เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram namwanp, kankantathavorn

พ่อไฮโซน้ำหวาน ร่อนเอกสารชี้แจง ปัดขู่ฆ่า กันต์ กันตถาวร และหุ้นส่วน แฉคลินิกยังไม่ได้ใบอนุญาต เผยอาจจะเป็นการตลาดแบบประหยัด

จากกรณีที่นักแสดงหนุ่ม กันต์ กันตถาวร พร้อมหุ้นส่วนคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ถูกคุณพ่อของไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น โทรขู่ฆ่า เนื่องจากแบ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจในคลินิกความงามไม่ลงตัวกัน พร้อมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนให้ทราบ เมื่อวานนี้ (2 กันยายน 2556)

อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนั้น เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแฟกซ์เอกสารชี้แจงจาก ดร.วรชาติ เพชรนันทวงศ์ คุณพ่อของไฮโซน้ำหวาน ที่ถูกดาราหนุ่มและเพื่อนหุ้นส่วนแจ้งความว่าขู่ฆ่า โดยในเอกสารดังกล่าวระบุว่า นายวรชาติ เป็นบิดาของน้ำหวานจริง และน้ำหวานก็ได้ตกลงร่วมธุรกิจความงาม Skin Buffet โดยชำระเงินค่าหุ้นไป 3 ล้านบาท ให้กับนายเจษฎา นิรมิตวิจิตร หรือ จอร์จ ซึ่งทางนั้นได้โอนหุ้นมาให้ 30% ต่อมาก็ทราบว่าคลินิกดังกล่าวยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ ด้านน้ำหวาน และนายตุลย์ กุลวานิช ผู้ถือหุ้นอีกคน ก็ไม่เห็นด้วยที่ต้องเปิดกิจการทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ใบอนุญาต โดยเกรงว่าจะเสียชื่อเสียง และเมื่อขอตรวจสอบการจัดซื้อก็ไม่ได้รับความร่วมมือที่ดี จึงทำให้สงสัยว่าการจัดซื้อเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่

หลังจากนั้นในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางหุ้นส่วนได้ให้น้ำหวานร่วมแถลงข่าว เพื่อประโยชน์การประชาสัมพันธ์บริษัท ซึ่งขณะนั้นน้ำหวานยังไม่พร้อม จึงทำให้ในการแถลงข่าวเปิดตัวครั้งแรกน้ำหวานได้รับความกดดันเป็นอย่างมาก ต่อมาน้ำหวานก็อยากจะขอยุติข้อขัดแย้งทั้งในเรื่องของการถือหุ้น และการเปิดคลินิกทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต น้ำหวานกับนายตุลย์จึงขอลาออกจากการเป็นกรรมการ โดยเซ็นใบลาออกและขอถอนหุ้นคืนแล้ว ซึ่งนายเจษฎารับปากว่าจะคืนเงินให้ แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปประมาณเดือนเศษ น้ำหวานกับนายตุลย์กลับยังไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด

สำหรับกรณีที่มีข่าวว่า ดาราหนุ่ม กันต์ กันตถาวร พร้อมบรรดาหุ้นส่วนเข้าแจ้งความ โดยอ้างว่านายวรชาติขู่ฆ่านั้น เอกสารชี้แจงระบุว่า นายวรชาติไม่รู้จักดาราหนุ่ม ไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้จักอาชีพ และไม่เคยพบหรือพูดคุยด้วยแม้แต่ครั้งเดียว จึงไม่สามารถข่มขู่ได้ นายวรชาติจึงคิดว่า การแถลงข่าวของบรรดาหุ้นส่วนคงจะเป็นการวางแผนโฆษณาใช้สื่อแบบประหยัดมากกว่า

นอกจากนี้ เอกสารยังระบุอีกว่า เงินลงทุนของน้ำหวานเป็นเงินเพียงเล็กน้อย จึงไม่จำเป็นที่จะต้องขู่ผู้ใด ถ้าคนที่จะลงมือทำจริง ๆ คงไม่ขู่ให้ระวังตัวอย่างแน่นอน และอยากจะชี้แจงสื่อให้ทราบเพื่อขอรับความยุติธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย