สวยแบ๊ว 'โพนี่ (พักฮเยมิน)' บิวตี้บล็อกเกอร์ที่ฮอตที่สุดในเกาหลี
2014-01-05 23:37:27
Advertisement
คลิก!!!

ถ้าพูดถึงเมกอัปอาร์ติสท์สาวไทยที่มีชื่อเสียงในโลกสังคมออนไลน์ เชื่อว่า 2 สาวที่หลายคนต้องนึกถึงก็คือ โมเม นภัสสร บูรณศิริ หรือที่รู้จักกันในนาม โมเมพาเพลิน และแพรี่พาย อมตา จิตตะเสนีย์ ผู้เป็นไอดอล และคีร์ลัดความสวยของสาวๆ ที่มีผู้ชมติดตามในเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมเป็นจำนวนมาก

แต่ถ้าเป็นของแดนกิมจิ คงต้องยกให้เธอคนนี้ 'พักฮเยมิน' หรือ 'โพนี่' เมคอัพอาร์ติสท์ และบิวตี้บล็อกเกอร์สาวสุดฮอต ที่ไม่เพียงแต่สวยแบ๊วตามสไตล์สาวเกาหลี เธอยังมีเทคนิคการแต่งหน้าที่สนุก และเข้าใจง่ายจนกลายเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ที่ฮอตที่สุดในเกาหลีเวลานี้

และเมื่อเร็วๆ นี้ เธอบินตรงมาจากเกาหลี เพื่อมาโปรโมตผลงานเขียนเล่มล่าสุด "เสกสวย อินเทรนด์ Celeb Style" โดยก่อนหน้านี้เคยมีผลงานมาแล้ว 2 เล่ม คือ Pony's Secret Makeup Book (เสกปุ๊บ สวยปั๊บสไตล์เกาหลี) และ Pony's Special Makeup Book (แต่งสไตล์ที่ใช่ สวยสไตล์ที่ชอบ) ซึ่งตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ

M-Lite จึงไม่พลาดที่จะจูงมือบิวตี้บล็อกเกอร์สาวสุดฮอต มานั่งพูดคุยผ่านล่ามถึงตัวตน และเรื่องราวชีวิต ตลอดจนมุมคิดที่หากใครได้อ่านแล้ว คงต้องหลงรักเธอเป็นแน่

โพนี่ บิวตี้บล็อกเกอร์สุดฮอตแดนกิมจิ

"สวัสดีค่ะ พักฮเยมิน ค่ะ เป็นเมกอัปอาร์ติสท์จากเกาหลีค่ะ ส่วนโพนี่ เป็นชื่อที่ใช้เขียนบล็อกด้านความงามค่ะ" เธอแนะนำตัวกับ ทีมงาน M-Lite เป็นภาษาเกาหลี โดยมีล่ามคนไทยมานั่งเป็นผู้ช่วยแปลสารอยู่ข้างๆ

โพนี่ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ว่า เธอไม่ใช่นักเรียนเอกการแต่งหน้าหรือเรียนมาทางด้านเมกอัปฯ โดยตรง แต่ที่เป็นได้ทุกวันนี้ เพราะความชอบส่วนตัว

"ฉันเป็นคนที่ชอบการแต่งหน้าอยู่แล้วค่ะ และมักจะแต่งหน้า รวมทั้งนำเสนอวิธีการแต่งหน้าขึ้นบล็อกของฉันเป็นงานอดิเรก ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้อยากทำเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ แค่อยากจะสอนวิธีการแต่งหน้าและขึ้นในบล็อกของตัวเองไปเรื่อยๆ เท่านั้น เพราะคิดว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่พอทำมาเรื่อยๆ การตอบรับมันดี มีคนติดตาม และเอาไปแชร์ จึงกลายมาเป็นอาชีพเขียนบล็อก และก็เป็นเมกอัปอาร์ติสท์ไปในตัว"

นี่จึงกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ โพนี่ เขียนหนังสือสอนการแต่งหน้าขึ้นมา และใครจะไปรู้ว่าบล็อกเกอร์สาวที่โด่งดังแต่ในโลกโซเชียลจะกลายมาเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมากๆ ในเกาหลี เห็นได้จากหนังสือของเธอที่ขายดีติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ที่ผู้ชื่นชอบการแต่งหน้าทุกคนต้องอ่าน

"ฉันรู้สึกดีใจ และตื่นเต้นทุกครั้งที่เขียนหนังสือ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกดดันมากด้วย โดยแต่ละเล่ม ฉันทุ่มเทกับการแต่งหน้ามาก จริงๆ แล้วฉันทดลองแต่งหน้าซ้ำๆ มาตลอดเพื่อให้ได้หนังสือที่สมบูรณ์แบบ และตอบโจทย์คนอ่านเรื่องการแต่งหน้าให้มากที่สุด ซึ่งการเขียนหนังสือไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เป็นงานที่สนุกมากค่ะ และยิ่งมีผู้อ่านทั้งสาวเกาหลี และสาวไทยติดตามกันมากแบบนี้ ฉันก็ยิ่งดีใจมากๆ ค่ะ"

เธอขยายความต่อไปถึงหนังสือที่เธอเขียนด้วยว่า จะไม่ใช้คำศัพท์กายวิภาค แต่จะเป็นหนังสือที่อ่านง่าย และสนุก

"หนังสือของโพนี่จะอ่านง่าย และอ่านเพลินค่ะ อย่างเล่มล่าสุด เป็นการแต่งหน้าตามสไตล์เซเลบฯ และบิวตี้ไอคอนคลาสสิกที่โด่งดังและเป็นผู้นำในแต่ละยุคสมัย โดยในเล่มก่อนๆ จะเน้นพื้นฐานการแต่งหน้า และอารมณ์ของสีเป็นหลัก ส่วนในเล่มล่าสุด จะเน้นไปที่โครงสร้างใบหน้ามากขึ้น" เธอเผยความน่าสนใจของ เสกสวย อินเทรนด์ Celeb Style ผลงานเล่มล่าสุดของเธอ

ปัจจุบัน โพนี่ จบหลักสูตร Visual Design ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเกาหลี ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ต้องสร้างสรรค์ความคิดและสร้างสรรค์ผลงานออกม

ล้วงตัวตน เปิดชีวิตสาวโพนี่

เจาะลึงลงไปถึงตัวตนของสาวผู้มากความสามารถคนนี้ แม้ภายนอกจะดูมั่นใจ และเข้าถึงยาก แต่นี่คือตัวตนจริงๆ ที่เธออยากจะบอก

"คนอื่นเวลาดู หรือมองมาที่ฉัน หลายคนจะมองว่า เพอร์เฟกต์ชันนิสหรือเปล่า หรือเป็นคนแบบไม่มีความรู้สึกหรือเปล่า เย็นชา ดูแบบไม่แสดงความรู้สึก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ ฉันเป็นคนพูดง่าย สบายๆ แถมยังเป็นคนขี้เล่นอีกด้วย ถ้าถามว่าโพนี่เป็นคนอย่างไร ให้ดูที่ชื่อเล่นฉันก็ได้ค่ะ โพนี่ ซึ่งเป็นชื่อของม้าตัวเล็กๆ แสนซน ร่าเริงตลอดเวลา นี่แหละค่ะ ความเป็นฉัน" เธอเผยก่อนจะหยอกๆ ทีมงานว่า "ถ้าคุณได้รู้จักฉันมากกว่านี้ คุณจะรู้ว่าฉันเป็นคนสนุกสนาน และจะอยู่ไม่นิ่งหรอกค่ะ เพราะฉันจะชอบทำโน่น ทำนี่อยู่ตลอดเวลา (ยิ้ม)"

โพนี่ให้เหตุผลต่อไปว่า ที่เธอเติบโตมาบนบุคลิกดังกล่าวได้นั้น 'พ่อแม่' คือผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญ

"พ่อฉันเป็นคนเข้มงวด และดุมาก ส่วนแม่จะเป็นเหมือนเพื่อนของฉันเลยค่ะ แล้วอีกอย่าง แม่หน้าเด็กมาก เวลาไปไหนมีแต่คนเข้าใจว่า เป็นพี่สาวน้องสาว ดังนั้น การเลี้ยงดูของพ่อแม่ หล่อหลอมให้ฉันเป็นคน 2 แบบ คือ ยึดติดแบบแผน อนุรักษนิยมเหมือนพ่อ แต่อีกด้านคือความอิสระ ชอบแต่งหน้า ทำเล็บเหมือนแม่ เพราะแม่ฉันเป็นคนชอบแต่งตัว และชอบทำให้ตัวเองดูดีอยู่ตลอดเวลา"

