|
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม
ยายอ้อย วอน โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม มาขอขมา บอกไม่อยากให้บาปติดตัว ปัดบังคับลูกสะใภ้ทำแท้ง ด้านตลกดังเตรียมแถลงข่าวพรุ่งนี้
จากกรณีที่ นางนัฐกนก วันเพ็ญ หรือ ยายอ้อย อายุ 70 ปี ออกมาร้องไห้แจ้งต่อสื่อว่าถูก นายพงษ์ศักดิ์ โสภักดี หรือ "โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม" ตลกชื่อดัง ลูกชายแท้ ๆ และนางสมญา อยู่พ่วง ลูกสะใภ้ ไล่ออกจากบ้าน จนต้องไปอาศัยนอนวัดพระยาสุเรนทร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา ขณะที่ตลกชื่อดังตอนแรกก็ปฏิเสธ กล่าวเพียงว่ายายอ้อยเป็นคนที่พ่อแม่ฝากให้เลี้ยงดูในวัยเด็กเท่านั้น แต่ ล่าสุดโป๊งเหน่งก็ออกมายอมรับว่า ยายอ้อยเป็นแม่ที่แท้จริง ส่วนด้านนางสมญา ลูกสะใภ้ ก็ออกมาเปิดใจว่า เคยถูกยายอ้อยบังคับพาให้ทำแท้งถึง 2 ครั้ง และเมื่อท้องลูกคนที่ 3 เธอก็ถูกทำร้ายและถูกไล่ออกจากบ้าน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว วานนี้ (12 พฤศจิกายน) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม ยายอ้อย ที่วัดพระยาสุเรนทร์ โดยยายอ้อย กล่าวว่า หากลูกชายยังเห็นว่าแม่เป็นแม่ ก็ให้มาขอขมาที่วัดแล้วตนจะให้อภัย แต่หากจะมารับตนกลับไปอยู่ด้วย ตนไม่ขอไป เพราะตนไม่อยากให้ลูกชายกับภรรยามาทะเลาะกันเพราะตน ซึ่งตนก็ ขอเพียงแต่ให้ลูกชายหาบ้านเช่าให้สักหลัง และให้เงินเดือนใช้พอประทังชีวิตก็พอแล้ว ส่วนกรณีที่สังคมวิจารณ์ลูกชายในด้านลบนั้น ตนรู้สึกเฉย ๆ ไม่ดีใจหรือเสียใจอะไร
ส่วนประเด็นเรื่องที่ลูกสะใภ้ออกมาให้ข่าวว่าถูกบังคับพาไปทำแท้งถึง 2 ครั้งนั้น ยายอ้อยกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกสะใภ้เคยทำแท้ง มารู้ที่หลังตอนที่ลูกชายกับลูกสะใภ้ทะเลาะกัน
ยายอ้อย กล่าวต่อว่า เมื่อก่อนตนมีอาชีพเขายของชำและอาหารตามสั่ง ทำงานด้วยลำแข้งมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้ขัดสน มีเงินเก็บจนสามารถซื้อห้องแถวอยู่ 3 หลัง ต่อมาลูกชายอยากได้รถก็เลยขายห้องแถวไป 1 ห้อง ห้องละ 1.3 ล้านบาท แต่ก็ต้องขายตึกแถวไปอีกห้อง เนื่องจากลูกชายผ่อนรถไม่ทันจึงเป็นหนี้ จากนั้นสุดท้ายก็ต้องขายห้องที่ 3 ตามไป โดยได้เงินไม่ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งสมบัติที่ขายไปทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะเอามาใช้หนี้ให้ลูกชาย ส่วนกิจการค้าขายก็เริ่มซบเซา เงินที่เริ่มเคยมีก็หมดไป ประกอบกับตนเป็นโรคเบาหวานเลยต้องไปหาหมอ พอไม่มีเงินก็เลยขอมาอยู่กับลูก แต่ก็ถูกลูกสะใภ้ด่าทุกวัน และบังคับให้ลูกชายไม่ให้เรียกตนว่าแม่ จากนั้นก็ไล่ตนออกจากบ้านไป จนตนต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน อาศัยอยู่บ้านเพื่อน และตามบ้านสงเคราะห์ถึง 5 ที่
แม่ของตลกชื่อดัง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยทำลายเขา และตนก็ย้ายมาอยู่วัดนี้ตั้งแต่หลังน้ำท่วม ใครหลายคนอาจจะมองว่าตนโกหก ซึ่งตนพูดความจริงทุกอย่าง และไม่รู้ว่าจะโกหกไปเพื่ออะไร ตนเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้าพ่อเขาไม่ตายก็คงไม่ลำบากขนาดนี้ ตนเคยคุกเข่าร้องขอทั้งสองคนเลยว่าอย่าไล่ตนออกจากบ้าน ตนแก่แล้ว แต่เขาก็หัวเราะ พร้อมลุกหนีไป ทุกวันนี้ตนป่วยเป็นเบาหวาน และความดัน ตนต้องขอเงินหลวงพ่อไปหาหมอ ส่วนเงินที่ใช้จ่ายประจำวัน ตนได้จากเงินที่รัฐบาลให้คนชรา อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ลูกมาขอขมาเพราะไม่อยากให้ลูกมีบาปติดตัว
ขณะที่ ตลกชื่อดัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. จะแถลงข่าว ที่สตูดิโอกรุงเทพ ย่านแจ้งวัฒนะ ซึ่งตนจะชี้แจงทุกกรณี ไม่ ว่าจะเป็นเรื่องเขาเป็นแม่ที่แท้จริงหรือไม่ หรือสาเหตุที่ตนปล่อยเขาไปอยู่วัด รวมถึงการเลี้ยงดูทุก ๆ อย่าง เพราะว่าตอนนี้สังคมมองตนว่าเป็นคนไม่ดีแล้ว ตนก็เลยอยากจะพูดทุกอย่างในวันนั้นให้จบทีเดียวเลย
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม