“ฟองเบียร์” ตายรัง กลับมาทำงานกับแกรมมี่เหมือนเดิมแล้ว
2013-09-30 21:53:55
Advertisement
คลิก!!!

“ฟองเบียร์” ตายรัง กลับมาทำงานกับแกรมมี่เหมือนเดิมแล้ว แถมเอาใจสุดฤทธิ์ให้รับงานต่างค่ายได้ เผยเหตุที่ตอนแรกลาออกเพราะอยากจะกลับไปเรียนหนังสือให้จบ จึงรู้สึกไม่แฟร์ที่แกรมมี่ยังให้เงินเดือนอยู่ โวหลังประกาศลาออกมีหลายค่ายยื่นข้อเสนอดีๆ มาให้จนเลือกไม่ถูกต้องเช็กดวงกับ “หมอช้าง” หมอดูชื่อดัง
       
       เล่นเอาช็อกวงการเพลงไปพักใหญ่ หลังจากมีข่าวว่านักแต่งเพลงชื่อดัง “ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม” หรือ “ฟองเบียร์” ยื่นใบลาออกจากแกรมมี่ แต่ในเวลาไม่นานสุดท้ายเจ้าตัวก็ตัดสินใจที่จะกลับมาทำงานที่แกรมมี่อีกครั้ง โดยหนุ่มฟองเบียร์ได้เผยถึงการตัดสินใจว่าการลาออกครั้งนั้นเพราะตนอยากจะกลับไปเรียนปริญญาตรีให้จบ ซึ่งตนไม่อยากเอาเปรียบแกรมมี่
       
       “ตอนนี้ก็อยู่ที่แกรมมี่ครับ ตอนที่เราเซ็นใบลาออกก็เรียนผู้ใหญ่ว่าเราจะออกไปเรียนหนังสือ ด้วยตอนนี้เราเรียนหนังสือด้วยที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม แล้วมหาวิทยาลัยก็ติดต่อบอกว่าถ้ามีเวลาว่างให้ช่วยเป็นอาจารย์บรรยาย ด้วยความที่เราเรียนไม่จบมา เราก็อยากจะเรียนให้จบปริญญาตรีเพื่อพ่อของเรา ในเมื่อตอนนี้พ่อเราตายไปแล้ว แล้วเรายังไม่ได้ทำอะไรให้เขา ตอนนี้เรารู้สึกว่าเราพร้อมเรียนแล้วก็เลยกลับไปเรียน แล้วเราก็มีสังคมเพื่อน เราก็อยากจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับเพื่อนของเราบ้าง เรารู้สึกว่ามันเหมือนมีกำแพงในเรื่องของค่ายกับเพื่อนๆ เราอยากจะทำอะไรที่อยากจะทำ”
       
       “พอทีนี้ทุกอย่างเราอยากจะทำพร้อมกัน แล้วเราอยู่นี่เราอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร เรารับเงินเดือนสูง เรารับเงินเดือนเต็มๆ แต่จริงๆ แล้วเราเอาเวลาไปทุ่มอย่างอื่น เราก็รู้สึกเกรงใจ มันไม่แฟร์กับบริษัทก็เลยอยากจะออก ผู้ใหญ่เขาก็บอกว่าเอาอย่างนี้แล้วกันถ้าคิดว่ามีความผูกพันกับแกรมมี่มากก็ให้กลับไปคิดใหม่ เพราะเราอยู่กันมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว ถ้ายังมีคะแนนเรื่องของความผูกพัน พี่ถือว่าให้เราหยุดพักร้อน ให้เราไปทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ เราสบายใจเมื่อไหร่ก็ให้กลับมา ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาในการพักร้อนของผม ตอนนี้ก็ยังรับเงินเดือนของแกรมมี่อยู่ พี่เขาบอกว่าถือว่าเป็นเงินเดือนที่เอาไว้ให้เอ็งรีแลกซ์สมอง (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ ก็งานเยอะกว่าตอนที่ไม่พักอีก ตอนนั้นยอมรับว่าเราไม่ไหวกับหลายๆ สิ่งที่เราอยากจะทำ”
       
       เผยตอนนี้แกรมมี่ให้สิทธิ์สามารถไปร่วมงานกับเพื่อนต่างค่ายได้ โวหลังจากประกาศลาออกมีหลายค่ายทาบทามเยอะแต่สุดท้ายก็กลับมาเลือกแกรมมี่
       “เราก็เคลียร์กันเรื่องทำงานนอกค่าย เรามีน้ำใจกับเพื่อนเรา มันไม่น่าจะถูกจำกัดด้วยคำว่าจีเอ็มเอ็มแกรมมี่รึเปล่า เขาก็โอเคแล้ว แต่เราบอกว่าให้มันอยู่ในระดับที่พอดี ไม่ถึงขนาดไม่ได้เลย ออกหน้าบ้างก็ได้ถ้ามันไม่กระทบกระเทือนอะไรกับแกรมมี่มาก เราเองก็ต้องรู้จักพอดี ต้องรักษามารยาทในการทำธุรกิจด้วย”
       
       “ซึ่งตอนที่ทุกคนรู้ว่าเรายื่นใบลาออก ก็มีหลายค่ายเข้ามาติดต่อ เราก็ยอมรับว่าเราคิดนะ บางคนก็มีข้อเสนอที่น่าสนใจแต่สุดท้ายเราก็กลับมายึดคำพูดของพี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง ว่าถ้าความผูกพันสิบกว่าปีมันมีแต้มก็ทำให้เราอยู่กันได้ต่อแล้วกัน มันเป็นเหมือนสัญญาใจมากกว่า มันเป็นเรื่องของความรู้สึกดีๆ เงินเดือนมันจะเท่าไหร่ก็ตามมันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่ทำให้ผมยังอยู่แกรมมี่ แต่ที่ผ่านมาแกรมที่ให้อะไรผมมากกว่า นี่คือเรื่องสำคัญ แกรมมี่ทำให้ผมมีบ้าน มีที่อยู่อาศัย มีรถขับ มีชื่อเสียงจนผมมีอย่างทุกวันนี้”
       
       “มันเป็นเรื่องที่ตลกมากเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมายื่นข้อเสนอเยอะขนาดนี้ ถึงขั้นผมต้องไปนั่งคุยกับหมอช้าง (ทศพร ศรีตุลา) เลย ให้พี่นกน้อย ผู้จัดการพี่เบิร์ดเป็นคนติดต่อให้ หมอช้างบอกอย่างเพิ่งย้าย ถ้าย้ายให้ย้ายเมษายนปีหน้า แต่ตอนนี้ก็ขำๆ แล้ว เพราะในใจลึกๆ ใจเราคือแกรมมี่ เรามีความฝันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายว่าชีวิตนี้เราอยากจะอยู่ที่แกรมมี่ มันก็เลยรู้สึกมีความผูกพันกัน ผู้ใหญ่ก็ยังพูดเลยว่าถ้าย้ายไปแล้ว มันดีกว่าที่แกรมมี่ให้ได้ก็ไปเถอะ ทำไมพี่จะไม่ให้น้องไปเจริญเติบโต ซึ่งเรากลับมาคิดได้เองว่า ถึงเราจะได้เงินเพิ่มขึ้น มันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรอก แต่เราอยู่ตรงนี้เราไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่แล้ว ที่นี่ก็ให้ความสะดวกสบายกับเราทุกอย่าง”
       
       ฟุ้งตอนนี้มีแต่ผู้จัดละครแย่งคิวให้แต่งเพลงประกอบละครให้ บอกปีนี้แต่งเพลงประกอบละครไป 9 เรื่องแล้ว
       “อย่างตอนนี้ผมพักร้อนผมก็ยังต้องทำงานอยู่ดี ด้วยเพราะผู้จัดละครทุกคนเขาก็รีเควสอยากร่วมงานกับเรา ตอนนี้มีอยู่ 7 เรื่อง เรียกว่าเหนื่อยกว่าเดิมอีกครับ รู้อย่างนี้ไม่น่าลาออกเลย ตอนนี้มีงานเพลงประกอบละครเยอะมาก ก็จัดคิวค่อนข้างยาก เพราะถ้าคนไหนไม่ได้ก็จะงอนกัน ปีนี้ก็เรียกว่าแค่คิวเพลงประกอบละครก็แน่นแล้ว ปาเข้าไป 9 เรื่อง”
       
       “ตอนบอกเลยว่าผู้จัดละครเป็นอาจารย์ที่ดีของผมมาก โดยเฉพาะพี่ดา (หทัยรัตน์ อมตวณิชย์) เวลาที่แกคอมเมนต์เพลงพี่ดาจะสอนวิธีคิดการเขียนเพลงให้ตรงกับคาแรกเตอร์ตัวละคร ซึ่งผมไม่เคยได้รับการสอนแบบนี้จากแกรมมี่ พอเราแต่งงานไปพี่ดาแก้แล้วแกก็จะสอนเราไปด้วย แล้วเรารู้สึกวิธีคิดของพี่ดาที่พี่ดาสอนเราทำให้เราผลิตงานได้เยอะขึ้น เหมือนว่าพี่ดาให้สูตรสำเร็จไว้แล้ว เลยรู้สึกชื่นชมพี่เขามาก ศิลปินเขาก็แฮปปี้ที่จะร้องให้เรา เพราะร้องเพลงประกอบละครเดี๋ยวนี้มันดัง”

 

http://www.manager.co.th

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X