สุดสลด ! แม่ติดคุก 2 เดือน ฝากลูก 4 ขวบ ไว้ที่สถานสงเคราะห์ พอพ้นโทษไปรับลูกกลับ พบลูกมีเลือดออกทางอวัยวะเพศและทางรูทวารหนัก ลูกสาวเผยถูกรุ่นพี่ข่มขืนทุกวัน - ปวีณา เผยเสียใจ ลั่นเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด

          วันที่ 29 สิงหาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุจาก นางสาววรรณพร ศรีนัคเรศ เจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยา ว่ามีหญิงอายุ 42 ปี ได้พาบุตรสาววัย 4 ปี ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายและถูกข่มขืนกระทำชำเรา เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางละมุง จึงเดินทางไปตรวจสอบ

          ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบ นางสาวพลอย (นามสมมติ) อายุ 42 ปี อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งคุมสติไม่อยู่ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันเกลี้ยกล่อมจนสงบสติอารมณ์ได้ นอกจากนี้ ยังพบ เด็กหญิงแพรว (นามสมมติ) อายุ 4 ปี ถูกทำร้ายร่างกาย ตามตัวมีรอยฟกช้ำ ไข้ขึ้นสูง และถูกข่มขืนจนอวัยวะเพศฉีกขาด บวมแดง มีเลือดไหลตลอดเวลา

          โดย นางสาวพลอย เผยว่า ตนพักอาศัยกับลูกสาวอยู่ 2 คน ซึ่งตนทำงานที่บาร์แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา และก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน ตนถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติด จึงติดต่อญาติให้ฝากลูกสาวไว้กับสถานสงเคราะห์เด็กบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดชลบุรี  และหลังจากที่ตนพ้นโทษได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ไปขอรับตัวลูกสาวกลับบ้าน

          ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่บ้านพักได้นำลูกสาวตนมาส่งที่ห้องพักย่านพัทยาใต้ ตนก็ตกใจเพราะลูกสาวตนมีอาการแปลก ๆ พอตกดึกก็มีเลือดไหลมาจากช่องคลอด รูทวาร และอวัยวะเพศปูดบวม ตนจึงเค้นถามลูก จนทราบว่า ขณะที่ลูกสาวตนอยู่บ้านพักเด็กได้มีรุ่นพี่ผู้ชายหลายคน หนึ่งในนั้นชื่อ อาร์ต ข่มขืนกระทำชำเราทั้งทางอวัยวะเพศและรูทวารหนักทุกวัน ตั้งแต่วันที่เข้าไปอยู่ในบ้านพักเด็กดังกล่าว ตนจึงติดต่อไปยังนางสาววรรณพร ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน ซึ่งนางสาววรรณพรแนะนำให้ตนพาลูกไปรักษา ก่อนที่จะแจ้งตำรวจให้ เพื่อให้ทำการดำเนินคดีกับกลุ่มที่ทำร้ายลูกสาวต่อไป

          เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรีเพื่อ สืบหาข้อเท็จจริงของคดีนี้ หากพบว่าเด็กถูกข่มขืนจริงตามคำร้องทุกข์ก็จะดำเนินคดีเอาผิดกับทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

          ขณะที่ทางด้าน นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตน จะเร่งเข้าไปติดตามสาเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่จริงว่ามีความเป็นมาอย่างไร โดยส่วนตัวรู้สึกสะเทือนใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากบ้านพักเด็กและครอบครัวของ พม. ถือว่าเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลและช่วยเหลือสังคม

          ทั้งนี้ หากพบว่ามีความผิดจริงจะต้องดำเนินเอาผิดตามกฎหมายกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในบ้านพักเด็กด้วยว่าได้ละเลยในการ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่ ถ้ามีความผิดจริงก็จะมีการพิจารณาโทษด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามจากนี้ไปจะต้องมีการอบรมและตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่จะ เข้ามาทำงานในบ้านพักเด็กและครอบครัว ทั้งเรื่องความพร้อมทางด้านจิตใจ ทัศนคติในเรื่องการป้องกันและการดูแลเอาใจใส่เด็กทุกรูปแบบทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีก