ปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ ก็อัพเกรดสุขภาพให้ดีขึ้นได้แล้ว (สุขภาพดี)
โดย สเตฟาน ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์

          ผมจะพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าสุขภาพดีเป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เงินเยอะแค่ต้องมีความสม่ำเสมอ อย่างชีวิตประจำวันของเรานี่ก็เหมือนกัน สิ่งที่เราทำจนคุ้นเคยเป็นนิสัยแล้ว ไม่ต้องถึงกับเปลี่ยนแปลงนิสัยก็ได้ แค่ใส่รายละเอียดเพิ่มเข้าไปก็ทำให้สุขภาพดีขึ้นแล้วครับ

นิสัย : แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง

          อัพเกรดสุขภาพ : แปรงทุกหลังมื้ออาหาร และใช้ไหมขัดฟัน หลังแปรงฟันก่อนนอน
คนส่วนใหญ่จะแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง คือหลังตื่นนอนและก่อนเข้านอน ซึ่งยังไม่พอครับ เพราะทุกครั้งที่เราทานอาหารจะมีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟันเสมอ ถ้าเราไม่เอาออก มันก็จะหมักหมมทำให้สุขภาพช่องปากและฟันไม่ดี

          การแปรงฟันที่เหมาะสมก็คือ หลังตื่นนอน ไม่ต้องแปรงเต็มที่ก็ได้ใส่ยาสีฟันแค่นิดเดียวแล้วแปรงเพื่อให้รู้สึกสดชื่น แล้วทุกครั้งหลังทานอาหารให้เอาแปรงสีฟันเปล่าแปรงเอาเศษอาหารออก แล้วก็บ้วนปากซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เวลาที่ต้องเน้นการแปรงฟันให้หนักก็คือก่อนนอน เพื่อกำจัดแบคทีเรียให้หมด ไม่เหลือให้หมักหมมอีกหลายชั่วโมง ซึ่งกว่าจะแปรงในครั้งต่อไปหลังตื่นนอน แล้วก่อนนอนก็ควรใช้ไหมขัดฟันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียไปเกาะตามซอกฟัน ซึ่งทำให้เกิดโรคหัวใจได้ เพราะพอแบคทีเรียในปากเข้าไปสู่กระแสเลือดมันก็จะเข้าไปสู่หัวใจแล้วแบคทีเรียนั้นก็จะไปทำร้ายหัวใจ

นิสัย : ทานอาหารเช้าทุกวัน

          อัพเกรดสุขภาพ : ทานอาหารให้ครบ 3 หมู่หลัก

          การทานอาหารเช้าทุกวันสำคัญมาก เพราะตอนนอนเป็นช่วงที่เราอดอาหารนานที่สุดแล้ว อย่าลืมนะว่าการนอน 8 ชม. ไม่ได้หมายความว่าเราอดอาหารแค่ 8 ชม. ต้องบวกเวลาที่เราทานก่อนที่จะนอนด้วย อาจจะ 10-12 ชม. เลย แต่คนเราโดยเฉพาะคนในเมือง เวลาทานอาหารเช้ามักชอบทานเป็นกาแฟหรือนมกับขนมปังแผ่นนึงซึ่งยังไม่พอ

          อาหารมื้อเช้าควรจะให้มีทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ครบ 3 หมู่อยู่ในมื้อนั้น ซึ่งไขมันควรเป็นไขมันชนิดดีที่ร่างกายดูดซึมไปใช้และให้พลังงานได้ทันที โปรตีนก็ต้องเป็นโปรตีนที่ดีอย่างนมหรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เพื่อนำไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและซ่อมแซมร่างกาย แล้วคาร์โบไฮเดรตก็ต้องแบบที่ดี ๆ ไม่ใช่พวกแป้งขาวหรือน้ำตาลที่จะทำให้น้ำตาลในเลือดเราขึ้นสูง พลังงานก็จะพุ่งขึ้นมาแป๊บเดียวก็หมดไป อาจทานเป็นข้าวกล้องหรือขนมปังโฮลวีทจะดีมาก เพราะมันจะค่อย ๆ ย่อยและค่อย ๆ ให้พลังงานทำให้เรามีพลังงานอยู่ได้ทั้งวัน

          เคยมีการทำวิจัยในเด็กวัยเรียนที่ทานอาหารเช้า พอไปตรวจไอคิวแล้วดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ทาน คะแนนสอบก็ออกมาดีกว่า อันนี้รวมถึงคนในวัยทำงานและคนสูงอายุด้วยนะครับ

 นิสัย : ทานผักเป็นประจำ

          อัพเกรดสุขภาพ : ทานผลไม้และปลาเพิ่มขึ้น

          ในแต่ละมื้อที่คุณทานอาหารมักจะมีผักเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว อาจจะมากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่คุณควรจะอัพเกรดการรับวิตามิในแต่ละวันด้วยการทานผลไม้ เพราะวิตามินบางอย่างมีในผัก ไม่มีในผลไม้ บางชนิดมีในผลไม้ ไม่มีในผัก ฉะนั้นทานทั้งคู่เลยจะดีมาก โดยเฉพาะแอปเปิ้ล ลูกแพร์ มะม่วง ซึ่งมีวิตามินสูงแล้วก็อร่อยด้วย แล้วก็ควรทานปลาให้มาก ๆ เพราะมีโปรตีนและไขมันดีสูง บางคนชอบทานปลาตอนอาหารเย็นเพราะคิดว่าแคลอรีน้อย ทานแล้วไปนอนก็จะไม่อ้วน ก็ควรเปลี่ยนมาเป็นทานมื้อเที่ยงแทน เพราะคนที่ทานปลาตอนเที่ยงจะอิ่มเร็วกว่า และทำให้ไม่ทานอาหารเย็นหนัก บางทีทำให้ทานน้อยกว่าเดิม 200 แคลอรีต่อวันเลย

 นิสัย : ใช้เครื่องเป่าลมร้อนหลังล้างมือ

          อัพเกรดสุขภาพ : ใช้กระดาษทิชชูซับหลังล้างมือ

          การล้างมือบ่อย ๆ ดีครับ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เชื้อโรคต่าง ๆ เยอะมาก การล้างมือก่อนและหลังทานอาหาร หรือหลังเข้าห้องน้ำก็จะช่วยลดแบคทีเรียและการแพร่เชื้อโรคไปได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ และคุณยังสามารถอัพเกรดด้วยการใช้กระดาษทิชชูซับหลังการล้างมือ อย่าไปใช้ผ้าเช็ดหรือใช้เครื่องเป่า เพราะผ้าเช็ดมือที่ใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกหลาย ๆ ครั้ง หลาย ๆ คน หรือเครื่องเป่าลมร้อน นั่นคือแหล่งที่มีแบคทีเรียเยอะก็จะเป่าแบคทีเรียออกมาจากข้างใน ซึ่งหลายคนเข้าใจผิด คิดว่ามันร้อนคงจะดี ความจริงคือความร้อนนั้นร้อนพอที่จะทำให้มือเราแห้ง แต่ไม่ร้อนพอที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ครับ

 นิสัย : ฟิตหน้าท้องด้วยการซิทอัพ

          อัพเกรดสุขภาพ : ซิทอัพเร็ว ๆ

          ใครอยากมีหน้าท้องที่ได้รูป มีริ้วกล้ามเนื้อแบบสวย ๆ เซ็กซี่ก็มักจะใช้วิธีการซิทอัพ การอัพเกรดก็คือทำให้เร็วขึ้น เพื่อให้กล้ามเนื้อปรับตัวเร็วแล้วก็รู้สึกว่าหนักขึ้นด้วย เพราะตอนที่เราเหวี่ยงตัว โมเมนตั้มที่จะดันขึ้นมาใหม่จะหนักกว่าที่เราจะขึ้นช้า ๆ ส่วนจำนวนครั้งที่ดีที่สุดก็คือ ทำจนเรารู้สึกว่าไม่มีแรงแล้วและพยายามทำต่อให้ได้อีก 5 ครั้ง

 นิสัย : ชอบเดิน

          อัพเกรดสุขภาพ : ถอดรองเท้าเดินบ้าง

          การเดินดีครับ เป็นการบริหารกล้ามเนื้อแล้วก็ออกกำลังกายไปในตัว แล้วถ้าจะให้ดี ถอดรองเท้าเดินบ้างก็จะดีมาก เพราะจะเป็นการช่วยนวดเท้าเรา การใส่รองเท้า ทำให้เท้าเราถูกบีบอยู่ตลอดเวลา บางครั้งเลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ทำให้เกิดอาการขาชา เป็นเหน็บได้ด้วย แล้วก็ควรจะเดินที่มีพื้นเย็นสลับกับพื้นอุ่น เป็นการเธอราพีเท้าแบบธรรมชาติไม่ต้องพึ่งสปาเลยครับ

          เห็นไหมครับว่าสุขภาพดีเป็นเรื่องง่าย ๆ ปรับนิดเดียวสุขภาพก็ดีขึ้นได้อีกเยอะเลย

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม