ชาวประมงที่ จ.พังงา ยกขบวนร้อง สคบ. หลังซื้อรถกระบะมารับจ้างวิ่งส่งลูกกุ้ง แล้วเกิดปัญหาแบบเดียวกัน คือ ยางล้อรถเกิดล่อนจนเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุรถคว่ำได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังถูกเรียกค่าเสียหายด้วย เรียกร้องหาความรับผิดชอบ...  

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 เม.ย.58 ที่ห้องทำงาน นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ หน.สำนักงานจังหวัดพังงา ศาลากลางจังหวัดพังงา นายบุญโชค จงไกรจักร อายุ 51 ปี นางสุนา จงไกรจักร อายุ 43 ปี และนายไมตรี จงไกรจักร อายุ 41 ปี ทั้งหมดอาชีพทำประมง ได้เข้าพบและยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ นายวิรัตน์ ในฐานะเลขาอนุกรรมการ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จังหวัดพังงา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ร้องทั้งหมด ได้ซื้อรถยนต์กระบะตอนเดียวยี่ห้อหนึ่ง เลขทะเบียน บฉ 4247, บฉ 4329, บฉ 4246 พังงา ตามลำดับ เพื่อมาใช้งาน และขอให้ทาง สคบ.จังหวัดพังงา ตรวจสอบกรณีเกิดอุบัติเหตุขณะใช้รถยนต์กระบะตอนเดียวดังกล่าว เนื่องจากดอกยางล้อที่ซื้อมานั้นได้หลุดล่อนออกส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะบางรายเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถส่งลูกกุ้งให้ลูกค้า ทำให้ถูกทางบริษัทที่ว่าจ้างเรียกร้องค่าเสียหายอีกด้วย ซึ่งสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากดอกยางล้อของรถยนต์กระบะที่ใช้ยางยี่ห้อหนึ่ง เกิดหลุดล่อนจากล้อยางรถดังกล่าว

จากการสอบถามนางสุนา จงไกรจักร อายุ 43 ปี หนึ่งผู้เข้าร้องทุกข์ กล่าวว่า ตนเองได้ซื้อรถยนต์กระบะ พร้อมกับญาติๆ รวม 5 คัน จากโชว์รูมขายรถยนต์แห่งหนึ่ง ในอ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จากนั้นตนและญาติๆ ส่วนหนึ่งได้นำรถมาใช้ในการวิ่งบรรทุกส่งลูกกุ้ง บางคนใช้วิ่งส่วนตัว และขับทำงานของแต่ละคน จนใช้มาได้ประมาณ 4-5 เดือน กระทั่งเดือน ม.ค.58 ที่ผ่านมา ตนได้ประสบอุบัติเหตุต้องนอนโรงพยาบาลถึง 17 วัน ซึ่งสาเหตุมาจากดอกยางหลุดล่อนจากยางล้อ จนเกิดอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ ในช่วงเวลาต่อมา รถยนต์ที่ซื้อมาพร้อมกัน ก็เกิดเหตุแบบเดียวกันอีก 2 คัน จึงได้พร้อมกันมาแจ้งทาง สคบ.ให้ตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้ได้ติดต่อกับโชว์รูมขายรถยนต์ ซึ่งได้สอบถามไปยังบริษัทยาง และได้รับคำตอบไม่เป็นที่น่าพอใจ ทำนองว่า รถบรรทุกเกินน้ำหนัก หรือลมอ่อน อีกทั้งทาง บริษัทรถยนต์ก็ไม่เคยมาเยี่ยมเยือนหรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด จึงได้รวมตัวกันมายื่นขอความเป็นธรรมต่อสคบ. ซึ่งนายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ หน.สำนักงานจังหวัดพังงา ในฐานะเลขาอนุกรรมการสคบ.จังหวัด ได้รับเรื่องไว้ เพื่อดำเนินการติดต่อฝ่ายที่รับผิดชอบต่อไป

ขอขอบคุณที่มา  ไทยรัฐออนไลน์