ดีเจคลื่นเพลงลูกทุ่ง “เก๋ ผกามาศ” โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเล่าละเอียดยิบเหตุการณ์ตีกันกลางคอนเสิร์ต “แสงแห่งหวัง” ทั้งเสียงปืน เสียงระเบิด และแก๊งมอเตอร์ไซค์ เจ้าตัวผิดหวังบทบาทเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
       
        เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าไปอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์ความวุ่นวายในคอนเสิร์ตการกุศล “แสงแห่งหวัง LIGHT OF HOPE SEK - BAO CHARITY CONCERT” โดย 2 ศิลปิน “เสก โลโซ” และ “คาราบาว” เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ณ สนามกีฬาการท่าเรือแห่งประเทศไทย สำหรับ “เก๋ ผกามาศ วังบุญ” ดีเจหญิงชื่อดังจากคลื่นเพลงลูกทุ่งมหานคร เอฟเอ็ม 95.0 mhz
       
        ทั้งนี้ เจ้าตัวได้เล่าบรรยายภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่เกิดการทะเลาะวิวาทกันของเหล่าวัยรุ่นที่เข้าไปชมคอนเสิร์ตดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กตนเอง (http://www.facebook.com/pakamas.wangboon) ชนิดนาทีต่อนาที ว่า เป็นเหตุการณ์ที่ระทึกขวัญมาก มีเสียงปืน เสียงระเบิดปิงปอง ดังขึ้นเป็นระยะๆ รวมไปถึงพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์ พร้อมกับยังบอกด้วยว่ารู้สึกเข็ดมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่ระบุว่า เป็นคอนเสิร์ตการกุศล
       
        ...ขอบคุณมากๆ อีกครั้งนะคะทุกท่าน ประสบการณ์ครั้งสุดท้ายของคอนเสิร์ตเพื่อชีวิตกลางแจ้ง .. ไม่เอาอีกแล้ว ไม่ได้โทษแนวเพลง หรือศิลปิน .. แต่ไม่ไว้ใจระบบรักษาความปลอดภัยและพฤติกรรมคนที่มาดูบางกลุ่ม .. นี่ขนาดบัตรสตาร์ทราคาที่ 500 และระบุว่า เป็น “คอนเสิร์ตการกุศล” นะ .. อึนกับสิ่งที่เจอมามากตอนนี้...
       
        นอกจากการบรรยายถึงภาพเหตุการณ์ต่างๆ แล้ว เจ้าตัวยังได้โพสต์ต่อว่าไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในงานดังกล่าวด้วยว่า ทำให้รู้สึกผิดหวังมาก เพราะไม่สามารถที่จะควบคุมความสงบของงานได้ทั้งๆ ที่น่าจะรู้อยู่ว่ามีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ้น แถมยังมีเจ้าหน้าที่หลายๆ นายก็ทำราวเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่อย่างใด
       
        ...เหตุการณ์ครั้งนี้บอกเราว่า “สติ” คือ สิ่งที่ช่วยเราให้ผ่านพ้นวิกฤตได้ดีที่สุด .. และค่อนข้างสงสัยในบทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ ทั้งในแง่การจัดการสถานการณ์วันนี้ที่ปล่อยให้เด็กเกรียนๆ ทำตัวอันธพาลท้าทายพลังอำนาจได้อย่างไม่กลัวฟ้าดินโดยที่ตำรวจใจเย็นมาก..ถ้ามีเหตุผลรองรับก็ยินดีฟังแต่คืออยู่ในเหตุการณ์แล้วเห็นแบบนี้มันผิดหวัง
       
        .. และน้ำใจที่เราเดินไปขอความช่วยเหลือแล้วได้รับ 1.การเมินเฉย 2.การปฏิเสธ เพราะตลอดเวลาที่เราหลบอยู่ ตำรวจก็เห็น เพราะหลายคนที่อยู่กับเราก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งอยู่กับที่และหลบ ไม่เดินมาดู มาถาม นั่งคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราอยากรู้อะไรต้องขับรถเสี่ยงตายไปถาม ตอนเดินไปขอรถตำรวจไปส่งตามคำแนะนำทีมงานคอนเสิร์ต เขามองเรามึนๆ เหมือนว่าอย่าเพิ่งมายุ่งกะฉัน แต่ไม่ว่ากัน แต่บริเวณนั้นเห็นมีตำรวจนั่งยองๆ คุยกันว่างๆ เต็มเลย
       
        น่าจะแสดงน้ำใจว่าจะเดินไปส่งเพื่อคุ้มกันสักนายสองนาย แค่ตรงนั้นไปลานจอดรถไม่ถึง 300 เมตร มีตำรวจคนนึงพูดกับเราว่า “เดินไปเลยไม่มีอะไรหรอก” เราถามว่า “คุณตำรวจไปส่งหน่อยได้ไหมคะ” เขาตอบว่า “เดินไปเลย มีผู้หญิงมันไม่ทำอะไรหรอก” !!!!
       
        ...ถึงเราจะเป็นแค่สี่คนธรรมดาๆ ไม่ใช่ลูกคนใหญ่คนโตมาจากไหนที่ต้องแห่กำลังคุ้มกันจนเวอร์ แต่เราก็ต้องการความรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจจากตำรวจไทยในยามวิกฤตและทั้งสี่คนก็มีชีวิตและครอบครัวต้องดูแลไม่ต่างจากบุคคลระดับวีไอพีเหล่านั้นนะคะ.. อันนี้แอบน้อยใจ
       
        ซึ่งนอกจากการระบายความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กแล้ว มีรายงานว่า ทางฟากดีเจคนดังยังได้นำพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในงานคอนเสิร์ตมาเล่าแฉผ่านในรายการวิทยุที่ตนเองจัดในวันถัดมาอีกด้วย โดยบอกว่า ตนยังคงเป็นกำลังใจให้กับตำรวจส่วนใหญ่ที่ตั้งใจทำหน้าที่ของตนเอง แต่ทว่าสำหรับตำรวจบางคนที่ตนเจอมากับตัวนั้น ตนรับไม่ได้เป็นอย่างมาก

http://www.manager.co.th