“โดนัท” ปลื้มเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊คหลังทำมา 7 ปี รับสั่งห้าม “อนันดา” ไม่ให้มาแสดงความยินดีวันแถลงข่าว หวั่นขโมยซีนจนนักข่าวไม่สนใจหนังสือ โอดตำรวจยังโจรทุบรถตนไม่ได้ วอนคนร้ายเอาคอมพิวเตอร์มาคืน เพราะมีข้อมูลงานอยู่ในนั้นเพียบ แล้วจะไม่เอาเรื่อง แถมจะให้เงินค่าเสียเวลาด้วย ก่อนลั่นไม่กลัวรูปลับหลุด 
       
       ถึงกับออกปากห้ามไม่ให้พระเอกหนุ่มคนสนิท “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” มาร่วมแสดงความยินดีในการเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มแรกในชีวิต “ท่องเที่ยวทุกมุมโลก 7 ปี ของโดนัท” สำหรับดาราสาว “โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” ที่จัดงานแถลงข่าวไปเป็นที่เรียบร้อย ณ โรงแรม weav ย่านสะพานหัวช้าง ซึ่งงานนี้สาวโดนัทได้ให้เหตุผลว่า กลัวนักข่าวจะให้ความสนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนและหนุ่มอนันดามากกว่า ที่จะสนใจเรื่องงานหนังสือของตัวเอง
       
       “เรื่องหนังสือของโดนัท จริงๆ เขียนมานานมากแล้วค่ะ มันเหมือนกับว่าถึงเวลาแล้ว ก็ออกหนังสือของตัวเอง เป็นสิ่งที่โดนัทตั้งใจจะทำมาตลอด พอวันนี้มันเสร็จแล้วก็ดีใจเหมือนกัน และก็ภูมิใจมาก เพิ่งเสร็จเมื่อวานเสาร์ที่ผ่านมาเอง เกือบร้องไห้ มันดีใจนะ”
       
       “จริงๆ โดนัทเพิ่งเขียนเสร็จเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วก็พิมพ์เลย แล้วเดี๋ยวก็ขายเลย เป็นหนังสือที่ใช้เวลานานตั้งแต่อายุ 22 จนตอนนี้ 29 เราได้เดินทางไปเจอเรื่องอะไรก็จะมีคนมาถามตลอด ว่าที่นั่นที่นี่เป็นยังไง เราก็เลยอยากเขียนเป็นข้อมูล เราอยากแบ่งให้ทุกคนได้อ่านค่ะ”
       
       “ถามว่าอนันดาได้อ่านหรือยัง เขาอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่ได้ฟังแล้วค่ะ วันนี้เขาไม่ได้มาให้กำลังใจเพราะถ้าเขามา พี่ๆ สื่อก็จะไม่ถามเรื่องหนังสือ แต่ไปถามเรื่องอื่น (หัวเราะ) เราก็คุยกันแล้ว เราตั้งใจอยากมาเล่าให้ฟังว่าหนังสือเสร็จแล้ว อยากให้อุดหนุนกัน หนังสือวันนี้ที่แจกให้ก็อยากให้ร่วมทำบุญด้วยกัน ส่วนนึงสะเดาะเคราะห์ด้วยแหละ รวบรวมเงินไปให้บ้านราชวิถี”
       
       ส่วนกรณีที่เมื่อคืน วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา “โดนัท” โดนคนร้ายทุบกระจกรถฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดง ที่จอดอยู่หน้าโรงหนังเฮ้าส์ อาร์ซีเอ ฉกทรัพย์สินทั้งคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ข้อมูลงาน มูลค่าเฉียดแสนบาทไปนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้
       
       “เรื่องโดนทุบรถ วันนั้นเราไปแจกลายเซ็นงานหนังสือ แล้วก็โดนไปจอดตอนสองทุ่ม เราก็ตื่นเต้นคนมาซื้อหนังสือดีใจ มีถ่ายรูป พอลงมาตอนสี่ทุ่มได้เห็นก็ยังไม่คิดอะไร คิดว่าเขาคงหยิบคอมพิวเตอร์ไป แต่พอเริ่มลำดับสิ่งที่สำคัญมันก็เริ่มรู้ว่ามันมีงานที่สำคัญอยู่ในนั้น มีเอ็กซ์เทอร์นอล ฮาร์ดดิสก์ตัวหนึ่งที่ใช้ตอนไปเรียนที่นิวยอร์ก ไม่มีแบ็กอัพ และจะอัพหนังสั้นเรื่องใหม่ลงยูทิวบ์ ยังไม่ได้ทำ แล้วก็มีเอ็กซ์เทอร์นอลอีกตัวที่เราใช้ประจำ มีรูปจากการเดินทาง ที่ลอนดอน ฟุตเทจหนัง พอนึกว่าข้อมูลออฟฟิศหายไปก็กังวลว่าจะไปหามาจากไหน”
       
       “เหตุการณ์เกิดเร็วมาก ตรงนั้นมันเปลี่ยวริมถนนอาร์ซีเอเลย บริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ตำรวจพยายามหากล้องจากออฟฟิศต่างๆ และก็เอารถไปตรวจลายนิ้วมือให้ เราก็ดำเนินเรื่องไปตามที่ต้องทำ แจ้งความ เคลมประกัน โดนัททำใจประมาณนึงแหละว่าของหาย แต่เราเสียดายข้อมูล ฟุตเทจงานต่างๆ เราทำงานกับคอมพิวเตอร์พอมันหายก็ไม่รู้จะเอามาจากไหน แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็ดำเนินตามเรื่องกฏหมาย”
       
