หรือนักแสดงที่เป็นตัวเต็งที่จะได้รับรางวัลแบบโดดเด่นมาเพียงไม่กี่เรื่อง แต่มีผลงานหลาย ๆ ชิ้นที่มีโอกาสลุ้นรางวัลสำคัญ ๆ ซึ่งสุดท้ายก็มีหนังหลาย ๆ เรื่องที่แบ่งรางวัลสำคัญ ๆ ของเวทีลูกโลกทองคำในปีนี้กันไป

โดย 12 Years a Slave กลายเป็นหนังดราม่ายอดเยี่ยมประจำปี แม้จะเป็นรางวัลเดียวที่หนังเรื่องนี้ได้รับ แต่ก็เป็นรางวัลสำคัญที่สุดของการมอบรางวัลในปีนี้ ส่วน อัลฟองโซ กัวรอง คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมประจำปีจาก Gravity หนังไซไฟสามมิติที่ได้รับคำชม และกวาดเงินไปมหาศาล 670 ล้านเหรียญฯ แล้ว

ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ก็คว้ารางวัลลูกโลกทองคำได้เป็นตัวที่ 2 ในชีวิตจาก The Wolf of Wall Street ผลงานอีกเรื่องที่เขาได้ทำงานกับผู้กำกับระดับตำนาน มาร์ติน สกอร์เซซี ส่วนรางวัลนักแสดงนำหญิงในสาขาดราม่าตกเป็นของ เคต แบลนเช็ต จาก Blue Jasmine ของ วูดดี อัลเลน ที่เหล่านักวิจารณ์ค่อนข้างจะฟันธงกันมาตั้งแต่ต้นว่ามีโอกาสคว้ารางวัลไปมากที่สุด

American Hustle ผลงานการกำกับของ เดวิด โอ’รัซเซล คือดาวเด่นอีกเรื่อง ในการประกาศรางวัลปีนี้ ด้วยการคว้ารางวัลใหญ่ เป็นหนังตลกหรือเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี นอกจากนั้นหนังว่าด้วยปฏิบัติการของเอฟบีไอเรื่องนี้ยังเก็บรางวัลสาขาการแสดงไปได้ถึง 2 สาขา ทั้ง เอมี อดัมส์ ในรางวัลสาขานักแสดงนำหญิง ประเภทหนังตลกและเพลง

ส่วน เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ก็คว้ารางวัลสาขานักแสดงสมทบหญิงไปครอง หลังจากปีก่อนเธอก็เพิ่งจะคว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงได้จาก Silver Linings Playbook นับว่า 2 ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของ ลอว์เรนซ์ อย่างแท้จริง เพราะนอกจะกวาดรางวัลต่าง ๆ ได้มากมายแล้ว เธอยังขึ้นแท่นเป็นดาราทำเงินมีหนังชุด The Hunger Games ที่ทำเงินเป็นประวัติกาลด้วย

ขณะที่ American Hustle กวาดรางวัลในสาขานักแสดงหญิง Dallas Buyers Club ก็กวาดรางวัลในสาขานักแสดงชายไปได้ถึง 2 สาขา ทั้ง แม็ตธิว แม็คคอนาเฮย์ ในสาขานักแสดงนำประเภทหนังดราม่า และนักแสดงหนุ่มที่หายหน้าหายตาจากวงการหนังไปถึง 4 ปีเต็ม เจเร็ต เลโต้ ก็กลับคืนวงการอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายจากบทสาวประเภทสอง โดยสองหนุ่มต้องลดน้ำหนักหลายกิโลกรัมสำหรับหนังเรื่องนี้ เพื่อรับบทเป็นผู้ป่วยที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากการติดเชื้อ HIV ด้วยการลักลอบนำเข้ายาผิดกฎหมายมาใช้ ในหนังที่สร้างจากเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริง

Frozen ผลงานสุดประทับใจจาก Disney ก็เป็นผู้ชนะรางวัลในสาขาภาพยนตร์อนิเมชั่น ส่วน The Great Beauty ตัวแทนจากประเทศอิตาลีคว้ารางวัลหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม เอาชนะหนังดังจากฝรั่งเศส Blue Is The Warmest Color ไปได้ในที่สุด

ด้านรางวัลในสาขาโทรทัศน์ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อฉายทาง HBO อย่าง Behind the Candelabra ผลงานการกำกับของ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก ที่มี ไมเคิล ดั๊กลาส และ แม็ต เดมอน รับบทคู่เกย์ก็คว้ารางวัลไปได้ในสาขามินิซีรีส์ โดย ดั๊กลาส ยังคว้ารางวัลสาขานักแสดงนำชายได้ด้วยจากการสวมบทเป็นศิลปินเกย์ชื่อดัง ริบาราชี

