อีแจอุค (Lee Jae Wook) เปิดเผยเหตุผลที่ตอนแรกเขาปฏิเสธ “Alchemy Of Souls” และนักแสดงที่อยากได้รับรางวัลคู่พระ-นางยอดเยี่ยม ด้วย
2023-01-11 08:41:27
Advertisement
คลิก!!!

อีแจอุค (Lee Jae Wook) ได้ร่วมพูดคุยถึงซีรีส์เรื่อง Alchemy of Souls Part 2 ผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของเขาที่เพิ่งออกอากาศตอนจบไปกับสำนักข่าว Xportsnews

อีแจอุคเริ่มต้นด้วยการบอกว่า 

“ผมรู้สึกว่าเราปิดท้ายโปรเจคตลอด 1 ปีของเราได้เป็นอย่างดี ผมเลยรู้สึกมีความสุข ผมอยากจะขอบคุณผู้ชมทุกคนที่ติดตาม Alchemy of Souls

สำหรับเรื่อง Alchemy of Souls เป็นซีรีส์ที่แต่งขึ้นทั้งหมดโดยไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ใด เมื่อถามถึงความรู้สึกแรกหลังจากได้บทละครมา อีแจอุคเล่าว่า

“ผมงงครับ คือมันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาและสถานการณ์ในเรื่องก็นิยายมาก เลยจินตนาการตาม [บท] ยาก เหมือนเป็นมิติใหม่ไปเลย”

เขาเล่าต่อ

“จริงๆผมปฏิเสธบทไปในตอนแรก”

เขาอธิบายต่อ

“มันยากไปครับ และผมคิดว่าคัวเองจะทำได้หรือเปล่า แต่ผมคิดว่าผมตกลงแสดงเรื่องนี้เพราะว่าอยากลองท้าทายตัวเอง ในมุมมองนักแสดง ผมพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมานะครับ และมันเป็นซีรีส์ที่ไม่รู้ว่าจะได้เจออีกเมื่อไหร่ใช่ไหมครับ? ผมเชื่อว่าผมปิดฉากได้ดี”

 

สำหรับตัวละคร จางอุค ที่อีแจอุคแสดงในเรื่อง Alchemy of Souls นั้นดูสดใสและร่าเริงกว่าในซีซั่นแรก และเขาดูเปลี่ยนไปจากเดิมมากในพาร์ท 2 อีแจอุคได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า

“ผมคิดว่าช่องว่างระหว่างจางอุคในพาร์ทแรกและพาร์ทสองค่อนข้างกว้าง ตอนที่ผมอ่านบทกับนักเขียนบท พวกเขาบอกว่าอยากให้ผมคิดว่า จางอุคและพาร์ท 1 และ พาร์ท 2 เป็นตัวละครที่แตกต่างกัน และเพื่อแสดงตัวละครที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ผมเปลี่ยนการพูดของจางอุค และพยายามพูดให้ห้วนและสั้นในชีวิตประจำวันของตัวเองด้วย”

อีกสิ่งที่เปลี่ยนในพาร์ท 1 และ 2 ของนักแสดงนำหญิง ซึ่ง จองโซมิน (Jung So Min) รับบทนำหญิงในพาร์ทแรก ในบทของ มูด๊อก/นักซู ส่วน โกยุนจอง (Go Yoon Jung) มารับบทเป็น จินบูยอน/นักซู ในพาร์ท 2

อีแจอุคได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า

“การเปลี่ยนนักแสงนำหญิงในพาร์ท 2 ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผม” 

 

พูดถึงเคมีระหว่างเขาและนักแสดงหญิงทั้ง 2 คน อีแจอุคบอกว่า

“สำหรับโซมิน เธอมีประสบการณ์การแสดงจากหลายผลงาน เธอเลยทำงานได้อย่างชำนาญในกองถ่าย”

อีแจอุคพูดต่อ

“ยุนจองเป็นคนที่สดใสมาก มากถึงจุดที่พลังบวกของเธอล้นโลก ยากมากที่จะถ่ายทำโดยไม่ยิ้ม เธอทำให้ผมคิดว่า ‘บรรยากาศของกองถ่ายทั้งหมดเปลี่ยนไปได้เพียงเพราะคนคนเดียว’”

อีแจอุคเล่าว่า

“ผมคิดว่านี่คือความแข็งแกร่งของเธอ คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำงานในพาร์ท 2 นี้ แต่เธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มเลย”

อีแจอุคยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับ, นักเขียนบท รวมถึงความสนิทสนมกันของนักแสดงที่ทำให้ Alchemy of Souls ได้รับความนิยมทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ เขาบอกว่าเขาสามารถพึ่งพา ฮวังมินฮยอน (Hwang Minhyun), ชินซึงโฮ (Shin Seung Ho), ยูอินซู (Yoo In Soo), ซอฮเยวอน (Seo Hye Won), อาริน (Arin) วง Oh My Girl และคนอื่นๆได้ พร้อมทั้งเสริมว่า

“ผมก็หวังว่าพวกเขาจะพึ่งพาผมได้เช่นกัน ผมเชื่อว่าบรรยากาศที่สบายๆสร้างเคมีระหว่างพวกเราขึ้นมา”

อีแจอุคได้อธิบายเคมีระหว่างเขาและนักแสดงที่ได้ร่วมงานในเรื่องนี้

“สำหรับมินฮยอน มีหลายอย่างที่ผมอิจฉาครับ เขาหล่อ, ร้องเพลงเพราะ, สูง และแสดงฉากแอคชั่นได้ดี พูดตามตรง ผมเคยคิดว่า ‘อย่างน้อยฉันก็แสดงเก่งกว่า’ แต่ผมประเมินผิดไปครับ ผมได้เรียนรู้จากเขาหลายอย่างในฐานะรุ่นพี่ฮวังมินฮยอน ไม่ใช่แค่ ฮยอง” 

“ผมเชื่อว่าทั้งซึงโฮ และ อินซู มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน” เขาพูดต่อ “ผมรู้สึกสนุกและเหมือนได้รับของขวัญที่ได้เจอคนแบบนี้มารวมตัวกันและแสดงด้วยกัน เพราะว่าพวกเขาเป็นคนที่ตั้งใจมาก ผมจึงได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง” 


ผู้สัมภาษณ์ถามอีแจอุคว่า เขาอยากได้รับรางวัล พระ-นางยอดเยี่ยมคู่กับใคร อีแจคอุคตอบว่า

“ผมพูดได้แค่คนเดียวครับ ผมและองค์รัชทายาท” ซึ่งรับบทโดย ชินซึงโฮ เขาบอกว่ามีหลายฉากเลยที่เป็นการด้นสดระหว่างเขาทั้ง 2 คน

“มีหลายฉากที่ผมกับซึงโฮด้นสดกันตั้งแต่ต้นจนจบ เวลาที่เราด้นสด เราต้องแสดงเป็นตัวละครนั้น ในแต่ละสถานการณ์โดยที่ไม่หลุดออกจากเนื้อเรื่องด้วย และซึงโฮเป็นนักแสดงที่ทำแบบนี้เก่งมากเลยครับ”

เขาพูดต่อ

“ฉากที่ตลก ทำให้หัวเราะ ส่วนใหญ่เป็นฉากที่ด้นสดล้วนๆเลยครับ” 

 

ที่มา  (1) (2) (3)

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X