องค์การสวนสัตว์ คาด หลินฮุ่ยจะตั้งท้องน้องของหลินปิงได้ เนื่องจากการผสมเทียมสำเร็จด้วยดี ส่วนหลินปิงตอนนี้ถึงประเทศจีนแล้ว โดยทางศูนย์วิจัยของจีน เผยว่า เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2557 จะเป็นช่วงผสมพันธุ์ของหลินปิง
 
            เมื่อ เวลา 09.30 น. ของวันที่ 29 กันยายน 2556 นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วย สัตวแพทย์หญิง ขวัญเรือน ดวงสะอาด ทีมวิจัยแพนด้าสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสวนสัตว์ ร่วมกันเปิดแถลงข่าวความคืบหน้าในการดำเนินงานการผสมเทียมแพนด้า หลินฮุ่ย เพื่อที่จะให้ได้น้องหลินปิง ที่ห้องประชุมอาคารสโมสรแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่
 
            นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ เปิดเผยว่า ปกติแล้วเรื่องระดับฮอร์โมนนั้น หากหมีแพนด้ามีอาการเป็นสัด จะพบว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนจะมีค่าที่สูงขึ้น ส่วนระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโลนจะต่ำ ซึ่งทางทีมวิจัยได้นำปัสสาวะของหลินฮุ่ยมาตรวจอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทางทีมวิจัย มั่นใจว่า หลินฮุ่ยอยู่ในภาวะตกไข่แล้ว จึงได้เริ่มทำการอดอาหารให้กับหลินฮุ่ย ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน เพื่อเตรียมการผสมเทียม 
 
            จากนั้นจึงวางยาสลบ ช่วงช่วง หมีแพนด้าเพศผู้ ในวันที่ 28 กันยายน เพื่อทำการรีดน้ำเชื้อออกมา แม้จะได้ปริมาณน้อยกว่าที่คาดไว้ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า มีคุณภาพที่ดี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแบ่งไว้ 2 ส่วน ก่อนทำการผสมเทียมกับหลินฮุ่ยในวันเดียวกัน โดยครั้งแรกใช้น้ำเชื้อเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลินฮุ่ยจะเริ่มออกโชว์ตัวอีกครั้งในวันที่ 30 กันยายนนี้
 
            นาย สัตวแพทย์ ดร.บริพัตร กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้มีการผสมเทียมครั้งแรกผ่านไป 24 ชั่วโมงแล้ว ในเช้าวันนี้ (30 กันยายน 2556) เวลาประมาณ 08.15 น. ทางทีมสัตวแพทย์จะวางยาสลบหลินฮุ่ยอีกครั้ง และใช้น้ำเชื้อ 40 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้แบ่งไว้ เพื่อทำการผสมเทียมให้กับหลินฮุ่ยเป็นครั้งที่สอง ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ผสมเทียมให้กับหลินฮุ่ยโดยใช้น้ำเชื้อในตอนแรกให้หมด นั้น เนื่องจากทางจีนก็ใช้วิธีการแบ่งน้ำเชื้อ เพื่อผสมเทียมแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นทางทีมสัตวแพทย์จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนเหมือนกับทางจีน
 
            ซึ่ง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ที่มีการผสมเทียมให้กับหลินฮุ่ย โดยครั้งแรกนั้นผสมไม่ติด ส่วนครั้งที่สองก็ได้หลินปิงมา ส่วนครั้งที่ 3 ก็ไม่ติด จากนั้นจึงพักการผสมพันธุ์ไป 1 ปี เพื่อให้หลินฮุ่ยได้พักฟื้น ส่วนครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งคงต้องรอดูผลไปสักระยะ คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ถึงจะทราบว่า หลินฮุ่ยแสดงอาการอะไรออกมาบ้าง เช่น มีการทำรังเพื่อเตรียมคลอดลูกหรือไม่
 
            อย่าง ไรก็ตาม การผสมพันธุ์รอบนี้เป็นช่วงนอกฤดูกาล ดังนั้นคงต้องลุ้นกันว่า แม่แพนด้าหลินฮุ่ยจะตั้งท้องและให้กำเนิดลูกแพนด้าตัวที่ 2 ในประเทศไทย ภายในต้นปีใหม่ 2557 ได้หรือไม่ แต่ทางทีมวิจัยมั่นใจว่า เนื่องจากหลินฮุ่ยเคยให้กำเนิดหลินปิงในช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์เช่นกัน จึงถือว่ามีโอกาสมากสำหรับการผสมเทียมครั้งนี้  หากหลินฮุ่ยท้องและต้องเลี้ยงลูก รัฐบาลไทยคงต้องประสานกับทางจีนเรื่องการต่อสัญญาอีกครั้งระหว่างช่วงช่วง กับหลินฮุ่ย ว่าจะให้อยู่ไทยต่อหรือไม่ แต่โดยปกติแล้วหมีแพนด้าที่อยู่ในต่างประเทศเกิน 10 ปี มักจะให้มีการต่อสัญญาให้อยู่ต่อจนเสียชีวิต ซึ่งจะง่ายกว่าลูกหมีที่พึ่งคลอด ที่ต้องกลับไปตามสัญญา
 
            สำหรับ ทางด้านหลินปิงที่เดินทางไปถึงประเทศจีนนั้น นาย เจี๋ย เจียน เซิง อธิบดีป่าไม้ของจีน ได้เป็นตัวแทนสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการรับมอบหมีแพนด้าหลินปิง บริเวณศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ปี้เฟิงเซี่ย เมืองหยาอาน มลฑลเสฉวน ประเทศจีน ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยหมีธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของจีน มีหมีแพนด้ากว่า 1,000 ตัว ที่อาศัยอยู่ในป่าธรรมชาติ โดยมี นายจางเห้อหมิง. ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักหมี พร้อมกับเจ้าหน้าที่และประชาชนชาวจีน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
 
            ด้าน สัตวแพทย์หญิง กรรณิการ์ จันทรังษี สัตวแพทย์ผู้ดูแลหมีแพนด้า ได้เปิดเผยว่า หลินปิง หลังจากมาถึงที่จีน ก็ไม่ได้นอนเลย เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับสถานที่ใหม่ จึงเดินสำรวจและตื่นตลอดทั้งคืน แต่โดยรวมสุขภาพแข็งแรงดี และเชื่อว่าอีกไม่เกิน 7 วัน หลินปิงจะสามารถปรับตัวได้ โดยอีก 1 เดือนหลังจากนี้ จะนำตัวไปเล่นกับเพื่อนหมีที่อยู่ภายในศูนย์วิจัยฯ สำหรับเรื่องของการหาคู่นั้น ในต้นปีหน้าจะมีการนำหมีหนุ่มอายุเท่ากัน จำนวน 6 ตัว มาให้หลินปิงเลือก เพราะฤดูผสมพันธุ์จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และหลังจากจับคู่เสร็จแล้วก็จะบินกลับไทย และอยู่ยาวถึง 15 ปี ตามสัญญา
 
            ส่วน เรื่องของการวางยาสลบตามที่มีข่าวออกไปนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีการวางยาสลบหลินปิงก่อนขึ้นเครื่องแน่นอน แต่เนื่องจากตอนเช้าวันเดินทาง หลินปิงมีอาการตื่นตระหนกเล็กน้อย ทางทีมสัตวแพทย์ จึงให้กินยาคลายเครียด จนทำให้หลินปิงดูเหมือนมีอาการซึมไปบ้าง ก่อนที่จะหลับไป ซึ่งระหว่างเดินทางหลินปิงก็ตื่นบนเครื่องและร้องหาพี่เลี้ยง เพราะอยากออกกรง ซึ่งทางพี่เลี้ยงก็ดูแลอย่างใกล้ชิด จนถึงศูนย์วิจัยฯ ที่จีนได้อย่างปลอดภัย
 
            ด้าน นาย เจี๋ย เจียน เซิง อธิบดีป่าไม้ของจีน กล่าวว่า หลังจากที่ทำการรับมอบหลินปิงมาอยู่ศูนย์วิจัยฯ แห่งนี้ ก็ขอยืนยันว่า ทางศูนย์วิจัยฯ จะดูแลหลินปิงเป็นอย่างดี เพราะหลินปิงนั้นถือว่า เป็นขวัญใจของคนไทย และก็มีความน่ารัก ฉลาด สามารถปรับตัวได้รวดเร็ว ซึ่งเชื่อว่าหลินปิงจะมีความสุขกับการอยู่ที่ศูนย์วิจัยฯ แห่งนี้ เพื่อรอการเลือกคู่ ก่อนจะกลับไปยังประเทศไทย

 


คลิ ป สัตวแพทย์พอใจผสมเทียม หลินฮุ่ย 2 ครั้งผ่านฉลุย รอ 3 เดือนลุ้นติด-ไม่ติด เครดิตรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดยคุณ LAKORNHD ThaiTV

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม