|
นักแสดงหนุ่มคิมนัมกิล (Kim Num Gil) พูดคุยถึงโปรเจ็กต์ใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นกับเพื่อนนักแสดง อีซังยุน (Lee Sang Yun)
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ได้มีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ คิมนัมกิล ที่ได้ไปให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเกี่ยวกับผลงานใหม่ของเขา ซึ่งเป็นซีรีส์สารคดีทางโทรทัศน์ของช่อง MBC ที่จะออกอากาศในปลายเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับสารคดีนี้จะเป็นติดตาม คิมนัมกิล กับเรื่องราวการเดินทางไปตามท้องถนนที่สวยงามในเกาหลีด้วยมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ที่จะทำให้เราได้เห็นชีวิตหลายรูปแบบของคนเกาหลี
การเดินทางในครั้งนี้ คิมนัมกิล ได้ อีซังยุน ที่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนกันมาเป็นเพื่อนร่วมทางด้วย
ในระหว่างการสัมภาษณ์ คิมนัมกิลเปิดเผยว่าเขาเป็นคนที่แนะนำ อีซังยุน ให้มาร่วมการเดินทางในครั้งนี้เอง
“เมื่อพวกเขาถามว่าผมอยากเดินทางไปกับใคร ความคิดของผมก็มุ่งตรงไปที่ อีซังยุน ทันทีครับ เราสนิทกันมากขึ้นเมื่อได้แสดงร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง 'OK! Madam' นอกจากนี้ อย่างที่ทุกคนทราบ เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลด้วยครับ” นักแสดงหนุ่มพูดติดตลกเป็นนัยว่า อีซังยุน จะเป็นประโยชน์กับทริปนี้เพราะเขาสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาหลีใต้ได้
จากนั้นเขาก็เปิดเผยเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเขาถึงแนะนำ อีซังยุน ให้มาเป็นเพื่อนของเขาในสารคดีนี้
“ผมแนะนำเขาเพราะเขาเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายครับ อีซังยุน เป็นคนใจดี เข้ากับคนง่าย และเป็นคนที่ยอมรับผู้อื่น เขาเป็นคนที่เป็นผู้ใหญ่มากครับ” คิมนัมกิล กล่าว
ต่อมา นักแสดงหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่าไอเดียสำหรับซีรีส์สารคดีทางโทรทัศน์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในตอนแรก
“มันเริ่มขึ้นระหว่างการสนทนากับโปรดิวเซอร์คิมจินมัน (Kim Jin Man) ครับ” เขากล่าว
สำหรับ คิมจินมัน เคยกำกับสารคดีของ MBC เรื่อง 'Tears of the Amazon' และ คิมนัมกิล ก็ได้มาบรรยายบางตอนของสารคดีนี้
“เราพบกันและเริ่มพูดคุยกันว่าสภาพอากาศอันเลวร้ายและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันทำให้เราสงสัยว่าเราควรใช้ชีวิตอยู่อย่างไรครับ”
“การสนทนาทำให้เราได้แนวคิดว่าเราควรเดินทางไปตามท้องถนนและสอบถามผู้คนที่เราพบระหว่างทางว่าพวกเขารับรู้และรับมือกับโลกนี้ได้อย่างไรครับ” เขากล่าวต่อ
“แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เสนอวิธีการแก้ปัญหาจริง ๆ แต่เราคิดว่าการบันทึกการสนทนาเหล่านั้นจะเป็นโครงการที่มีความหมาย และทำให้ผู้ชมคิดว่าพวกเขาควรใช้ชีวิตอย่างไรในโลกปัจจุบันครับ”
“สารคดีเราได้นำเสนอเรื่องราวของคนธรรมดา ไม่ใช่คนพิเศษครับ” คิมนัมกิล กล่าว “เมื่อเริ่มโปรเจกต์นี้ เราอยากได้ยินเรื่องราวของผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างขยันขันแข็งในชีวิตประจำวันครับ”