“อดัม เลอวีน” แดนซ์เต็มที่พา “Maroon 5” จัดเต็มคอนเสิร์ตในไทยครั้งที่ 3
2012-10-10 21:57:34
Advertisement
คลิก!!!

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตของ 5 หนุ่ม “Maroon5” ที่จัดขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของพวกเขาแล้วที่ได้มาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย ทั้ง 5 หนุ่มจัดเต็มเอาใจแฟนเพลงที่แห่มาชมแน่นฮอลล์
       
       หลังจากเคยเดินทางมาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยแล้วถึง 2 ครั้ง ทั้งในปี 2009 และ 2011 และประสบความสำเร็จไปอย่างล้นหลาม มีแฟนเพลงแห่เข้าชมคับคั่ง ล่าสุด หลัง Maroon 5 ออกอัลบั้มใหม่อย่าง Overexposed ทั้ง 5 คน ก็เปิดฉากทัวร์คอนเสิร์ตขึ้นทันที ซึ่งงานนี้รวมถึงประเทศไทยด้วยกับคอนเสิร์ตที่ใช้ชื่อว่า Singh presents Maroon 5 Live in Bangkok 2012 ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้บัตรขายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งภายใน 2 วันเท่านั้น
       
       สำหรับการแสดงที่จัดขึ้นได้วงเปิดอย่าง The Cab มาเรียกน้ำย่อย ก่อนที่ Maroon 5 จะขึ้นแสดงในเวลา 21.30 น.โดยพวกเขาขนเพลงทั้งในอัลบั้มใหม่ และเก่ามาขึ้นแสดง เปิดตัวด้วยเสียงโทรศัพท์ดังเพื่อขึ้นเพลงฮิตสุดๆ ของอัลบั้มใหม่อย่าง Payphone ซึ่งก็ทำให้ทั้งฮอลล์คึกคักลุกขึ้นยืนตั้งแต่เพลงแรกแม้จะเป็นบัตรนั่งทุกที่นั่งก็ตาม
       
       ก่อนจะตามด้วย Don't Stop ( Michael Jackson ) - Makes me wonder ความสนุกยังคงต่อเนื่องไปเรื่อยๆ กับเพลง Lucky Strike ที่ได้แสงสีบนเวทีมาเป็นลูกเล่นช่วยเพิ่มความสนุกสนานเมื่อมาถึงท่อนฮุก จากนั้น อดัม เลอวีน ได้ทำการแนะนำมือคีย์บอร์ดพีเจ มอร์ทอน เพื่อเข้าสู้เพลงช้าซึ้งๆ อย่าง Sunday Morning โดยก่อนจะจบเพลงอดัม ได้หยิบกีตาร์ขึ้นมาเล่น ก่อนจะพาขึ้นอินโทรลเข้าสู่เพลง If I Never
       
       จากนั้นแสงสีก็มาเต็มอีกครั้งกับเพลง Wipe your eyes, Won't go home without you, Man who never lied, Skrillex, Wake up call หลังจากที่ในฮอลล์บางส่วนเริ่มเนือยๆ กับเพลง ความคึกคักก็กลับมาอีกครั้งกับเพลง One more night ซึ่งเพลงนี้ทำทั้งฮอลล์สนุกกับลีลาท่าทางของนักร้องที่พยายามเอนเตอร์เทนให้ทั่วถึงทั้งซ้าย-ขวา จากนั้นอดัมก็ขอให้ทั้งฮอลล์ยกมือขึ้นเมื่อเข้าเพลง Hands all over ด้านล่างเวทียังคงคึกคักเมื่อต่อด้วยเพลง Misery ที่ในช่วงกลางเพลงเขาก็ได้แนะนำเพื่อนร่วงวง ก่อนจะจบด้วยเพลงดังอย่าง This Love ในช่วงแรก พร้อมกับการโซโลกีตาร์ของอดัมในเพลง Don't Forget
       
       และแม้หนุ่มๆ จะโบกมือลาไปแล้ว แต่แน่นอนว่า งานนี้ต้องมีอังกอร์ และพวกเขาไม่ปล่อยให้สาวกรอนานอีกต่อไปหลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ รอกันมานานร่วมชั่วโมงก่อนคอนเสิร์ตเริ่ม ซึ่งพอถึงช่วงอังกอร์ พวกเขาก็กลับมาพร้อมกับเพลง Stereo Hearts ต่อด้วยเพลง She will be loved ซึ่งในเพลงนี้เขาได้เอนเตอร์เทนผู้ชมในฮอลล์ให้ร่วมสนุกไปกับเขา ด้วยการแบ่งฮอลล์เป็นกรุ๊ปเอและกรุ๊ปบีเพื่อร้องเพลงร่วมกัน ซึ่งแม้จะแป๊กๆ ไปบ้างเล็กน้อยในช่วงแรก แต่ด้วยการนำของอดัมที่มาสอนร้องเพลงก็ทำให้ผ่านพ้นไปด้วยดี และเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างมาก ตามต่อด้วยเพลง Daylight และแน่นอนที่สุดกับ Move like Jagger ที่ทำเอาทั้งฮอลล์ลุกขึ้นยืนทุกที่นั่งจริงๆ เพื่อลุกเต้นขยับส่งท้าย
       
       ต้องบอกว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จัดเต็มมาทั้งแสงสีที่ทำให้คอนเสิร์ตดูน่าตื่นตาไม่น่าเบื่อด้วยลูกเล่นของสปอตไลท์ที่วิ่งเล่นไปมาล้อเสียงเพลง และในส่วนของเสียงงานนี้มีทั้งที่ดีบ้างไม่ดีบ้าง ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่ายังสนุกได้แบบไม่สุดแต่พอให้อภัยกันได้ แต่ปัจจัยที่ทำให้อรรถรสในการรับชมคอนเสิร์ตสำหรับคนงบน้อย หรือซื้อบัตรแพงไม่ทันหายไปเกินครึ่งคงอยู่ที่การไม่มีจอภาพด้านข้างจับภาพนักร้อง-นักดนตรีเลยแม้แต่จอเดียว ซึ่งทำให้ผู้ชมด้านหลังและด้านบนต้องบ่นอุบเป็นเสียงเดียวกัน ว่างานนี้เหมือนมาดูคอนเสิร์ตในผับและสนุกด้วยตนเองล้วนๆ เพราะการที่ไม่ได้เห็นสีหน้า และท่าทางของนักร้องแบบชัดๆก็ทำให้หลายคนบ่นอุบ เพราะอรรถรสทางสายตาที่จะได้มองลีลาความพลิ้วของอดัมแบบชัดๆไม่มีให้เห็นเลย ได้แค่เห็นนักร้องวิ่งไป-มาซ้ายขวาของเวที กำไรงานนี้จึงตกอยู่ที่ผู้ชมด้านหน้าและด้านข้างที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานนี้คุ้มและมันสุดๆ แบบไม่แคร์เหล่าผู้ชมชายขอบของคอนเสิร์ตแต่อย่างใด

 

http://www.manager.co.th

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X