ล่าสุด (10 เมษายน 2558) เจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า "ถ้าคนที่ติดตามอินสตาแกรมผมจริง ๆ จะรู้เลยว่าปกติแล้วผมจะลงข้อความจำพวกสอนข้อคิดสอนอะไรต่าง ๆ แบบนี้อยู่เสมอ ซึ่งเรื่องนี้มันมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับตัวผมมาก่อนเมื่อสักประมาณสัปดาห์ที่แล้ว พอดีว่ามีน้องที่ผมรู้จักเขาแวะมาที่บ้านผมแล้วบอกผมว่า รองเท้าผมเยอะมาก ซึ่งพอผมได้ยินแบบนั้น ผมก็เลยบอกกับน้องเค้าไปว่า ก่อนที่ผมจะมีของพวกนี้ได้ ผมต้องรู้จักบริหารเงินให้เป็น พวกของใช้ต่าง ๆ หรือรถที่เห็นจอดอยู่แต่ละคันมันคือของชิ้นสุดท้ายที่ผมซื้อ เพราะเงินก้อนแรกของผมที่ผมใช้ ผมใช้ไปเพื่อลงทุนอย่างเดียว จากนั้นไม่นานเหมือนกันประมาณสัก 1-2 วัน ผมก็ได้มีโอกาสไปเห็นข้อความที่ผมนำมาโพสต์ในอินสตาแกรมแต่เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ผมนึกได้ว่ามันคล้ายกับสิ่งที่ผมเพิ่งพูดกับน้องไป ผมก็เลยนำมันมาแปลแบบตรง ๆ แต่จู่ ๆ มันก็เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อมีเว็บไซต์อะไรสักอย่างเอาข้อความของผมไปตั้งเป็นพาดหัว เท่านั้นแหละครับ ตื่นเช้าขึ้นมาผมเจอข้อความด่ากราดเละเทะเลย ถามว่าเสียใจไหม เสียใจครับ แต่ก็ได้บทเรียนเยอะเหมือนกันสำหรับประสบการณ์ครั้งนี้ ตัวผมเองไม่มีเจตนาจะดูถูกใคร เพราะปกติผมจะเป็นคนที่แอนตี้พวกคนรวยที่ชอบอวดอยู่แล้วครับ แต่ว่าสาเหตุที่ผมโพสต์รูปข้าวของต่าง ๆ พร้อมกับข้อคิด มันก็เป็นเพราะผมต้องการบอกให้คนที่ติดตามอินสตาแกรมผมได้ฉุกคิดด้วยว่า กว่าที่เราจะได้สิ่งของต่าง ๆ มานั้น มันต้องใช้ความอดทนและความพยายามมากแค่ไหน ผมยืนยันตรงนี้เลยนะครับว่า ผมไม่มีทางลบรูปที่ผมลงแน่นอน 

 

                นอกจากนี้ ดีเจภูมิ ยังกล่าวอีกว่า ทุกข้อความของผมที่ผมคอมเม้นท์ ตอบกลับไปผมก็จะไม่ลบ เพราะผมต้องการโอกาสเคลียร์ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานคนที่ตอนแรกเขาตั้งใจเข้ามาด่า เค้าก็เริ่มเข้าใจเรามากขึ้น เข้าใจแนวความคิดเรามากขึ้น และก็ขอฟอลโลว์เราต่อไป พอมันเป็นแบบนี้ตัวผมเองก็แฮปปี้ครับ ที่เค้าเข้าใจได้ว่าเราไม่ใช่คนเหยียดหยามใครแบบที่ถูกกล่าวหา การโพสต์ถ้าจะให้เปลี่ยนแปลง ก็คงจะเปลี่ยนแปลงไปในเรื่องของการระมัดระวังการใช้คำมากกว่าครับ แต่ในส่วนของแนวทาง หรือวิธีการพูดผมก็จะยังเป็นสไตล์เดิมดิบ ๆ ตรง ๆ เหมือนเดิมครับ

 

 

สำนักข่าว INN