ดังนั้น คงไม่ต้องบอกเลยว่า แรงบันดาลใจเรื่องสวยๆ งามๆ ของเธอมาจากไหน

"การที่ชอบอะไรสวยๆ งามๆ ชอบแต่งหน้า พูดเลยว่า ได้เลือดแม่มาเต็มๆ ค่ะ แม่คือต้นแบบที่ฉันได้เห็น และสัมผัสมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต"

เมื่อถามถึงความฝันของสาวโพนี่ การเป็นบล็อกเกอร์ และเมกอัปอาร์ติสท์ต์ไม่ใช่ความฝันแรกของเธอ

"ตอนเด็กๆ ฉันอยากเป็นนักร้องมากๆ ค่ะ (พูดไปหัวเราะไป) พอโตขึ้นมา ฉันเริ่มรู้สึกว่า คู่แข่งค่อนข้างเยอะทีเดียว ฉันก็เลยสนใจเรื่องวาดรูป เพราะชอบวาดรูปกับแม่มาตั้งแต่เด็ก ฉันจึงไปเรียนวาดรูป โดยเน้นไปที่กราฟิกดีไซน์ แต่พอคิดไปคิดมา การวาดภาพก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ ฉันก็เลยเลือกที่จะแต่งหน้า และศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองอย่างจริงจัง ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งจนผันตัวเองมาเป็นบล็อกเกอร์ และเขียนหนังสือแต่งหน้าออกมาในที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันทำแล้วมีความสุข และเป็นสิ่งที่เข้ากับตัวฉันมากที่สุด" เธอเผย

สำหรับไอดอลด้านการแต่งหน้าของสาวคนนี้ มีอยู่ไม่กี่คนที่เธอยกย่อง และชื่นชมมาตลอด คนแรกคือ ลี เฮียว ริ ซึ่งเธอคนนี้จะออกแนวแมวๆ ดูแคทอายหน่อย ส่วน ทิฟฟานี่ ยูริ แห่งวงเกิร์ลเจเนอเรชัน จะเป็นผู้หญิงหน้าสวย ซึ่งเป็นลักษณะที่ผู้หญิงหลายคนอยากเป็นเหมือนเธอ และอีกคนคือ คังมินกยอง นักร้องเกาหลีวงดาวินชี่ที่จะแต่งหน้าออกแนววิ้งๆ เน้นผิวที่ดูสดใส มีสุขภาพดี

ส่วนวันว่างของโพนี่ นอกจากงานส่วนตัวแล้ว เธอยังมีวันหยุด 1 วัน และส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการถ่ายรายการ โพนี่ บิวตี้ ไดอารี่ ซึ่งเป็นรายการของเธอเอง

รักใคร ต้องไม่เห็นแก่ตัว

สำหรับมุมมองด้านความรัก เธอจะมีมุมมองความรักอย่างไร ตามไปอ่านกัน

"ความรักสำหรับฉัน ฉันมองว่า การมีความรักทำให้คนไม่เห็นแก่ตัวนะ พอฉันอยากทำสิ่งนี้ แต่ก็ต้องหันไปดูคนข้างๆ ของเราด้วยหรือเปล่าว่าเขาคิด หรือรู้สึกอย่างไร คือเหมือนกับว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา พยายามที่จะเข้าใจกันและกัน ไม่เอาตัวเองเป็นหลัก"

เมื่อถามถึงหนุ่มๆ ในดวงใจ เธอถึงกับหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ ก่อนจะเฉลยให้ว่า เธอมีแฟนหนุ่มตามมาให้กำลังใจในงานเปิดตัวหนังสือครั้งนี้ด้วย

"ก็เหมือนแฟนฉันที่มากับฉันด้วยวันนี้ค่ะ (เขิน) เขาดูแลดี เอาใจใส่ และเป็นคนดูดีเหมือนพ่อของฉัน ซึ่งพ่อของฉันแต่งตัวดูดีมาก เป๊ะทุกอย่างค่ะ" เธอเผย

โมเม-แพรี่พาย 2 สาวสุดทึ่ง

สำหรับเมกอัปอาร์ติสท์สาวไทย ถามว่า มีใครบ้างที่เธอรู้จัก โพนี่บอกว่า มีอยู่ 2 คน นั่นก็คือ โมเม นภัสสร บูรณศิริ หรือที่รู้จักกันดีในนาม โมเมพาเพลิน และ แพรี่พาย อมตา จิตตะเสนีย์ เมคอัพอาร์ทิสต์แสนสวยผู้เป็นไอดอล และคีร์ลัดความสวยของสาวไทยในโลกออนไลน์

"ก่อนหน้านี้ เคยมาประเทศไทยแล้วครั้งหนึ่งค่ะ และตอนที่มาก็อยากรู้ว่า คนไทยมีเมกอัปอาร์ติสท์สาวไทยที่ทำเหมือนฉันไหม ก็เลยลองค้นหาในยูทิวบ์ดู ปรากฎว่าเจอของคุณโมเม ซึ่งมีคนติดตามเธอเยอะมาก และพอได้เข้ามาดูก็เริ่มสนใจในตัวผู้หญิงคนนี้ เพราะนอกจากจะทำให้ฉันรู้ว่า ผู้หญิงไทยเขาแต่งหน้ากันอย่างไรแล้ว รายการของเธอยังแปลกใหม่ และน่าสนใจดีด้วยค่ะ" โพนี่เผย ก่อนจะบอกด้วยว่า "ไว้ฉันจะลองนำวิธีการสอนแต่งหน้าของคุณโมเมไปประยุกต์ใช้ในรายการของฉันที่เกาหลีดูบ้าง (ยิ้ม) คงน่าสนุกไม่น้อย"

ส่วน แพรี่พาย อมตา จิตตะเสนีย์ เธอบอกว่า เคยร่วมงานถ่ายปกนิตยสารด้วยกันมาก่อน

"เจอกันตอนแรกก็ตอนถ่ายปกครีโอ พอได้เจอและทำงานด้วยกัน ฉันก็เริ่มสนใจในตัวเธอ และกลับไปหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอ จนวันหนึ่งได้มีโอกาสเห็นอินสตาแกรมของแพรี่พาย ได้ดูภาพ ดูแนวคิด ซึ่งเหมือนเป็นการได้ศึกษางานของกันและกัน ส่วนตัวฉันชอบในความเป็นเธอ ฉันเห็นเธอทำในสิ่งที่ใครหลายคนไม่ทำ

อย่างที่เห็นในภาพก็คือ มีที่คาดผมเป็ด มันทำให้ฉันรู้สึกชอบเธอ เพราะว่าเธอดูเป็นคนสนุกค่ะ อยากทำอะไรก็ทำ บางอย่างฉันดูแล้ว เฮ้ย! เธอทำได้อย่างไร แบบอึ้งกันไปเลยทีเดียว ซึ่งความกล้าฉีกกรอบของเธอหลายๆ อย่าง ถึงจะทำฉันอึ้ง และช็อก แต่เธอก็น่าสนใจ และดูดีค่ะ"

แต่งหน้าสาวไทย VS สาวเกาหลี

ทั้งนี้ ในฐานะที่เธอเป็นเมกอัปอาร์ติสท์ และบล็อกเกอร์สาวคนดัง ซึ่งมีสาวเกาหลีติดตามมากที่สุด นี่คือความแตกต่างอย่างสุดขั้วในการแต่งหน้าของสาวเกาหลี และสาวไทยในสายตาของโพนี่

"การแต่งหน้าของสาวเกาหลี จะเป็นการแต่งหน้าด้วยสีแดงเบอกันดี จะออกไปในแนวทไวไลท์ ซีดๆ เน้นปากแดงนิดหน่อย แต่จริงๆ แล้ว เรื่องแต่งหน้า คนเกาหลีไม่ค่อยแต่งกันนะคะ บ้านฉันจะให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้ามากๆ เพราะการมีสุขภาพผิวที่ดี ช่วยให้คนคนนั้นดูดีขึ้นมาไปโดยปริยาย แล้วอีกอย่าง คนบ้านฉันส่วนใหญ่เป็นคนขี้อาย และคิดเยอะค่ะ เวลาเห็นดารา หรือมีใครเป็นไอดอลเรื่องสวยๆ งามๆ มักจะไม่ค่อยกล้าทำตาม เพราะกลัวคนอื่นจะมองไม่ดี หรือจะถูกมองว่าเยอะไปหรือเปล่า" เธอเผย ก่อนจะบอกต่อไปว่า "ถ้าคนเกาหลีเป็นอย่างคนไทยได้ก็จะดี กล้าที่จะแต่งหน้าในทุกๆ แบบ ซึ่งฉันชื่นชมในความกล้า และความมั่นใจในแบบคนไทยมากค่ะ"

