แว้นโหดใช้หินทุบหัว สวป.โรงพักพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เจ็บสาหัสคาเครื่องแบบเหตุไม่พอใจ ถูกจับรถจยย.ผิดกฎหมาย เหตุเกิดกลางดึกในปั๊มน้ำมัน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ภาพวงจรปิดเห็นชัด ผบ.ตร.รุดเยี่ยม ชี้อุกอาจเชื่อมียาหรืออาวุธในรถ สั่งระดมล่าตัว เผยอาการสวป.กระดูกเหล็ก กระดูกโหนกแก้มแตก กระบอกตาร้าว ล่าสุดตร.ตามรวบตัวได้ที่บ้านใน อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี เจ้าตัวสารภาพ โมโหที่ถูกยึดรถ ประกอบกับเมาสุรา โดนข้อหาร่วมกันทำร้ายเจ้าหน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ เร่งล่าตัวผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2-3 คน


เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ สภ.พนมสารคาม พล.ต.ต.ธีระพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยพ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ. ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้ากรณีพ.ต.ท.กฤษณ์ บุญเรืองคณาภรณ์ สวป.สภ.พนมสารคาม ถูกกลุ่มเด็กแว้นใช้ก้อนหินทำร้ายร่างกาย ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. รุ่งพิทักษ์ปิโตเลียม หรือปั๊มน้ำมันสิบบาท ม.4 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกยึดรถจยย. โดยวงจรปิดภายในปั๊มน้ำนันสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยเรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดและสภ.พนมสารคาม เพื่อแบ่งกำลังออกสืบสวนหาข่าว เบื้องต้นทราบว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.โคกปีบ จ.ปราจีนบุรี


พล.ต.ต.ธีระพลเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเด็กแว้นในเขตอ.พนมสารคาม อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และอ.โคกปีบ จ.ปราจีนบุรี โดยเฉพาะตัวผู้ก่อเหตุใช้ก้อนหินทุบ สวป. ชื่อนายคมสันต์ จันทร์ศรี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.5 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี เป็นหัวโจกในเขต อ.โคกปีบ จ.ปราจีนบุรี และเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมจัดกำลังออกเป็น 3 ชุดเพื่อตามล่าตัว คาดว่าจะมีข่าวดีในวันนี้


ทั้งนี้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 11 เม.ย. ขณะที่พ.ต.ท.กฤษณ์ ออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจพื้นที่ตามปกติเพียงลำพัง โดยใช้รถยนต์เก๋งส่วนตัว ยี่ห้อโตโยต้าเอ็กซิเออร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน กต 6655 ฉะเชิงเทรา ก่อนได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.พนมสารคาม ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ จับกลุ่มเตรียมจะแข่งขันกัน โดยรวมตัวกันอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.รุ่งพิทักษ์ปิโตรเลียมหรือปั๊มน้ำมัน สิบบาท ม.4 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา


หลังรับแจ้งพ.ต.ท.กฤษณ์ขับรถยนต์มาตรวจสอบ พบกลุ่มวัยรุ่นอยู่ภายในปั๊มน้ำมันตามที่รับแจ้ง จึงยึดรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและแต่งซิ่ง ไว้ 2 คัน โดยกลุ่มวัยรุ่นพยายามเจรจาขอรถคืน แต่พ.ต.ท. กฤษณ์ไม่ยอม ทำให้กลุ่มวัยรุ่นแสดงความไม่พอใจ พ.ต.ท.กฤษณ์ได้วิทยุขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจ สภ.พนมสารคาม


แต่ขณะรอกำลังเสริมอยู่นั้น มีวัยรุ่นรูปร่างผอมสูง สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ อายุ 28 ปี เดินอ้อมมาทางด้านหลัง พร้อมใช้ก้อนหินที่เตรียมมาทุบเข้าที่บริเวณกกหูด้านขวา ทำให้พ.ต.ท.กฤษณ์เซถลาไปชนกับตู้จ่ายน้ำมัน จากนั้นวัยรุ่นคนดังกล่าวยังใช้ก้อนหินทุบหลายครั้งที่ศีรษะ พ.ต.ท.กฤษณ์พยายามต่อสู้ป้องกันตัว กอดรัดฟัดเหวี่ยงจนล้มลงทั้งคู่ โดยชายวัยรุ่นนั่งคร่อมอยู่ด้านบน ใช้ก้อนหินทุบที่ใบหน้าพ.ต.ท.กฤษณ์อย่างไม่ยั้งมือ กระทั่งพนักงานในปั๊มหลายคนออกมาช่วยกันห้าม คนร้ายจึงหลบหนีไป พร้อมรถจักรยานยนต์คันที่ถูกยึดเอาไว้


