หนุ่มฆ่าชำแหละศพเพื่อนรับลงมือจริง อ้างหลอนคิดว่าตัวเองเป็นหมอ
2013-10-05 15:39:53
Advertisement
คลิก!!!

 


          หนุ่มฆ่าชำแหละศพเพื่อนสารภาพแล้ว ยอมรับฆ่าเพื่อนจริง เพราะหลอนคิดว่าตัวเองเป็นหมอ ด้านตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่ยังไม่คุมทำแผน เพราะผู้ต้องหายังมีอาการทางประสาท

          จากกรณีที่ นายไพศาล พาชื่นใจ วัย 41 ปี ถูกฆ่าตายอย่างสยดสยอง สภาพศีรษะถูกของมีคมฟันจนกะโหลกเปิดหายไปครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังถูกผ่าหน้าท้องยาวจากปากไปจนถึงอวัยวะเพศ อีกทั้งยังพบเครื่องในทั้งลิ้น ทั้งหัวใจ ซึ่งคนร้ายได้นำชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปทิ้งกระจายไว้รอบ ๆ บ้าน ทั้งในครัว เครื่องซักผ้า และถังขยะหน้าบ้าน โดยพี่ชายของผู้ตายคาดว่า คนร้ายที่ลงมือฆ่าน่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่มีอาการโรคจิต ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

          ความคืบหน้าเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 3 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัว นายเฉลิมพล หรือบรรจบ มะศรีผา อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตายได้แล้ว โดยนายเฉลิมพลถูกจับกุมตัวขณะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติ ที่บ้านหลุ่งจาน ต.วังไม้แดง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งห่างจากบ้านหลังที่เกิดเหตุ 35 กิโลเมตร 

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า นายเฉลิมพลมีอาการเหมือนเป็นคนโรคจิต ประสาทหลอน และพูดไม่รู้เรื่อง อีกทั้งยังบ่นพึมพำกับตัวเองว่ากำลังถูกตามฆ่า จากนั้นก็พยายามฆ่าตัวตายในห้องขัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเฝ้าดูพฤติกรรมของนายเฉลิมพลตลอดทั้งคืน

          ส่วนวันที่ 4 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเฉลิมพลมาสอบปากคำแล้ว แต่อยู่ในอาการพูดไม่รู้เรื่องและซึมเศร้า ซึ่งในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านหลังที่เกิดเหตุต่อไป 

          จากนั้นในช่วงบ่าย พ.ต.อ.สนอง บุญเกิด ผกก.สภ.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการสอบปากคำ นายเฉลิมพลได้อ้างว่าก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนผู้ตายไปกินเหล้าที่กระท่อม แต่เกิดมีปากเสียงกันเรื่องที่ดินของนายเฉลิมพล นายเฉลิมพลจึงหยิบขวานมาทุบหัวผู้ตายจนสลบ ก่อนจะมีอาการประสาทหลอนคิดว่าตัวเองเป็นแพทย์ จึงชำแหละศพผู้ตายแล้วหลบหนีไป

          ผกก.สภ.ประทาย ระบุด้วยว่า หลังจากนี้ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะเชื่อคำให้การของนายเฉลิมพลหรือไม่ โดยดูพยานหลักฐานอื่นประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะผู้ต้องหายังมีอาการทางประสาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน และสั่งให้ดูแลเป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันผู้ต้องหาคิดสั้น เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ

          ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า พี่สาวของนายเฉลิมพลนั้นไปทำงานที่ต่างประเทศ มีฐานะร่ำรวย จึงส่งเงินมาให้ครอบครัวซื้อที่ดิน และสร้างบ้านเป็นประจำ ส่วนนายเฉลิมพลเอง แม้จะมีอาการทางประสาท แต่ก็สามารถเล่นคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของศาลต่อไป


 

 
 
 
 
 
 
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X