อุเทน ชาติภิญโญ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านบริหารจัดการน้ำ โพสต์เฟซบุ๊ก แนะใช้คลองแสนแสบ-ประเวศน์บุรีรมย์ ระบายน้ำจาก จ.ปราจีนบุรี สู่อ่าวไทย ชี้เขื่อนจำเป็นแต่ไม่ควรสร้างที่แม่วงก์

          เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2556 นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Utain Shartpinyo" ซึ่งมีใจความระบุว่า

          "สำหรับน้ำท่วมที่ จ.ปราจีนบุรี ผมขอแนะวิธีแก้ปัญหา ด้วยการระบายผ่านจากแม่น้ำบางประกง เข้ามา กทม. ผ่านคลอง 2 คลอง คือ คลองแสนแสบและคลองประเวศน์บุรีรมย์ โดยเปิดประตูระบายน้ำที่ตั้งอยู่กลางคลองทั้งสองคือประตูระบายน้ำหนองจอกและประตูประเวศน์ 100% ที่จริงผมเคยเสนอให้ทุบทิ้งทั้งสองประตูเมื่อคราวน้ำท่วมปี 2554 แต่ไม่มีใครกล้าสั่ง ประตูทั้งสองนี้กลายเป็นบานกั้นน้ำ ทำให้น้ำไหลลงอุโมงค์สูบน้ำพระราม 9 เป็นไปได้ไม่ดี ช้ามาก เป็นเหตุให้น้ำไหลลงอุโมงค์ไม่ทันการสูบ ประตูทั้งสองนี้ในอดีตมีไว้เพื่อกั้นน้ำไม่ให้ไหลลงมาเข้า กทม. เมื่อมีน้ำหลากใน กทม. เช่นกันยามหน้าแล้งกรมชลประทานจะเปิดประตูเพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำบางประกงให้ไหลเข้า กทม.

          ดังนั้นขณะนี้ กทม. ได้ใช้งบสร้างประตูระบายน้ำเป็นอุโมงค์ยักษ์แล้วทำไมไม่กล้าใช้คลองแสนแสบ-ประเวศน์บุรีรมย์ช่วยระบายน้ำล่ะ ในเมื่อการระบายน้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีไปบางประกงเพื่อลงสู่อ่าวไทย สภาพกายภาพของเส้นทางน้ำตลอดแนวไม่ดี เล็ก และคดเคี้ยวมาก ไหลไม่สะดวก อีกทางหนึ่งคือใช้ประตูระบายน้ำบริเวณริมถนนสุขุมวิทสายเก่า ตั้งแต่บางตำหรุ บางปลา เจริญราษฎร์ ฯลฯ สามารถช่วยสูบน้ำระบายออกอ่าวไทยได้อีกทางหนึ่งครับ"

          ทั้งนี้ นายอุเทน ยังได้ออกมาระบุต่ออีกว่า "จะขอยืนยันอีกครั้งนะว่าตนไม่ใช่คนประเภทค้านหรือเห็นต่างกับรัฐบาลไปเสียทุกเรื่อง และก็ยืนยันอีกครั้งแหละว่าผมเห็นด้วยกับการแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมของรัฐบาล ที่ต้องเร่งรีบทำเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างถาวร แต่ไม่ใช่การแก้แบบที่รัฐบาลทำอยู่ในเวลานี้ ซึ่งเคยบอกแล้วว่าเป็นการกระทำของคนที่ไม่รู้ เป็นการกระทำแบบตาบอดคลำช้าง จนถึงการใช้งบที่มากมายเกินความจำเป็น ด้วยการเขียนข้อกำหนดของงานอันประหลาด จึงเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แล้วประชาชนได้อะไร ถ้าไม่ใช่แค่เสียงบโดยไม่ได้ประโยชน์ที่ควรแก่การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หากรัฐบาลกล้าถอย กล้าแก้ TOR กล้าเปลี่ยนวิธี และรับฟังทุกฝ่ายมากกว่านี้ เชื่อว่าความนิยมจะกลับคืนมา

          ขอจงกล้ารับผิดชอบในแต่ละโครงการ ในแต่ละนโยบาย เช่น A1. เรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำ ก็บอกตรง ๆ ว่าสร้างเขื่อน และผมขอยืนยันอีกว่าประเทศไทยยังจำเป็นต้องสร้างเขื่อน และต้องเป็นเขื่อนที่พร้อมผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย แต่ต้องดูดี ๆ ว่า ต้องสร้างที่ใด ที่จะเกิดปัญหาผลกระทบน้อยที่สุดกับสาธารณะสมบัติและสังคม ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่จะสร้างที่แม่วงก์ ควรย้ายจุดหรือเปลี่ยนวิธีเก็บกักชะลอน้ำน่าจะดีกว่า"