“เอ อัญชลี” ได้ฤกษ์แต่งกลางปีหน้า อยากจัดเรียบง่ายเพราะอายุเยอะและมีลูกแล้ว เผยว่าที่เจ้าบ่าวเป็นผู้ชายธรรมดามากๆ รับมีคนทัดทานเยอะว่าเร็วไป แต่ตนโตแล้ว อีกทั้งฝ่ายชายทำให้ “เอวี่” มีความสุข คุยกันรู้เรื่อง และไม่สนอดีต จึงไม่อยากรออีกต่อไป 
       
       มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าคุณแม่ลูกหนึ่ง “เอ อัญชลี หัสดีวิจิตร” กำลังจะแต่งงานกับรุ่นพี่นอกวงการชื่อ “มด” ล่าสุด สาวเอก็ออกมาคอนเฟิร์มชัดๆ ในวันแสดงแฟชั่นโชว์ของเด็กนักเรียนที่จบการเรียนจากสถาบัน Fever runway ซึ่งเป็นสถาบันสอนเดินแบบของเจ้าตัวกับน้องสาว “โย ยศวดี” ที่จัดขึ้น ณ ลาน sky dinning hall Siam discovery ชั้น6 โดยยืนยันว่าฤกษ์แต่งจะเป็นกลางปีหน้านี้ ตั้งใจอยากจัดงานให้เรียบง่ายที่สุดเพราะมีลูกแล้ว ก่อนจะเผยถึงจุดเริ่มต้นความรักให้ฟังว่า…
       
       “จริงๆ เป็นความผิดพลาดของเอเองที่โพสต์เรื่องส่วนตัวมากเกินไปในอินสตาแกรม ก็โอเคค่ะ ไม่ปฏิเสธ เอาเป็นว่ามันเป็นแพลนที่เอแพลนเอาไว้ที่มันจะเกิดขึ้นในปีหน้า แต่จริงๆ ก็อยากจะทำอะไรให้เล็กๆ ไม่ให้มันเอิกเกริกฟู่ฟ่าเพราะหนึ่งเอก็มีอายุแล้ว และมีน้องแล้วค่ะ ก็เลยอยากทำอะไรให้ถูกต้องเรียบง่ายที่สุดค่ะ”
       
       “ว่าที่เจ้าบ่าว ก็อย่างที่ในข่าวนะคะ เขาไม่ใช่ช่างภาพของไฟว์สตาร์ เขาเป็นผู้กำกับทางภาพค่ะ ทำงานด้านโฆษณา จริงๆ เขาเป็นรุ่นพี่ที่ ม.รังสิต เจอกันตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้คุยกัน มาเจอกันอีกทีก็ตอนทำงาน แล้วบริษัทเขาทำรายการให้แก่น้องโย ก็เลยรู้จักกัน ก็มีความสัมพันธ์ที่ดี และพัฒนามาเรื่อยๆ ค่ะ”
       
       “คบกันก็ปีนึงค่ะ จริงๆ แล้วบอกตรงๆ ว่าที่คบกันมันไม่ได้คบกันแบบเป็นแฟนกันนะ เหมือนเราเริ่มเป็นเพื่อนกัน เวลาไปเที่ยวไหนก็ไปเป็นกลุ่ม แล้วครอบครัวเขาก็จะมีพี่น้องที่มีลูกเหมือนกัน เวลาเราไปก็อาศัยว่าเอาลูกหลานไปเที่ยวด้วยกัน มันก็เลยเกิดการพัฒนาขึ้น ก็เข้ากันได้ดีค่ะ”
       
       “ถามว่าชอบพี่เขาตรงไหน จริงๆ เขาเป็นผู้ชายธรรมดามากๆ ที่ขยันทำงาน แล้วพอวันนึงแล้วเขาก็มาเจอเรา เขาก็เข้ากับครอบครัวเราได้ และเอ็นดูน้องเอวี่ แล้วเขาไม่อยากที่จะล้ำเส้นความเป็นเพื่อน จนวันนึงที่เขารู้สึกว่ามันจะล้ำเส้น เขาเลยอยากจะทำให้ถูกต้อง เราไม่อยากจะใช้ชีวิตเหมือนเด็กสมัยก่อน ที่มีแฟนแล้วคบกันไปเดี๋ยวก็เลิกน่ะค่ะ”
       
       “ฤกษ์แต่งจริงๆ มีเอาไว้เหมือนกัน แต่พอคุณยายเพิ่งเสียเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็เลยอาจจะต้องรอให้ผ่านช่วงเศร้าๆ นี้ไปค่ะ แต่ก็คงจะเป็นปีหน้า น่าจะกลางปีค่ะ ของเอก็คงจะทำแบบง่ายๆ จริงๆ ธีมงานคงไม่มี เป็นอะไรที่ง่ายมากๆ ตอนแรกว่าจะแต่งเดือนมกราฯ แต่พอมีเรื่องคุณยายมาเลยต้องเลื่อนไปนิดนึง ส่วนจะจัดที่ไหนก็ยังไม่ได้มองเลยจริงๆ เพราะคงต้องแต่งในโบสถ์อยู่แล้วค่ะ รอให้ชัดเจนแล้วเดี๋ยวบอกทีเดียวค่ะ”
       
       ลั่นฝ่ายชายไม่สนใจข่าวคราวที่ผ่านมาของตน สำคัญไปกว่านั้นยังทำให้มั่นใจว่าไปด้วยกันได้
       
       “เอ่อ...ถ้าเขาคิดมาก เอก็คงไม่มาถึงขนาดนี้หรอกค่ะ วันนึงถ้าเราเจอคนที่เขาไม่มองเราในเรื่องอดีต ไม่ใช่เขายอมรับเราได้หรืออะไร แต่เขาคิดว่าอดีตคืออดีต เราอยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แล้วเราช่วยกันมองเรื่องอนาคตที่จะไปกันด้วยดี เราทำอะไรแบบเรียบๆ ง่ายๆ ดีกว่าค่ะ ก็ยอมรับว่าเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนนึง แต่เขาสามารถทำให้เรารู้สึกมั่นใจว่าอนาคตมันจะไปด้วยกันได้”
       
       เล่าถึงวินาทีฝ่ายชายขอแต่งงาน
       
       “ก็มีอยู่วันนึงเขาก็พูดว่าแต่งงานกันเถอะ ก็ประมาณเดือนนึง คือจริงๆ ชอบพูดเล่นกันมาตลอด เอก็บอกว่าเอมีแฟนไม่ได้หรอก ถ้าจะมีก็ต้องแต่งงาน เพราะเอนับถือคริสเตียนค่ะ เขาก็เหรอๆ งั้นแต่งงานกันไหมล่ะ ก็พูดเล่นมาตลอด จนวันนึงเขาก็บอกว่าแต่งงานกับพี่เถอะ เขาไม่ใช่คนหวาน เป็นคนค่อนข้างลุยมาก จะไม่ค่อยมีอารมณ์หวาน”
       
       “ถามว่าเร็วเกินไปไหมที่จะแต่งงาน สำหรับเอ ทุกคนก็บอกว่าเร็วไป ทำไมไม่รอ แต่เอก็...ไม่รู้สิ เอว่าเอโตแล้ว เขาก็โตแล้ว ก็คิดว่าคนเราถ้ามันรู้สึกว่าเราคุยกันรู้เรื่อง เราไม่อยากจะมานั่งรอเวลา และอีกอย่างนึงเราไม่ได้คิดแค่ถึงตัวเรา เราคิดถึงลูกด้วย เราอยากให้ลูกมีความสุข มีความรัก”
       
       “จริงๆ เอวี่ก็ได้ความรักเต็มที่อยู่แล้ว แต่พอมีพี่มดมาเนี่ยเอวี่ก็ดูร่าเริงขึ้น เขาก็มีความสุขขึ้น เวลาเอมีปัญหาอย่างน้อยก็มีคนคอยปรึกษาค่ะ จริงๆ ไม่อยากจะใช้คำว่าเติมเต็ม เพราะเอก็ไม่มีอะไรขาดหาย เอาเป็นว่าเขามาทำอะไรให้ทุกอย่างมันดูสมบูรณ์ขึ้น เขาเป็นคนไม่ค่อยชอบออกสื่อค่ะ อย่าให้เขาออกเลย ออกมาก็โก๊ะๆ กังๆ ค่ะ (ยิ้ม)”
       
       แจงเรื่องคดีตรวจดีเอ็นเอแฟนหนุ่มไม่ยุ่ง แต่อยากให้จบซะที
       
       “คือจริงๆ แล้วพี่เขาไม่มีส่วนเรื่องคดีเลย เขาจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้เลย ถ้าจะให้เขายุ่ง เขาก็อยากให้จบ แต่เรื่องคดีเอทำมาก่อนที่จะมาเจอเขาอีก คือเรื่องรับรองบุตรเอไม่เรียกร้องตั้งแต่ตอนท้ายๆ แล้ว แค่อยากให้มาตรวจดีเอ็นเอ ให้รู้ว่าเป็นลูกของเราทั้งสองคนจริงๆ แค่นั้นก็จบ ถ้าเขาไม่อยากรับรองบุตร ไม่อยากอะไรทั้งสิ้น เอไม่ต้องการอะไรแล้ว ทุกวันนี้เขาก็ยังไม่ได้มาตรวจให้เรียบร้อยเลย”
       
       “สำหรับเอ เออยากทำเพื่อลูกจริงๆ นะ แต่เอก็ต้องปรึกษาทนายด้วย เพราะมันยืดเยื้อมาเป็นปีแล้ว และเอวี่โตขึ้นทุกวันๆ ก็อยากให้เขามาตรวจค่ะ ศาลก็ออกคำสั่งมาแล้วนะคะ ออกหมายเรียกแล้วเขาก็ยังไม่มา เขาอยู่ต่างจังหวัดค่ะ แล้วรู้สึกว่าฝั่งโน้นเขาเปลี่ยนทนายด้วยค่ะ ก็ต้องเริ่มใหม่ทุกอย่าง”
       
       เผยได้คุยกับว่าที่เจ้าบ่าวแล้วเรื่องเป็นพ่อน้องเอวี่ ซึ่งฝ่ายชายยินดี
       
       “เรื่องนี้เราก็คุยกันแล้วค่ะ แต่เดี๋ยวขอคุยกันอีกทีนึง เขาไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เขายินดี แต่สำหรับเอเอง เองอยากให้อะไรมันถูกต้องมากที่สุด เอก็ต้องไตร่ตรองอีกทีนึง เอวี่เขาก็เรียกอามดบ้าง พี่มดบ้าง เรียกหลายอย่างค่ะ เรื่องมีน้องให้เอวี่บอกตรงๆ ว่าอยากจะทำงานให้มันดีที่สุดค่ะ ความรักที่เรามีให้เอวี่ พี่มดก็รักเอวี่ พี่มดก็บอกว่าเขาไม่รีบร้อน เราอยากจะดูแลเอวี่ให้ดีที่สุดก่อนค่ะ วันนั้นถ้าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยมี”

http://www.manager.co.th