อาการเหนื่อยบ่งบอกโรคได้
2012-10-09 15:57:03
Advertisement
คลิก!!!
เหนื่อย


อาการเหนื่อยบ่งบอกโรคได้ (ไทยรัฐ)
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ

          ออกซิเจนเป็นสารที่จำเป็นสำหรับการมีชีวิตอยู่ ถ้าขาดออกซิเจน คนเราจะถึงแก่กรรมในระยะเวลาอันสั้น ...

          การหายใจเป็นการนำออกซิเจนเข้าไปสู่ในปอด และแลกเปลี่ยนกับเลือดที่ไหลมายังปอด ออกซิเจนจะซึมเข้าไปในกระแสเลือด และไหลออกไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในภาวะปกติการหายใจจะเป็นสัดส่วนกับความต้องการออกซิเจนของร่างกาย ปกติแล้วการหายใจควบคุมโดยสมองส่วนกลาง โดยที่เราไม่ต้องคิดที่จะหายใจเอง

          ในภาวะปกติเราจะไม่รู้สึกเหนื่อย อาการเหนื่อยเป็นความรู้สึกที่บอกตัวเราว่า เราต้องออกแรงหายใจมากกว่าปกติ จะเป็นเพราะเราต้องหายใจเอาอากาศเข้า-ออกเป็นปริมาณมาก ๆ หรือมีหลอดลมตีบทำให้หายใจลำบากขึ้นก็ได้ คนปกติจะไม่รู้สึกเหนื่อย ในขณะที่ใช้ชีวิตและทำงานอย่างธรรมดาประจำวัน แต่จะรู้สึกเหนื่อยเมื่อต้องออกกำลังมาก เช่น ในขณะที่เล่นกีฬา หรือต้องทำงานหนัก เช่น แบกของเป็นต้น การเหนื่อยง่ายถือว่าผิดปกติ ถ้าหาก

          เมื่อออกกำลังหรือทำงานแล้วรู้สึกเหนื่อยในขณะที่คนอื่น ๆ ไม่รู้สึกมีอาการเหนื่อยในขณะที่ทำงาน หรือออกกำลังซึ่งแต่เดิมสามารถทำได้โดยไม่มีอาการเหนื่อย ตัวอย่างเช่น แต่ก่อนเดิน 100 เมตรได้ไม่เหนื่อย แต่ในปัจจุบันเดินแล้วเหนื่อย อาการเหนื่อยอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากโรค และไม่ใช่โรค และอาจเกิดจากโรคที่มีอันตรายถึงตายได้ หากรักษาหรือแก้ไขไม่ทัน สาเหตุของการเหนื่อยง่ายจากโรคอาจแบ่งเป็น โรคหัวใจ โรคปอด โรคโลหิตจาง โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคของประสาท และกล้ามเนื้อ

สาเหตุของการเหนื่อยง่ายที่ไม่ได้เกิดจากโรคอาจแบ่งเป็น

          ร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากการขาดการออกกำลังกาย (Physical unfit)ร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากเพิ่งฟื้นไข้ และขาดอาหาร ร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากพักผ่อนไม่พอ มีความเครียดกังวลมาก ท้อแท้ หรือที่เรียกว่าเหนื่อยใจ

          ผู้ที่มีอาการเหนื่อยง่ายควรจะไปพบแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการเหนื่อยง่ายเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ในการวินิจฉัยหาสาเหตุอาการเหนื่อยนั้น แพทย์จำเป็นต้องซักถามประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยเฉพาะระบบทางด้านปอด และหัวใจ นอกจากนั้นจำเป็นต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อหาสาเหตุของอาการเหนื่อย

การตรวจโดยขั้นต้น ได้แก่

          ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ตรวจปัสสาวะ (Urine exam) ตรวจเบาหวาน  ตรวจการทำงานของตับ และไต  ตรวจระดับฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์  เอกซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-ray) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ตรวจสมรรถภาพปอด (Spirogram)

          การตรวจขั้นต่อไป ถ้ามีการผิดปกติ เช่น มีประวัติและตรวจร่างกาย แนะนำว่าเป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะมีคลื่นหัวใจที่ผิดปกติ และมีหัวใจโตในเอกซเรย์ ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจแพทย์ทางด้านหัวใจต่อไป

          ในกรณีที่พบว่าเป็นโรคเบาหวาน หรือต่อมไทรอยด์เป็นพิษต้องพบอายุรแพทย์ผู้ชำนาญทางด้านต่อมไร้ท่อ กรณีที่ผู้ป่วยมีโลหิตจาง จำเป็นต้องตรวจต่อ เพื่อดูว่าโลหิตจางเป็นจากการเสียเลือด หรือโรคเลือดโดยตรง หรือจากโรคมะเร็ง ซึ่งถ้าตรวจพบ ต้องไปพบแพทย์ผู้ชำนาญโรคเฉพาะทาง ถ้าเป็นร่างกายอ่อนแอเนื่องจากการขาดกำลัง และอื่น ๆ ตามที่กล่าวมา ควรพบแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เข้าโครงการทำ Physical Fitness ถ้าเป็นจากทางด้านจิตใจ ซึ่งเป็นกว่า 50% ของผู้ป่วย อาการเหนื่อยมักจะเป็นจากข้อนี้ อาจลองให้ยาคลายเครียด Reassure แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการทางด้านจิตมาก ก็ควรจะส่งแพทย์ทางด้านจิตเวช

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X