พ.ต.ท.กฤษณ์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจทันที เนื่องจากอาการสาหัส โดยได้รับบาดเจ็บใบหน้าบวมปูด ใบหน้าด้านซ้ายเขียวช้ำ ปากฉีก โดยเฉพาะใต้ตาขวาแตกเย็บ 2 เข็ม โดยภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ถูกกล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมันบันทึกเอาไว้ได้อย่างชัดเจน


ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมาเยี่ยมพ.ต.ท.กฤษณ์ ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดย ผบ.ตร.พูดคุยสอบถามอาการบาดเจ็บ พร้อมมอบกระเช้าผลไม้และเงินช่วยเหลือเยียวยา


พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นกรณีผู้ที่ลงมือทำร้ายมีพฤติกรรมที่อุกอาจมาก ขณะที่เข้าทำร้ายพ.ต.ท.กฤษณ์ไม่ได้ระวังตัว และคิดไม่ถึงว่าจะมีวัยรุ่นที่กล้าทำร้าย เบื้องต้นจากการสืบสวนทราบว่า ในรถวัยรุ่นคนดังกล่าวน่าจะมีทั้งยาเสพติดและอาวุธปืน ฉะนั้นตนขอฝากไปยังพ่อแม่และผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงมือกระทำความผิดและทำร้ายพ.ต.ท.กฤษณ์ ขอให้รีบเข้ามอบ ตัว เนื่องจากคนที่ลงมือทำร้าย ทราบว่ามีอาวุธและก็มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถ้ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมีการต่อสู้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ซึ่งอาจจะต้องมีการใช้อาวุธภายใต้กรอบของกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวถามว่าทราบตัวหรือยังว่าวัยรุ่นนี้เป็นกลุ่มไหน พล.ต.อ.สมยศกล่าว เบื้องต้นทราบตัวแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามจับกุมตัวอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าเป็นเรื่องแค่แข่งรถ คงไม่ลงมือกระทำการเช่นนี้ แสดงว่าวัยรุ่นคนนั้นน่าจะมียาเสพติดและอาวุธ จากการที่มาเยี่ยมพ.ต.ท.กฤษณ์ ได้สอบถามหมอที่ดูแลอาการบอกว่า ได้รับบาดเจ็บกระดูกที่โหนกแก้มแตกและกระดูกกระบอกตาร้าว ซึ่งถือว่าเป็นขั้นที่จะต้องรักษาเกินกว่า 20 วัน คงเป็นในลักษณะเช่นว่าบาดเจ็บสาหัส


"เด็กวัยรุ่นอาจจะคึกคะนอง สนุกสนานเป็นบางโอกาส ผู้บังคับบัญชาหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ก็ต้องใช้ดุลพินิจ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น คนที่ลงมือทำร้ายตำรวจ ต้องมีใจโหดเหี้ยมอำมหิต เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังสืบสวนจับกุมคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยรายนี้ ก็ต้องระมัดระวังอย่าประมาท ผมเชื่อว่าคนร้ายต้องมีอาวุธแน่นอน หากมีการต่อสู้ก็ต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท" ผบ.ตร.กล่าว


ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.เสถียร เหล่าเกิ้มหุ่ง รอง ผกก.สส.สภ.พนมสารคาม นำหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางไปติดตามตัวยังบ้านพักของนายคมสันต์ แต่พบกับนางหนูพี จันทร์ศรี มารดา จึงนำหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทราให้ดู พร้อมแจ้งว่านายคมสันก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนบาดเจ็บสาหัสแล้วหลบหนีไป นางหนูพีมารดาจึงโทรศัพท์เกลี้ยกล่อมจนลูกชายยอมมอบตัว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.พนมสารคาม


ต่อมาพล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2 เดินทางไปสอบปากคำนายคมสันต์ด้วยตนเอง ก่อนเปิดเผยว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างไม่พอใจที่ถูกพ.ต.ท. กฤษณ์ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของพรรคพวก จึงพยายามเจรจาขอร้องแต่สวป.ไม่ยอม และยังติดต่อขอกำลังมาสนับสนุน เกรงว่ารถจักรยานยนต์จะถูกยึด จึงโมโหประกอบกับมึนเมาสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ก่อนหลบหนีไปกับเพื่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2-3 คน จะต้องติดตามจับกุมตัวต่อไป