เมื่อถามในส่วนของตัวเธอเองว่าชอบการแต่งหน้าแบบไหน เธอบอกว่า จะชอบเน้นการแต่งหน้าที่ดวงตา เพราะถ้าแต่งตาได้สวย จะยิ่งทำให้ผู้หญิงดูโดยรวมแล้วสวยเพิ่มขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการติดขนตาปลอม จะติดเฉพาะเวลาเน้นการแต่งตาเป็นพิเศษเท่านั้น ถ้าวันที่ต้องไปทำงาน จะไม่ค่อยติดไป เนื่องจากต้องใช้สายตาเยอะจึงอาจทำให้เคืองตาได้ง่าย

"สิ่งที่ชอบมากที่สุดบนใบหน้าของฉันก็คือดวงตาค่ะ เพราะเป็นส่วนที่ตรึงใจคนได้มากที่สุด (พูดไปเขินไป) ส่วนที่ไม่ชอบคือ หน้าผากค่ะ อยากให้หน้าผากโค้งมนมากกว่านี้ ซึ่งถ้าแสงส่องมาจากข้างบน ยังไงก็ไม่รอดค่ะ เปิดกว้างมากซะขนาดนี้ (หัวเราะ)" เธอเผย

ถ้าให้ฝากเคล็ดกับการแต่งหน้าให้เหมาะกับสาวไทย โพนี่แนะนำว่า คนไทยมีผิวที่ค่อนข้างเหลือง ดังนั้น ในตอนที่แต่งหน้าแทนที่จะใช้สีน้ำเงินหรือสีม่วง ถ้าใช้สีที่เป็นสีเอิร์ธโทนอย่างสี Coral น้ำตาลหรือส้มจะเหมาะกว่าและดูสวยกว่า นอกจากนั้น ผู้หญิงไทยหลายคนหน้ามันง่าย เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้ผู้หญิงไทยหลายคนใช้กระดาษซับมันจนเป็นนิสัย แต่รู้หรือไม่ว่า การใช้กระดาษซับหน้ามันบ่อยๆ จะทำให้ผิวหน้ายิ่งผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นว่า หน้ามันมากขึ้นกว่าเดิม ทางที่ดีควรใช้ตอนจะเติมเครื่องสำอางใหม่ก็พอ

ฉายา 'เกาหลี' เมืองแม่ศัลยกรรม

ถ้าพูดถึงเกาหลี ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวไทยนึกถึงก็คือ การเป็นประเทศแม่ในเรื่องการทำศัลยกรรม กับฉายานี้ เมื่อถามไปยังโพนี่ในฐานะคนเกาหลีว่ารู้สึกอย่างไร เธอบอกว่า เป็นเรื่องดีที่คนจำนวนไม่น้อยบินลัดฟ้าเข้ามาโมหน้า อัปดั้งที่ประเทศของเธอ

"ก็...ถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ฉันมองเป็นข้อดีมากกว่า เพราะนี่คือศักยภาพอย่างหนึ่งของประเทศฉัน ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้สึกแย่อะไร ถ้าทำเล็กๆ น้อยๆ ไม่เยอะเกินไป ฉันว่า..ก็โอเคนะ แต่ถ้าเยอะเกินไปนี่ ฉันมองว่า มันจะมากไปหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่ใครจะมองค่ะ"

ส่วนอีกหนึ่งของขึ้นชื่อที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็คือ ซีรี่ส์เกาหลี ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยจำนวนไม่น้อยติดกันงอมแงม แบบชนิดที่เรียกว่า ดูกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว หลังจากได้ยินคำถามนี้ โพนี่สาวน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้า ถึงกับทำอุทานด้วยความตกใจ และปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังๆ ก่อนจะเผยความรู้สึกว่า

"โอ้ว จริงเหรอค่ะ ขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ (หัวเราะ) ได้ฟังแบบนี้แล้วก็ดีใจนะคะที่คนไทยชอบซีรี่ส์ของบ้านฉัน แต่ส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยดูโทรทัศน์ค่ะ ถ้าให้มองในฐานะคนเกาหลี ฉันรู้สึกว่า ละครสมัยนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร อยู่ดีๆ ก็มาเจอกัน อยู่ดีๆ ก็มาแต่งงานกัน ซึ่งที่เกาหลีก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ แต่ถึงจะมีกระแสในด้านลบ บ้านฉันก็ติดเหมือนกันค่ะ อาตจะพอๆ กันคนไทยเลยก็ว่าได้ (หัวเราะ)"