ส่วนนักแสดงมากฝีมือ ไบรอัน แครนสตัน ก็คว้ารางวัลนักแสดงนำชายหมวดซีรีส์ดราม่าจากซีรีส์สุดดังที่เป็นกระแสฮิตไปทั่วสหรัฐฯ อย่าง Breaking Bad ได้ตามความคาดหมาย เช่นเดียวกับตัวซีรีส์ที่คว้ารางวัลเป็นซีรีส์แนวดราม่าแห่งปีไปได้ด้วย

สำหรับรางวัลทางโทรทัศน์หมวดตลกและเพลง ดาวตลกสาวที่ทำหน้าที่พิธีกรในงานครั้งนี้อย่าง เอมี โพห์เลอร์ ได้โอกาสขึ้นเวทีในฐานผู้รับรางวัลด้วยหลังชื่อของเธอถูกประกาศให้เป็นผู้ชนะในสาขานักแสดงนำหญิงของซีรีส์ตลกจาก Parks and Recreation

งานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 71 ประจำปี 2014 ที่จัดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 12 ม.ค. โดย Hollywood Foreign Press Association (HFPA) ณ โรงแรมเบเวอร์ลี ฮิลตัน เมืองลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สองดาวตลกหญิงชื่อดัง สองดาวตลกหญิง ทีนา เฟย์ กับ เอมี โพห์เลอร์ มาทำหน้าที่ดำเนินรายการหลังเคยทำหน้าที่เดียวกันเมื่อปีที่แล้ว และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมากมาย นอกจากนั้นก็ยังช่วยดึงเรตติ้งให้งานมอบรางวัลสถาบันนี้สูงจนน่าพอใจมาแล้ว

ผลรางวัลลูกโลกทองคำ

รางวัลสาขาภาพยนตร์
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – ดราม่า: 12 Years a Slave
ผู้กำกับ: อัลฟองโซ กัวรอง (Gravity)
นักแสดงนำชาย – ดราม่า: แม็ตธิว แม็คคอนาเฮย์ (Dallas Buyers Club)
นักแสดงนำหญิง – ดราม่า: เคต แบลนเช็ต (Blue Jasmine)
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – ตลก หรือเพลง: American Hustle
นักแสดงนำชาย – ตลกหรือเพลง: ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (The Wolf of Wall Street)
นักแสดงนำหญิง – ตลกหรือเพลง: เอมี อดัมส์ (American Hustle)
นักแสดงสมทบชาย: แจเร็ต เลโต้ (Dallas Buyers Club)
นักแสดงสมทบหญิง: เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (American Hustle)
อนิเมชั่น: Frozen
หนังภาษาต่างประเทศ: The Great Beauty (อิตาลี)
บทภาพยนตร์ – สไปค์ จอนซ์ (Her)
เพลงนำภาพยนตร์: Ordinary Love โดย U2 และ ไบรอัน เบอร์ตัน (Mandela: Long Walk to Freedom)
ดนตรีประกอบภาพยนตร์: อเล็กซ์ อีเบิร์ต (All Is Lost)

รางวัลสาขาโทรทัศน์
ซีรีส์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า: Breaking Bad
นักแสดงนำชาย - ดราม่า: ไบรอัน แครนสตัน (Breaking Bad)
นักแสดงนำหญิง - ดราม่า: โรบิน ไรต์ (House of Cards)
ซีรีส์ยอดเยี่ยมประเภทตลก: Brooklyn Nine-Nine
นักแสดงนำหญิง - ซีรีส์ตลกหรือเพลง: เอมี โพห์เลอร์ (Parks and Recreation)
นักแสดงนำชาย - ซีรีส์ตลกหรือเพลง: แอนดี แซมเบิร์ก (Brooklyn Nine-Nine)
มินิซีรีส์ยอดเยี่ยม: Behind the Candelabra
นักแสดงนำชาย – มินิซีรีส์, ภาพยนตร์สำหรับโทรทัศน์: ไมเคิล ดั๊กลาส (Behind the Candelabra)
นักแสดงนำหญิง - มินิซีรีส์, ภาพยนตร์สำหรับโทรทัศน์: อลิซาเบ็ธ มอส (Top of the Lake)
นักแสดงสมทบชาย: จอห์น วอยต์ (Ray Donovan)
นักแสดงสมทบหญิง: แจ็คเกอร์รีน บิเซ็ตต์ (Dancing on the Edge)

ดาวเด่นวงการทีวี ไบรอัน แครนสตัน คว้ารางวัลจาก Breaking Bad ตามคาด



เอมี อดัมส์ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงจาก American Hustle



พักงานแสดงไปถึง 4 ปีเต็ม แจเร็ด เลโต้ กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับรางวัลสมทบจากใน Dallas Buyers Club



เคต แบลนเช็ต ไม่พลาดคว้ารางวัลจาก Blue Jasmine

แม็ตธิว แม็คคอนาเฮย์ คว้ารางวัลนักแสดงนำชายจาก Dallas Buyers Club

http://www.manager.co.th