นิติกรชาย วัย 35 ปี ก่อเหตุรัวยิงพี่เขยดับ ส่วนพี่สาวบาดเจ็บ หลังขอเงินไปดูงานเมืองนอก แต่ถูกปฏิเสธ พบประวัติเคยถูกจับคดียาเสพติดมาก่อน

          วันที่ 2 กันยายน 2556 เวลา 00.20 น. เจ้าหน้าที่ตำวจ สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง รับแจ้งเหตุยิงกันตายในห้องแถวสุขกมล เลขที่ 148/60 ม.3 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำไม่มีชื่อ ภายในร้านพบศพ นายสมคิด การเพียร อายุ 37 ปี สภาพนอนคว่ำเสียชีวิตอยู่บนเตียงไม้ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มิลลิเมตร ที่แขนขวา และชายโครงขวาทะลุชายโครงซ้าย
 
          นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย สภาพถูกยิงเข้าที่หัวเข่าซ้าย 1 นัด ทราบชื่อคือ นางภิญญาพัชญ์ ไกรทอง อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลปลวกแดง โดยในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มิลลิเมตร ตกอยู่ จำนวน 4 นัด

          จาก สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางภิญญาพัชญ์ และนายสมคิด สองสามีภรรยาเจ้าของร้านขายของชำ กำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่บนเตียงไม้ จากนั้น นายพรพิทักษ์ ไกรทอง อายุ 35 ปี น้องชายนางภิญญาพัชญ์ ได้เดินเข้ามาในร้าน พร้อมขอเงินจำนวน 10,000 บาท จากนางภิญญาพัชญ์ โดยอ้างว่า จะไปดูงานเมืองนอก และไปดูเรื่องเรียนต่อ แต่ได้รับการปฏิเสธ ทำให้นายพรพิทักษ์ไม่พอใจ กระทั่งเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนที่นายพรพิทักษ์จะเดินออกไปนอกร้าน

          ทว่า นายพรพิทักษ์ได้ย้อนเข้ามาในร้านอีกครั้ง พร้อมใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายสมคิดและนางภิญญาพัชญ์ทันที จนนายสมคิดเสียชีวิตคาที่ ส่วนนางภิญญาพัชญ์ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่เข่าซ้าย แต่ยังพอมีแรงอยู่ จึงพยายามคว้าปืนของนายพรพิทักษ์ ซึ่งขณะนั้นปืนขัดลำกล้องพอดี และเป็นจังหวะเดียวกับที่ นายฐานวัฒน์ ไกรทอง อายุ 19 ปี บุตรชายของนางภิญญาพัชญ์ ดึงตัวแม่หลบเข้าไปห้องนอนได้ทัน จึงรอดหวุดหวิด

          จาก นั้น นายพรพิทักษ์ ได้พูดจาข่มขู่ ก่อนขึ้นรถระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 4790 ระยอง ขับหลบหนีไป ซึ่งขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดที่อยู่ในร้านสามารถจับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ นางภิญญาพัชญ์ เผยว่า นายพรพิทักษ์ เคยมีประวัติถูกจับคดียาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ปัจจุบันทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่ อบต.มาบยางพร ในตำแหน่งนิติกร และกำลังศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก

          ทั้งนี้ นายพรพิทักษ์มักจะมาขอเงินตนเป็นประจำ โดยอ้างว่า ลูกป่วยบ้าง หรือเป็นค่าเรียนบ้าง ซึ่งทุกครั้งตนจะให้เงินประมาณ 3,000 -5,000 บาท ตกเดือนละประมาณเกือบ 20,000 บาท แต่นายพรพิทักษ์ยังเข้าขโมยเงินในร้านเป็นประจำ และทราบมาว่า มักนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพด้วย

          อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังติดตามนายพรพิทักษ์อย่างกระชั้นชิดแล้ว ซึ่งคาดว่า น่าจะยังหนีไปไม่ไกลจากพื้นที่