       “ข่าวว่าเป็นคนใกล้ตัว คงไม่ใช่คนใกล้ ตัวตอนนี้ที่เราคิดเองว่าเขาคงเห็นตั้งแต่เราจอดรถเปิดไฟรื้อของ เราวางไว้ที่พื้น ถามว่าตัวเองสะเพร่าไหม ก็ใช่ค่ะ ต่อไปก็คงถือไว้กับตัว ซึ่งกระเป๋าที่เขาเอาไปมันก็มีของใช้ส่วนตัวของโดนัทด้วยนะ เครื่องประดับ รวมที่หายก็ประมาณ 9 หมื่นกว่า แต่อย่าไปคิดเรื่องนั้นเลย เพราะเราห่วงงานมากกว่า ว่าจะไปถ่ายยังไง”
       
       “มีการรีเสิร์ทข้อมูลที่เราไปเที่ยวลอนดอน และก็ยุโรปมาด้วย ก็เลยคิดว่าคงต้องเดินทางไปใหม่แต่ก็ไม่เป็นไรบางอย่างทำใหม่ได้ แต่หนังสั้นบางเรื่องมันทำใหม่ไม่ได้ และก็มีฟุตเทจที่ลอนดอนกำลังจะเอาไปขายให้สปอนเซอร์ มันมีงานของโดนัททุกอย่าง ถามว่าคาดหวังไหมจะได้คืน ก็อยากได้ แต่ก็ไม่เป็นไร เขาคงทำอะไรกับคอมพิวเตอร์กับเอ็กซ์เทอร์นอล เราไม่ได้มาก เพราะพี่ๆ ก็ช่วยกระจายข่าวให้ ก็ต้องขอบคุณตำรวจด้วยที่ช่วยตามหา”
       
       “ถ้าเอาคอมพ์มาคืนจะให้เงินและไม่เอาเรื่อง โดนัทเข้าใจว่าก็เป็นธรรมดาค่ะ เขาเอาของเราไปเพราะอยากได้เงิน เดี๋ยวเราก็ให้ค่าเสียเวลาคุณก็ได้ เอามาวางคืนที่เดิมก็ได้นะ จะเอาคอมพ์ไปก็ได้ไม่ว่าแต่อยากได้เอ็กซ์เทอร์นอลคืน”
       
       “อนันดาก็ไม่ว่าอะไรก็ของมันหายไปแล้ว เดี๋ยวเราถ่ายใหม่ก็ได้ (อนันดาจะซื้อแมกบุ๊กให้)โดนัทพูดเองแหละ พอทุกคนถามโดนัทก็บอกว่าเดี๋ยวอนันดาซื้อคอมพ์ให้ใหม่ อนันดาจะซื้อคอมพ์ให้ออฟฟิศค่ะไม่ได้ซื้อให้โดนัท ก็ให้โดนัทมาทำงานที่ออฟฟิศจะได้ไม่หาย ตอนนี้เราไม่อยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง ขนาดวันนี้ยังนั่งมอเตอร์ไซค์มา เพราะมันรู้สึกกังวลใจไปหมด ว่าขับรถไปไหนเวลาจอดจะปลอดภัยไหม จิตตกเหมือนกัน พรุ่งนี้จะไปติดสัญญาณกันขโมย”
       
       “รูปส่วนตัวไม่ห่วงเลย เรื่องส่วนตัวตอบได้ แต่มันมีฟุตเทจของหนัง ถ้ามันออกมาก็เสียดาย แต่ก็คิดว่าคุณโจรเขาคงไม่ล้ำถึงขนาดเอาหนังเราไปตัด ยังคุยกับอนันดาอยู่เลย ว่าเขาจะเอาหนังเราไปตัดไหม คงไม่ขนาดนั้น อยากให้เอามาคืนจะไม่มีใครติดตามเลย ตอนนี้ไม่ได้คืนเลยติดตามตลอดคุณตำรวจก็โทร.คุยกับโดนัทตลอดเลย”
       
       “แต่จะให้เงินเขาเท่าไหร่ยังไม่รู้ค่ะ เดี๋ยวดูก่อนและจะขอถ่ายรูปคู่ด้วย แต่มันเป็นอุทาหรณ์เลยนะ กระเป๋าเรามันหนักก็เลยเกิดขึ้นได้ ต่อไปต้องระวังมากขึ้นเพราะงานอยู่ในนั้นหมดเลย รูปที่จะให้นักข่าวก็ไม่มี ก็เลยคิดซะว่ามันคงถึงคราว ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
       
       ไม่ขอตอบข่าวว่าควง “อนันดา” ไปเที่ยวต่างประเทศ โบ้ยให้ไปถามอีกฝ่ายเอง
       
       “ส่วนที่ไปลอนดอนอนันดาไม่ได้ไปกับโดนัทด้วย ออสเตรเลียก็ไม่ได้ไป วันนี้ไม่อยากพูดเรื่องหนุ่มเลย เอาไว้ไปถามเขาเองดีกว่านะคะ”

http://www.manager.co.th