ชีวิตต้องปลุกพลังบวกอยู่ตลอด

ถึงวันนี้ วันที่ได้เป็นคนรู้จักของสังคม ทั้งในโลกออนไลน์ และออฟไลน์ แน่นอนว่า สิ่งที่ตามมาคู่กันก็คือกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในด้านบวก และด้านลบ

"คอมเมนต์แย่ๆ มีค่ะ มีเข้ามาอยู่แล้ว ฉันเคยทุกข์ทรมาน เคยร้องไห้ แล้วเคยนอนไม่หลับมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็คิดเยอะนะ ว่า ทำไมเขาถึงมองฉันในแง่ร้ายแบบนั้น เช่น เธอเป็นใครมาจากไหน มาสั่งมาสอนฉันเนี่ย เรื่องแค่นี้ฉันก็ทำได้ หรือเข้ามาต่อฉันเรื่องการแต่งหน้าตามดาราคนดังว่า ไม่เห็นจะเหมือนตรงไหนเลย แต่ด้วยความที่การเขียนบล็อกมันเป็นงานของฉัน ไหนจะทำหนังสือ รวมถึงรายการทีวี มันต้องเปลี่ยนความคิดใหม่

ดังนั้น คนที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เรา จริงๆ เขาอาจสนใจเรานะ ถ้าเขาไม่ดูเรา เขาจะมาวิพากษ์วิจารณ์เราได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ฉันก็เลยเปลี่ยนความคิด และมองในแง่บวกมากขึ้น จากที่เป็นคนใจแคบ ไม่ค่อยยอมรับความเห็นของคนอื่นสักเท่านั้น ประสบการณ์สอนให้ฉันรู้ว่า เราต้องเปิดใจให้กว้างมากขึ้นกว่านี้ จากนั้นก็น้อมนำคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น มาทบทวน และปรับปรุงแก้ไขต่อไป" เธอเผยวิธีคิดเพื่อที่จะอยู่อย่างไม่เป็นทุกข์


สำหรับอนาคตต่อจากนี้ การเรียนแต่งหน้าอย่างจริงจัง คือ เป้าหมายที่เธอได้วางไว้ นอกจากนี้เธอกำลังจะสร้างชอปปิ้งมอลล์เพื่อแบ่งปันความสามารถอันโดดเด่นไม่เหมือนใครนี้ให้แก่ทุกคนด้วย

"ตอนนี้อยากไปเรียนการแต่งหน้าอย่างจริงๆ จังๆ แล้วค่ะ ส่วนตัวฉันอยากเรียนการแต่งหน้าของแต่ละประเทศ อย่างของญี่ปุ่นเขามีอะไร ที่ปารีส อังกฤษ ออสเตรเลียเขามีอะไร เพื่อจะได้เอามาประยุกต์กับการแต่งหน้าของฉันเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันมีความสุขที่สุดในตอนนี้ และเงินก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฉันแล้วด้วย แต่การได้ทำอะไรตามใจตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ได้กินข้าวฉันก็ได้กิน อยากคุยกับเพื่อนก็คุย อยากนอนก็นอน มันคือความสุขที่แท้จริงต่างหาก" โพนี่ทิ้งท้าย

เรื่องโดย : ASTVผู้จัดการ Lite
ภาพโดย : วชิร สายจำปา
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากแฟนเพจ Pony's Park Fanpage

/////////////////

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ พักฮเยมิน ชื่อเล่น โพนี่
อาชีพ/การทำงาน
- เมกอัปอาร์ติสท์ และบิวตี้บล็อกเกอร์
- มีรายการสอนแต่งหน้า Pony's beauty diary
- ที่ปรึกษาด้านความงามของเกาหลีใต้
- เป็นวิทยากรให้กับศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี และห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
รางวัล
- รางวัล Make up Artist ในปี 2011

ติดตามผลงานของเธอกันได้ที่ blog.naver.com/highkick_

cr.http://www.manager.co.th

onlyfans leaked xxx onlyfans leaked videos xnxx 2022 filme porno filme porno
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X